หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ฮาจิหมายอดกตัญญู!!! แม้เจ้าของตายแล้วกว่า 10 ปี ก็ยังรอจนตัวตาย!!!

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

 

อิ

ฮะชิโก (ญี่ปุ่น: ハチ公 Hachikō ?) (10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466 – 8 มีนาคม พ.ศ. 2478) เป็นสุนัขที่เป็นที่รู้จักในนามของ “สุนัขยอดกตัญญู ฮะชิโก” (忠犬) เป็นสุนัขสายพันธุ์อะกิตะ ฮะชินั้นเป็นสัญลักษณ์ถึงความจงรักภักดีอันน่าทึ่ง

อิ

ฮาจิเป็นตัวอย่างของความจงรักภักดีและกตัญญู

จากการที่มันเฝ้ารอเจ้า นายของมันเป็นเวลาหลายปี แม้ว่าเจ้านายของมันจะเสียชีวิตไปแล้ว ในปัจจุบันฮะชิเป็นสัญลักษณ์ของความสัตย์ซื่อ หนุ่มสาวญี่ปุ่นจะไปสัญญารักต่อกันหน้ารูปหล่อของฮะชิโกที่สถานีรถไฟดัง กล่าว
ในปี ค.ศ. 1924 ฮิเดะซะบุโร อุเอะโนะ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการเกษตรกรรมแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ได้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อะกิตะอินุ ไว้ และตั้งชื่อให้ว่า “ฮะชิ” ซึ่งในตอนเย็นของทุกวัน ฮะชิจะไปรอเขาใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟชิบุยะ เป็นเช่นนี้อยู่ทุกวันจนกระทั่งในวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1925 ศาสตราจารย์อุเอะโนะได้เสียชีวิตจากภาวะเลือดออกในสมอง ทำให้ในวันนั้นเจ้านายของฮะชิไม่ได้กลับไปที่สถานีรถไฟ ถึงกระนั้นในทุก ๆ วัน ฮะชิก็ยังคงมารอเจ้านายของมันที่สถานีชิบุยะ
Image.aspx

ฮาจิและศาสตราจารย์อุเอโนะ (ภาพจาก : http://dogsmakeeverythingbetter.com/tag/hidesaburo-ueno/)

ตลอด ช่วงเวลานั้น ฮะชิโกะกลายเป็นที่สะดุดตาของคนที่สัญจรไปมา หลายคนในสถานีรถไฟนั้นล้วนเคยเห็นฮะชิโกกับเจ้านายของเขาในแต่ละวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ในสถานีรถไฟบางคนก็ไม่ได้เป็นมิตรต่อเจ้าฮะชิโกมากนัก อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 1932 ภายหลังจากที่มีคนเขียนบทความเกี่ยวกับเจ้าฮะชิโกและเจ้านายของเขาลงใน หนังสือพิมพ์อะซะฮิ ก็เริ่มมีผู้คนจำนวนหนึ่งที่นำขนมและอาหารไปให้แก่เจ้าฮะชิโก ซึ่งหากรวมระยะเวลาทั้งหมดแล้ว เป็นเวลากว่า 9 ปีภายหลังการเสียชีวิตของศาสตราจารย์อุเอะโนะ ที่เจ้าฮะชิโกได้มาเฝ้ารอการกลับมาของเจ้านายทุกวัน
ค.ศ. 1932 นักศึกษาคนหนึ่งในอุเอโนะ (ที่เชี่ยวชาญในการผสมพันธุ์สุนัขอะกิตะ) เห็นฮะชิที่สถานีและตามเขาไปในบ้านโคะบะยะชิ (บ้านของอดีตคนสวนของศาสตราจารย์อุเอะโนะ – โคะบะยะชิ คิกุซะโบะโระ) ทำให้เขาได้ทราบถึงประวัติของฮะชิโก ไม่นานหลังจากนั้น นักศึกษาได้เผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับประชากรสุนัขอะกิตะในญี่ปุ่น ซึ่งในงานวิจัยของเขาพบว่ามีสุนัขอะกิตะพันธุ์แท้เพียง 30 ตัวที่เหลืออยู่ ซึ่งเจ้าฮะชิโกเป็นหนึ่งในนั้น

เขากลับไปเยี่ยมฮะชิโกบ่อยขึ้น และในปีที่เขาตีพิมพ์บทความหลายเรื่องเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่น่าทึ่งของ ฮะชิโกในปี 1932 หนึ่งในบทความเหล่านี้ถูกตีพิมพ์ในโตเกียว โดยหนังสือพิมพ์อะซะฮิชิมบุง ซึ่งทำให้ฮะชิเป็นที่สนใจขึ้นมาทันทีจากทั้งประเทศ เรื่องราวของฮะชิโกกลายเป็นเรื่องโด่งดังระดับชาติ ความสัตย์ซื่อและความทรงจำของเจ้านายของมัน เป็นที่ประทับใจของชาวญี่ปุ่นจากจิตใจที่เปี่ยมด้วยความจงรักภักดี ครูและผู้ปกครองจำนวนมากได้เล่าเรื่องนี้แก่ลูกหลานเพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับ เด็กที่ควรจะปฏิบัติตาม ในด้านของความจงรักภักดีและรู้คุณ

ในที่สุดความซื่อสัตย์และตำนานของฮะชิโกกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติในด้านความจงรักภักดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคจักรวรรดินิยม ที่ผู้คนจงรักภักดีต่ออย่างสุดซึ่งต่อองค์จักรพรรดิ

ฮะชิโกตายลงในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ 1935 บริเวณถนนในชิบุยะซึ่งหลังจากฮะชิโกตาย ร่างของมันได้ถูกรักษาไว้ ต่อมาในปี ค.ศ. 2011 ร่างของฮะชิโกถูกชันสูตรที่มหาวิทยาลัยโตเกียวเกี่ยวกับสาเหตุการตาย ซึ่งพบว่ามีพยาธิที่ตับและหัวใจ และมีปัญหาที่ระบบทางเดินอาหารเ

(ภาพจาก : wikipedia.com)

ฮะชิโกตายลงในวันที่ 8 มีนาคม คภาพในวันที่ฮาจิตายค.ศ 1935 บริเวณถนนในชิบุยะ ซึ่งหลังจากฮะชิโกตาย ร่างของมันได้ถูกรักษาไว้ ต่อมาในปี ค.ศ. 2011 ร่างของฮะชิโกถูกชันสูตรที่มหาวิทยาลัยโตเกียวเกี่ยวกับสาเหตุการตาย ซึ่งพบว่ามีพยาธิที่ตับและหัวใจ และมีปัญหาที่ระบบทางเดินอาหาร

fh

ร่างของฮาจิที่ถูกสตัฟฟ์ไว้ในพิพิธภัณฑ์ (ภาพโดย log in : หวานข้าวใหม่ จากเว็บไซต์ pantip.com

ป้ายอนุสรณ์ของฮะชิโก ตั้งอยู่ข้างหลุมศพของศาสตราจารย์อุเอะโนะ
ในปัจจุบันร่างของฮะชิโกถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่น ป้ายอนุสรณ์ของฮะชิโกตั้งอยู่ในสุสานอะโอะยะมะ ในมินะโตะกุ ของกรุงโตเกียว นอกจากนี้ ยังมีอนุสาวรีย์อยู่ที่หน้าสถานีรถไฟชิบุยะ ซึ่งเป็นจุดที่ฮะชิโกนั่งรอเจ้านาย

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (4/5 จาก 10 คน)
VOTED: Ployza, GIN, ส้มจี๊ด, Kwang Rattinan, ตี๋ หิด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เบื้องหลัง "หัวปากกา" ชิ้นจิ๋ว ความยากระดับสร้างยานอวกาศ ที่มหาอำนาจหลายชาติยังยอมแพ้เปิดตำนาน "ไซยาไนด์": จากความบังเอิญทางศิลปะ สู่สารพิษพลิกประวัติศาสตร์โลกกำเนิด "ละอออุทิศ" และความหมายแห่งดอกบัวชมพู: ตำนานโรงเรียนอนุบาลแห่งแรกของรัฐแฟนๆ เตรียมจิกหมอน "ตั๊ก นภัสรัญชน์ – หนุ่ม สุรวุฑ" ประชันเคมีฟุ้งทะลุจอ !“ปิดตำนาน ‘แท็กซี่ลวงโลก’ สมพงศ์ เลือดทหาร10 อันดับหนังที่คนไทยค้นหามากที่สุดบน Google ปี 2568 ปรากฏการณ์ 'ธี่หยด' เขย่าวงการผู้เชี่ยวชาญเตือนผู้บริโภค หลังพบเสื้อผ้าราคาถูก มีสารก่อมะเร็งตรวจสอบด่วน! ชุดนักกีฬาซีเกมส์กัมพูชา ติดโฆษณากาสิโนดังกลางงานเชิญธงนทท.สูบบุหรี่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แม้เจ้าหน้าที่จะเตือนก็ไม่ฟัง สุดท้ายวาฬเบลูกาจัดให้!!กาชาดออนไลน์ สวนลุมพินี มีอะไรเด็ดกว่าที่คิดด่วน! กพท. ออกประกาศฉบับที่ 12/2568 “ห้ามบินโดรน” ทุกประเภท ในพื้นที่เสี่ยงกระทบความมั่นคง ช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาปะทุเดือดยุโรปเรียกร้องให้ไทยและกัมพูชากลับมาบรรลุข้อตกลงสันติภาพ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นทท.สูบบุหรี่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ แม้เจ้าหน้าที่จะเตือนก็ไม่ฟัง สุดท้ายวาฬเบลูกาจัดให้!!กาชาดออนไลน์ สวนลุมพินี มีอะไรเด็ดกว่าที่คิดZyklon B: สารพิษไซยาไนด์ในโศกนาฏกรรมโฮโลคอสต์และการรับมือภัยพิษแฟนๆ เตรียมจิกหมอน "ตั๊ก นภัสรัญชน์ – หนุ่ม สุรวุฑ" ประชันเคมีฟุ้งทะลุจอ !กองทัพเรือไม่ทนอีกต่อไป! ขับไล่ทหารกัมพูชาพ้นแผ่นดินไทย หลังรุกล้ำชายแดนตราดซ้ำซาก”
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
Zyklon B: สารพิษไซยาไนด์ในโศกนาฏกรรมโฮโลคอสต์และการรับมือภัยพิษที่เขาว่ากันว่าเนื้อนกโดโด้รสชาติแย่จริงไหม? งานวิจัยบอกว่า…อาจจะไม่ใช่หรอกนะ....เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับนักรบอัศวินกับชุดเกราะอัศวินแสงจากดาวที่เราเห็นกันทุกคืน..จริงๆ แล้วมันคือแสงที่มาจากอดีต
ตั้งกระทู้ใหม่