3 วิธีแสนง่าย! เปลี่ยนบ้านโทรมเป็นธุรกิจเล็กๆ เพิ่มรายรับเข้ากระเป๋า

บ้านเป็นอะไรได้มากกว่าที่หลับนอน บ้านแต่ละหลังคงเสน่ห์เฉพาะตัว บ้านซุกซ่อนเรื่องราว สะท้อนรสนิยม และเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของเจ้าของ บ้านของแต่ละคนหน้าตาแตกต่างกันออกไป เก่าบ้าง ทรุดโทรมบ้าง หรือใหม่เอี่ยมชนิดที่กลิ่นสียังไม่หายเหม็นก็มี แต่ไม่ว่าบ้านจะมีรูปลักษณ์แบบไหน หากได้ปรับนิดแต่งหน่อย บ้านหลังนี้จะกลายเป็นธุรกิจเล็กๆที่เพิ่มรายได้อีกช่องทางหนึ่งเข้ากระเป๋า

1. ปรับบ้านเปิดบูติโฮเทล

ใครมีความฝันอยากเป็นเจ้าของที่พักขนาดย่อมที่มีไสตล์เฉพาะตัว ความฝันนั้นเริ่มได้จากบ้านของทุกคนเลยคะ ขอแค่แบ่งห้องเล็กๆของบ้านสักหนึ่งห้อง จับห้องเก่าๆมาครีเอทให้ดูเก๋ไก๋ตามความชอบ ถ้าใครงบน้อย ลองหยิบของเก่าในห้องเก็บของมามิกซ์แอนด์แมทก็ประหยัดงบและมีสไตล์ไปอีกแบบ แต่งห้องเสร็จแล้วก็หยิบกล้องมือถือขึ้นมา หามุมสวยๆและกดชัตเตอร์รัวๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนนะคะ เสียเวลาแต่งรูปสักนิดให้สวยกริบ ก่อนจะโพสลงเว็บรวมที่พักอย่าง Airbnb หรือใครอยากสร้าง Page Facebook ของตัวเองก็ไม่ยุ่งยากอะไร

ตัวอย่าง : “White wood house” หัวหิน บ้านพักสีขาวอันแสนอบอุ่น บ้านหลังนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ริมทะเล เป็นบ้านเล็กๆในชุมชนใกล้ตลาด cicada ที่พักขนาดย่อมดำเนินการกันแบบครอบครัว จุดเริ่มต้นของที่พักแห่งนี้เริ่มจากคุณป้าเจ้าของบ้านซึ่งเป็นคนหัวหินดั่งเดิมเนรมิตบ้านเก่าปี 1960 และเปิดให้คนเข้ามาพัก การตกแต่งของบ้านยังคงเอกลักษณ์แบบเดิมไว้ เพียงแค่ทาสีขาวกลบไม้สีนำ้ตาล เพื่อให้บ้านดูใหม่และน่ามองขึ้น การตกแต่งก็เน้นโทนขาวเรียบง่ายทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัด สิ่งนี้เองเป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนให้แวะเวียนมาพักผ่อนหย่อนใจไม่เคยขาด

Website: http://www.whitewoodhousehuahin.com/

2. ปรับบ้านเปิดร้านอาหารแบบครัวเรือน

เชื่อว่านักท่องเที่ยวบางกลุ่มเริ่มเบื่อกับการยืนต่อแถว เสียเวลาเป็นชั่วโมง รอกินอาหารร้านดังที่ต้องรีบสั่ง รีบกิน และรีบลุกเพื่อให้คนที่ยืนรอคิวถัดไปได้เข้ามานั่งกินแทนที่ ช่างเป็นการกินที่ได้สัมผัสแค่รสชาติแต่แทบสัมผัสรื่องราวเบื้องหลังอาหารแต่ละจานที่ตักใส่ปากไม่ได้เลย เพราะเหตุนี้เองคนรักการปรุงอาหารบางคนจึงปิ๊งไอเดียเปิดบ้านตัวเองเป็นร้านอาหารแบบครัวเรือนที่เสริฟอาหารที่ปรุงแบบพิถีพิถัน และถือโอกาสเล่าเรื่องราวพูดคุยกับคนกินเสียเลย

ร้านอาหารแบบครัวเรือนมีข้อดีตรงที่เปิดโอกาสให้คนที่รักการทำอาหารทุกคนไม่ว่าจะทุนน้อยทุนเยอะก็เปิดบ้านเป็นร้านอาหารเฉพาะกิจเล็กๆได้ วันเวลาเปิด-ปิดก็ออกแบบได้ตามใจ ขอแค่แจ้งให้คนกินทราบชัดเจนว่าจะเปิดปิดวันไหนบ้าง ถ้าทำงานประจำจะเปิดแค่วันเสาร์-อาทิตย์ก็ไม่มีใครว่า หรือจะขอให้คนกินจองล่วงหน้าก่อนก็คงไม่ใครบ่น

ตัวอย่าง : “สวนทูนอิน” ของป้าติ๋ม ภรรยาของนักเขียนชื่อดัง รงค์ วงษ์สวรรค์ สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ป้าติ๋มเปิดบ้านให้คนได้มีโอกาสลิ้มรสเมนูโบราณฝีมือของป้า ไม่ว่าจะเป็นม้าฮ่อ แกงส้มเปลือกแตงโม ซี่โครงหมูอบกระหล่ำปลี ปลาตะเพียนทอดน้ำยำ และอีกหลายหลายเมนูที่แค่ได้ยินชื่อก็น้ำลายสอ ระหว่างการกินจะได้พูดคุยกับป้าติ๋มสารพัดสารพันเรื่อง พอกินอาหารคาวจนหนังท้องตึง ป้าติ๋มจะตบท้ายด้วยการชวนเดินย่อยไปเก็บสตอเบอร์รี่ในไร่มาทานกัน ใครอยากทานชิมฝีมือป้าติ๋มต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ให้เวลาป้าในการเตรียมวัตถุดิบ ส่วนราคาต่อหัวก็คิดกันแค่  400 บาทเท่านั้นเอง

Website: https://www.facebook.com/Tune-In-garden

3. ปรับบ้านเปิดคลาสเรียนวันหยุด

ยามว่างหลายคนมีงานอดิเรกที่ทั้งเพลินและผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็น การทำอาหาร ปักผ้า เย็บกระเป๋าหนัง จัดดอกไม้ จัดสวนในขวดโหล งานไม้ และสารพัดสารพันแตกต่างตามความสนใจ เมื่อรักงานอดิเรกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเปิดคลาสสอนงานอดิเรกที่บ้านเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้ทำงานที่รัก ได้รู้จักเพื่อนใหม่และได้ของแถมเป็นเงินก้อนเล็กๆ แต่ก่อนจะเปิดสอนต้องมั่นใจว่าความรู้เราแน่นพอนะคะ ถ้ามั่นใจว่ารู้ลึกรู้จริงก็ถึงเวลาเปิดประตู้บ้านแล้วคะ

ใครที่กังวลว่าจะไม่มีคนลูกศิษย์มาลงเรียนด้วย แนะนำให้ใช้แอพพลิเคชั่นอย่าง with local หรือ take me tour ช่วยคะ แอพลิเคชั่นนี้จะเชื่อมต่อเราเข้ากับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบเรียนรู้ ชอบทำกิจกรรม หากจังหวะดีอาจจับพลัจับพลูได้ลูกค้าต่างชาติก็เป็นไปได้คะ

ตัวอย่าง : “The Thai House” คลาสเรียนทำอาหารไทยแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ก้นครัวในเรือนไทยกลางสวนของคุณแม่พิพซึ่งมีฝีมือปลายจวักบวกกับหลงรักการทำอาหาร จากความชอบคุณแม่ได้เปิดบ้านสอนทำอาหารชาวต่างชาติ โดยอธิบายขั้นตอนการทำเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนวัตถุดิบก็เก็บจากสวนครัวที่ปลูกไว้รอบบ้าน ตอนนี้ the thai house ได้ขยับขยายเปิดบ้านพักต้อนรับนักท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วยกัน

บ้านที่เราอาศัยกัน อยู่ไปนานวันก็เริ่มโทรมตามกาลเวลา ถ้าเราปรับแต่งสักหน่อย เริ่มเปลี่ยนจากสิ่งเล็กๆใช้เงินไม่เยอะ อาจทาสี แต่งสวน ย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือทำมุมนั่งเล่น นานๆปรับบ้านสักทีนึงก็เพิ่มชีวิตชีวาให้กับคนอยู่อาศัยไปอีกแบบหนึ่ง หรือใครจะถือโอกาสปรับบ้านและเริ่มธุรกิจขนาดกะรัดทัดอันอบอุ่นเลยไปพร้อมกันเลยก็เป็นเรื่องน่ายินดี