7 ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุล
หนึ่งในคำถามหลักที่คุณมักต้องเผชิญหลังจากที่แต่งงานคือ “คุณจะเปลี่ยนนามสกุลไหม?” แม้ว่าคุณเลือกที่จะเก็บนามสกุลเดิมไว้ แต่คุณก็ยังต้องตัดสินใจเรื่องการระบุตัวตนของตัวเองอยู่ดี อันที่จริงนี่เป็นปัญหาส่วนตัวและไม่มีใครสามารถตัดสินใจแทนคุณได้ หากคุณเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของคนรักก็เยี่ยมเลย! หรือถ้าเลือกใช้นามสกุลก่อนแต่งงานของตัวเองก็เป็นเรื่องดีสำหรับคุณ! จะว่าไปทางเลือกไหนที่คุณรู้สึกว่าเหมาะกับตัวเองก็จงทำไปเถอะ และนี่คือ 7 ข้อที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนนามสกุลดีหรือไม่
สำหรับผู้ที่ต้องเลือกระหว่างนามสกุลเดิมของตัวเองกับนามสกุลของคนรัก นี่คือทางเลือกของคุณ
- ใช้นามสกุลเดิมก่อนแต่งงาน
- เปลี่ยนไปใช้นามสกุลของคนรัก
- เปลี่ยนไปใช้นามสกุลของคนรักและใช้นามสกุลเดิมเป็นชื่อกลาง
- นำนามสกุลเดิมมาเชื่อมกับนามสกุลของคนรัก
- ผสมทั้งสองนามสกุลเข้าด้วยกันและสร้างเป็นนามสกุลใหม่ (เช่น “รูเธอร์ฟอร์ด” กับ “มอร์ริสัน” กลายเป็น “มอร์ริสฟอร์ด” หรือ “รูเธอร์สัน” หรือ มาร์รุธิเซอร์สันฟอร์ด” เห็นไหมว่าเลิศหรูจะตาย)
- เปลี่ยนนามสกุลใหม่ไปเลย
2. ความหมายดี ไพเราะ
เหตุผลข้อนี้อาจจะตื้นเขินไปนิดแต่คนส่วนใหญ่มักต้องการนามสกุลที่ฟังดูไพเราะ ความหมายดี หากคุณไม่ชอบนามสกุลเดิมของตัวเองและชอบนามสกุลของคนรักก็มีเหตุผลแล้วที่จะเปลี่ยนนามสกุล แต่ในทางกลับกันถ้าคุณชอบนามสกุลเดิมของตัวเองและคิดว่านามสกุลของคนรักฟังดูแปลกๆก็ควรใช้นามสกุลเดิมนะ นอกจากนี้คุณยังสามารถเชื่อมนามสกุลหรือผสมกันก็ได้
3. เหตุผลส่วนตัว
คุณอยู่ในอาชีพที่ต้องอาศัยความมีชื่อเสียงของนามสกุลหรือไม่? หากนามสกุลเดิมของคุณเป็นที่รู้จักในวงสังคม การเปลี่ยนนามสกุลก็อาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานได้ คุณจะสูญเสียกลุ่มผู้ติดตามผลงานหรือทำให้ลูกค้าในอนาคตสับสนหรือไม่หากคุณต้องเปลี่ยนนามสกุล? หากเป็นเช่นนั้นคุณควรใช้นามสกุลเดิมก่อนแต่งงานหรือเก็บไว้เป็นชื่อกลางหรือเชื่อมนามสกุลต่อกัน
4. ความเหมาะสมเมื่อนำไปใช้จริง
ถามตัวเองสิว่าการเปลี่ยนนามสกุลจะทำให้เกิดการสับสนหรือไม่? หรือลำบากไหม? เนื่องจากมีปัญหาไม่น้อยที่จะตามมาหากคุณมีนามสกุลต่อกันยาวเฟื้อย (เช่น ระบบคอมพิวเตอร์อาจสับสน หรือการสะกดชื่อนามสกุลของตัวเองให้คนอื่นฟังก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดใจเหลือเกิน)
5. ขั้นตอนการเปลี่ยนนามสกุล
คุณควรตรวจสอบก่อนว่านามสกุลที่คุณต้องการเปลี่ยนไปใช้ได้รับการอนุญาตให้บันทึกลงในทะเบียนสมรสหรือเปล่า เนื่องจากในบางรัฐมีกฎระเบียบในการเปลี่ยนนามสกุลแตกต่างกัน เช่น บางรัฐไม่อนุญาตให้ฝ่ายชายเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของฝ่ายภรรยา อย่างไรก็ตามคุณควรพิจารณาให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ
6. วางแผนเผื่อลูกๆในอนาคต
โดยปกติลูกๆจะต้องใช้นามสกุลของพ่อแต่พวกเขาก็ยังมีทางเลือกอื่น เช่น การเชื่อมนามสกุลกันหรือใช้นามสกุลของแม่ คุณควรคิดให้ดีว่าจะให้ลูกๆใช้นามสกุลของใคร หรือคุณกับคนรักจะรู้สึกแปลกๆไหมถ้าลูกใช้นามสกุลต่างจากคุณ? แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหนก็ควรตัดสินใจให้เด็ดขาดเพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง
7. ถามตัวเองว่านามสกุลนี้มีความหมายกับคุณไหม?
ไม่ว่าจะเลือกใช้นามสกุลเดิมหรือเปลี่ยนไปใช้นามสกุลใหม่ก็เป็นการตัดสินใจของคุณเพียงคนเดียว ไม่มีใครสามารถตัดสินใจเรื่องนี้แทนคุณได้ สำหรับบางคนมองว่าการได้รับสืบทอดนามสกุลจากพ่อแม่คือความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งและบ่งบอกถึงรากเหง้าในอดีตของตัวเอง แต่บางคนอาจคิดไม่เหมือนกันและคิดว่าเปลี่ยนใหม่เลยน่าจะดีกว่า
ฉันตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุลก็เพราะฉันต้องการให้นามสกุลเป็นตัวสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในชีวิตของฉัน รวมถึงครอบครัวใหม่ที่ฉันกับสามีช่วยกันสร้างขึ้นมาด้วย ขณะที่ผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกว่าการใช้นามสกุลเดิมคือการรักษาสายสัมพันธ์กับครอบครัวหรือแม้แต่เพื่อสืบทอดวงศ์สกุลของตัวเอง อย่างไรก็ตามกุญแจสำคัญคือเราควรคิดไตร่ตรองให้ดีและถี่ถ้วนว่านามสกุลมีความหมายอะไรกับคุณหรือต้องการให้มีความหมายอย่างไรในอนาคต โปรดใช้สัญชาตญาณของตัวเอง อย่าลืมว่าไม่มีใครมีสิทธิที่จะตัดสินคุณได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวคุณเองเท่านั้น
Blogger : Lara Rutherford-Morrison
Source : bustle.com