“ตรงต่อเวลา” นิสัยแบบญี่ปุ่นที่เป็นคีย์ความสำเร็จ
ในการทำงาน ทุกตำแหน่งงาน ทุกสาขาอาชีพ มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องของการตรงต่อเวลาเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับการทำงานในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคนญี่ปุ่นในเวลาของการทำงาน เรื่องเวลาเป็นเรื่องที่พวกเขาให้ความสำคัญมากที่สุด ซึ่งก็ต่างจากเมืองไทยเราที่ตอนนี้เรื่องเวลาก็กลับกลายเป็นเรื่องเล็กๆไปแล้ว ผิดนัดกันบ่อยขึ้น ต้องรอ หรือว่าต้องช้าออกไปอีก ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีนักในเรื่องของการตรงต่อเวลา
คนไทยที่คิดจะเดินทางไปหางานทำที่ญี่ปุ่นขอบอกเลยว่าจะต้องปรับปรุงตัวเองในเรื่องของเวลาเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าชาติญี่ปุ่นนั้นเป็นชาติที่ให้ความสำคัญมากในเรื่องของเวลาอย่างเช่น
- เวลาที่รถออกจากสถานี หรือว่ารถไฟออกจากสถานี เชื่อว่าที่นั่นจะไม่มีการรอผู้โดยสารเหมือนย่างเมืองไทยแน่นอน ทุกรอบของการเดินทาง จะออกตรงเวลาทุกเที่ยวโดยเฉพาะรถไฟของญี่ปุ่นซึ่งถ้าไม่ทันจริงๆก็คงต้องรอรอบต่อไปที่ออกจากสถานีนั่นเอง ทุกอย่างจะเป็นไปตามเวลาที่วางไว้
- เวลาในการทำงาน เข้างาน เลิกงาน ทุกอย่างจะมีเวลาจำกัดอยู่แล้ว ซึ่งเชื่อว่าทุกคนจะต้องปรับตัวเมื่อเข้าไปหางานทำที่ญี่ปุ่น ไม่มีเข้างานสาย หรือว่าเลิกงานก่อนเวลาอย่างแน่นอน
- การนัดพบ นัดหมาย ประชุม ซึ่งเป็นการพบปะทั้งแบบไม่เป็นทางการและแบบเป็นทางการ คนญี่ปุ่นทุกคนจะให้ความสำคัญมาก ถือว่าเป็นการให้เกียรติ ดังนั้นการจ้างงานนายจ้างของญี่ปุ่นก็จะต้องมองตรงนี้ด้วยเหมือนกันว่ามีความรับผิดชอบหรือว่ามีความตรงต่อเวลามากขนาดไหน โดยเฉพาะการนัดหมายเรื่องเวลางานแบบเป็นทางการ ก็ไม่ควรจะสายแม้แต่ 5 นาที
อยากหางานที่ญี่ปุ่นต้องใส่ใจและเคร่งครัดในเรื่องเวลาของตัวเองด้วย รวมไปถึงการบริหารเวลาในแต่ละวันของการดำเนินชีวิต เพราะถ้าพลาดไปเพียงชั่วโมงเดียวคุณอาจจะบริหารเวลาได้ผิดพลาดไป ซึ่งถือว่าเป็นความรับผิดชอบต่อตัวเองอย่างหนึ่งที่เรานั้นควรมี
จุดอ่อนของคนไทยมักจะไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องของเวลามากเท่าไหร่นัก เพราะถือว่ายังสามารถอนุโลมหรือว่าให้อภัยกันได้ ความจริงแล้วโทษของการไม่ตรงต่อเวลาอาจจะส่งผลถึงงานสำคัญ และที่สำคัญคือมันส่งผลต่อนิสัยตัวเองทำให้กลายเป็นคนที่ไม่รับผิดชอบในเรื่องของเวลา อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นในเรื่องของการตรงต่อเวลา สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะเอาเป็นแบบอย่างที่ดีไว้ ออกเดินทางไปหางานทำที่ญี่ปุ่นเมื่อไหร่ เราก็สามารถดำเนินชีวิตอยู่ที่นั่นได้เลย
ภาพโดย 1.bp.blogspot.com
www.jobsugoi.com
http://blog.jobsugoi.com/
เครดิตภาพ: (Source : http://1.bp.blogspot.com/-sSMQFTZ9lHA/UYeDL_bgzdI/AAAAAAAAAFI/dX-rpfF4JQk/s1600/time.jpg)
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
ตรวจพบมะเร็งลำไส้ระยะที่ 3 จากอาการที่หมอเห็น ทำให้หมอรู้สึกว่า "ละเลยมานานเกินไป!"
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย