"เกย์"คือช้างชนช้าง เหนือกว่าเท้าหน้าและเท้าหลัง

 

"ในสังคมที่ชายเป็นช้างเท้าหน้า หญิงเป็นช้างเท้าหลัง

แต่ชายรักชาย คือ "ช้างชนช้าง" ช้างผู้มีทั้งเท้าหน้าและเท้าหลัง 

และมี "งวงช้าง" เอาไว้ฟาดฟัน แข่งขัน ทำมาหากิน ต่อสู้ ร่วมมือ ร่วมรัก

และสร้างครอบครัวที่เหนือกว่าชายจริงหญิงแท้"

 

 

คุณรู้หรือไม่ว่า ?

"เกย์" โดยเฉลี่ยหน้าตาดีกว่าผู้ชายแท้ๆถึง80เท่า
"เกย์" มีความละเอียดอ่อน รักสวยรักงาม และแม่นยำมากกว่าผู้หญิง

"เกย์" มีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ

"เกย์" สามารถมีกิจกรรมทางเพศหลากหลายมากกว่าคุณชายแท้ๆ

"เกย์" มีท่วงท่าลีลาเซ็กส์ที่เร้าใจและเก่งกว่าชายแท้ๆ

"เกย์" โดยเฉลี่ยหุ่นจะดีกว่าชายแท้ๆ
"เกย์" โดยเฉลี่ยผิวพรรณดีกว่าผู้หญิง
"เกย์" จะคบได้สนิทใจมากกว่าเพื่อนหญิงแท้ๆซะอีก
"เกย์" เข้าหาสังคมได้เก่งมากๆ
"เกย์" หาเงินเก่งมากที่สุด มากกว่าชายหญิงแท้ซะอีก
"เกย์" แรงและพละกำลังเยอะกว่าผู้ชายแท้ๆบางคนซะด้วยซ้ำ
"เกย์" มีพรสวรรค์ในการพูดคุยเจรจาสื่อสารต่างๆและเก่งภาษาดีมาก
"เกย์" มีความมุ่งมั่นตั้งใจและพัฒนาตัวเองมาก
"เกย์" จัดการงานบ้าน(ครอบครัว)ได้ดีกว่าคู่รักต่างเพศ (ผลวิจัยของUSA)

"เกย์" มีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน 

 

 

เกย์เกิดขึ้นได้อย่างไร 

"เกย์ เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตรรกะ ความคิด ความรู้สึก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เกย์โดยที่สุดของที่สุดแล้ว คือ ผู้ชายที่มีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน ไม่ได้ชอบเพศหญิง ขอย้ำว่า ไม่ชอบผู้หญิง

 

เกย์ไม่ใช่ไบ bisexual คำว่า ไบ หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า เสือไบ คือตรรกะที่คิดว่า หญิงก็ได้ชายก็ดี แบบนี้ไม่ถือว่าเป็นเกย์โดยสภาพสมบูรณ์ แต่ถ้าถามว่า ไบ (หลายๆคน)จะมีแนวโน้มเปลี่ยนเป็นเกย์โดยสมบูรณ์ได้หรือไม่ คำตอบจริงๆก็คือ แน่นอน!!"

 

 

ทำไมถึงเป็นเกย์ 

" การที่ผู้ชายๆที่ไม่ใช่กะเทยนี่แหล่ะ จะมีรสนิยมความชื่นชอบในเพศเดียวกันได้เนี่ย ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และที่มาก็มีหลายปัจจัย ทั้งตัวของเขาเอง สภาพแวดล้อม ความคิด การอ่าน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่เขาจะเป็นเกย์ โดยสรุปทั้งหมดแล้วขึ้นอยู่กับ "ความพึงพอใจ"นั้นเอง

 

 

ทำไมต้องชอบผู้ชาย 

"สืบเนื่องมาจากความพึงพอใจของผู้ชายคนๆนึง ที่มีรสนิยมในตัวผู้ชาย มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่สภาพจิตใจของผู้ชายจะมานิยมชมชอบผู้ชายด้วยกันได้ แต่ทำไมเป็นไปได้ นั่นก็เพราะว่า ผู้ชายที่ชอบผู้ชายเขาเห็นคุณค่าของผู้ชายด้วยกันเอง นั่นเอง

คำว่า "คุณค่า" ในที่นี้คือ ความรัก ความชอบ ความเสน่ห์หา ดูแล้วมีราคา น่าคบหา น่าไขว่คว้ามาเคียงกาย เหมาะเป็นคู่รัก เป็นครอบครัว คู่ชีวิต คู่ร่วมหลับนอน เพื่อนมิตรสนิทใจ คนที่รู้ใจ คนที่เรารัก ฯลฯ

 

 

เกย์สามารถทำหน้าที่บทบาทความเป็นสามีและภรรยาในคนๆเดียวกัน


"เกย์จะต้องเป็นทั้งผู้รุกและผู้รับ นั่นหมายความว่า ผู้ชายที่เป็นเกย์ สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งการเป็นผู้ชาย(ฝ่ายรุก) และการเสมือนเป็นผู้หญิง(ฝ่ายรับ) นั่นหมายความว่า การที่ผู้ชายโดยปกติแล้วคือการเป็นฝ่ายรุกโดยกำเนิด คนเป็นเกย์จึงลองเพิ่มเติมบทบาทของการเป็นเมียเพิ่มเติมด้วย 

และสิ่งเหล่านี้คือของแท้ๆ เกย์ในบทบาทของสามี จะทำหน้าที่ได้อย่างปกติตามธรรมชาติที่ให้มาได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะเดียวกัน เกย์ก็ทำบทบาทหน้าที่ของเมียได้อย่างสมบูรณ์เช่นเดียวกัน ทำไมถึงสมบูรณ์ได้ เพราะว่าเมื่อเกย์(ฝ่ายรับ)ถูกสอดใส่จากฝ่ายรุก ความรู้สึกทางเพศ อารมณ์ ความผูกพันธ์ ไม่ได้แตกต่างอะไรจากผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย 

และเมื่อการที่เกย์สามารถเป็นได้ทั้งรุกและรับในคนๆเดียวกัน จึงส่งผลให้เกย์ รู้จักการเป็นผู้นำ และการเป็นผู้ให้ ได้อย่างชัดเจนที่สุดในบรรดาความสัมพันธ์ของคู่รักโดยแท้จริง  

ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับหญิงรักหญิงเพราะว่า ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ใครเป็นผัวใครเป็นเมีย เพราะมันจะต้องมีอีกฝ่ายที่ใช้สิ่งของเทียม มันจึงไม่สมบูรณ์100% หรือแม้กระทั่งคู่สามีภรรยาธรรมดาๆ ก็มีหน้าที่ในด้านเดียวคือ ฝ่ายสามีเป็นผู้รุก(สอดใส่) ฝ่ายเมีย เป็นผู้รับ(ถูกสอดใส่) นั่นเอง"

 

 

 

เกย์คือผู้เปลี่ยนค่านิยมจากหน้าที่ของความผู้ชาย(แท้) นำไปสู่ทางเลือกที่ดีกว่า

"การเป็นสามีที่ต้องกระทำต่อภรรยา สังคมมันกำหนดให้มากเกินไป แต่เกย์ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น การที่เกย์ไม่ชอบผู้หญิง ไม่ใช่คือการรังเกียจ แต่เป็นการไม่จำเป็นต้องปฎิบัติหน้าที่ดูแล เทคแคร์ผู้หญิงเลย เพราะว่าผู้หญิงไม่ใช่คู่ชีวิตของเกย์ เกย์จึงมีความคล่องตัวสบายและไม่ต้องมีภาระให้ต้องกระทำตามที่สังคมกำหนดเอาไว้เลย 
และเกย์ก็คือผู้ที่สามารถมีคู่รักและครอบครัวกับเกย์ได้อย่างเท่าเทียมกันโดยแท้จริง มีสังคมไหนบ้างบอกว่า เกย์ฝ่ายหนึ่งจะได้เทคแคร์ดูแลและให้เกียรติอีกฝ่าย หรือ มีสังคมไหนบอกว่า เกย์ฝ่ายหนึ่ง จะต้องมอบสินสอด ของหมั้นให้เกย์อีกฝ่ายหนึ่ง มันไม่มีในสังคม ดังนั้นการที่เกย์คบกัน ในความรักของคน2คน จึงเป็นความเสมอภาคที่แท้จริงมากว่าคู่ชายหญิงแท้ๆซะอีก เพราะไม่ต้องมาเล่นละครตามสังคมที่กำหนดให้ เกย์จึงมีความอิสระต่อการมีคู่รัก ความเครียดความกดดัน เกย์จึงแทบจะไม่มีเลย ถ้าหากว่าไม่พอใจหรือไปต่อกันไม่ได้ ก็เลิกกันไป เพราะไม่มีความกดดันว่าอีกฝ่ายจะต้องมาดูแลส่งเสียเลี้ยงดูอีกฝ่ายนะให้มันผูกพันธ์เป็นเวรเป็นกรรมต่อกันทำไม จบแล้วก็คือจบจริงๆ ไม่ต้องมีภาระติดพันใดๆ"

 

 

เกย์คือช้างชนช้าง เหมาะสมทั้งชื่อและบทบาทที่เหนือกว่า

 

"ในสังคมที่ชายเป็นช้างเท้าหน้า หญิงเป็นช้างเท้าหลัง

แต่ชายรักชาย คือ "ช้างชนช้าง" ช้างผู้มีทั้งเท้าหน้าและเท้าหลัง มีงาช้าง

และมี "งวงช้าง" เอาไว้ฟาดฟัน แข่งขัน ทำมาหากิน ต่อสู้ ร่วมมือ ร่วมรัก

และสร้างครอบครัวที่เหนือกว่าชายจริงหญิงแท้"

 

 

เพราะด้วยความที่เกย์สามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง

ความรักที่เหนือกว่า  หน้าที่การงานที่ดี หน้าตาอยู่ในระดับดีถึงดีมากๆ  

การเงินที่หาได้เก่งมากๆ รวมถึงการสร้างครอบครัวที่ดี เพราะว่ามีคู่เกย์ที่ประสบความสำเร็จสามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบโตเป็นคนดีของสังคมได้ดีกว่าชายหรือหญิงที่บางครอบครัวสอนลูกกลายเป็นโจร

 

 

 

ด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เคยหยุด อนาคตอันใกล้มดลูกเทียมจะกลายเป็นตัวเติมเต็ม สร้างครอบครัวและอนาคตของคู่รักเกย์ที่สร้างครอบครัวได้แบบสมบูรณ์