UNESCO ประกาศ “มรดกโลก” 27 แห่งใหม่ของโลก 2016 มีเอเชียเพียบ
คณะกรรมการมรดกโลกของ องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้บรรจุสถานที่แห่งใหม่ 24 แห่งเข้าสู่บัญชีมรดกโลก และขยายพื้นที่เพิ่มเติมอีก 3 แห่ง โดยมีการจัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 39 ณ กรุงบอนน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 8 กรกฎาคม 2558
ในการจัดประชุมครั้งนี้ ได้มีการประกาศรายชื่อ “มรดกโลก” แห่งใหม่ จำนวน 27 แห่ง โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท โดยแบ่งตามทางวัฒนธรรม ทางธรรมชาติ และแบบผสม ได้แก่
- มรดกโลกทางวัฒนธรรม 24 แห่ง
- มรดกโลกทางธรรมชาติ 2 แห่ง
- มรดกโลกแบบผสม 1 แห่ง ดังนี้
ซึ่งทำให้ในปัจจุบันสถานที่ที่เป็นมรดกโลกของยูเนสโกนั้น มีทั้งสิ้น 1,031 แห่ง หรือ 163 ประเทศแล้ว โดยก่อนหน้านี้องค์การยูเนสโกได้บรรจุสถานที่ที่เป็นมรดกโลก 23 แห่ง และได้มีการขยายพื้นที่ของมรดกโลกที่มีอยู่เดิมอีก 3 แห่งด้วย ดังนี้
Aqueduct of Padre Tembleque Hydraulic System (เม็กซิโก)
ระบบการส่งน้ำนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงภาคกลางของเม็กซิโก แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของประเพณีในยุโรป ผสมผสานกับเทคนิคการก่อสร้างแบบดั้งเดิม
Arab-Norman Palermo and the Cathedral Churches of Cefalú and Monreale (อิตาลี)
อาหรับปาแลร์โมนอร์แมนและคริสตจักรมหาวิหารของเซฟาลูและมอนเรล เป็นสิ่งที่สืบเนื่องมาจากอาณาจักรนอร์แมนแห่งซิซิลี และเป็นตัวอย่างของการผสมผสานสังคม วัฒนธรรม และศาสนาที่มีความแตกต่างกัน
Baekje Historic Areas (เกาหลีใต้)
พื้นที่ประวัติศาสตร์อาณาจักรแพกเจ ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางทางตะวันตกของเกาหลีใต้ เป็น หนึ่งในสามก๊กของอาณาจักรโบราณในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งในช่วงเวลานั้นแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของเทคโนโลยี ศาสนา วัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนทางศิลปะระหว่างอาณาจักรโบราณในเอเชียตะวันออก ทั้งเกาหลี จีน และญี่ปุ่น
Baptism Site “Bethany Beyond the Jordan” (Al-Maghtas) (จอร์แดน)
สถานที่บัพติศมาหรือล้างบาปในหมู่บ้านเบธานี ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ทางเหนือของทะเลเดดซี เชื่อกันว่า เป็นสถานที่ที่พระเยซูทำพิธีล้างบาปหรือศีลจุ่มเป็นครั้งแรกริมแม่น้ำจอร์แดน
Champagne Hillsides, Houses and Cellars (ฝรั่งเศส)
เป็นพื้นที่ที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการผลิตแชมเปญทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไร่องุ่นที่เก่าแก่ โรงหมัก และร้านขายแชมเปญ ซึ่งมีมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17
Christiansfeld, a Moravian Church Settlement (เดนมาร์ก)
เป็นสถานที่ตั้งของคริสตจักรโมราเวียน และเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชุมชนชาวโปรเตสแตนต์
Climats, terroirs of Burgundy (ฝรั่งเศส)
เป็นพื้นที่ที่โดดเด่นสำหรับการปลูกองุ่นและการผลิตไวน์ที่มีมาตั้งแต่ยุคกลาง
Cultural Landscape of Maymand (อิหร่าน)
กลุ่มชาวบ้านที่ทำการเกษตรโดยเลี้ยงสัตว์ในทุ่งหญ้ากลางภูเขา ซึ่งเป็นพื้นที่กึ้งแห้งแล้งอยู่ทางตอนกลางของอิหร่าน
Diyarbakır Fortress and Hevsel Gardens Cultural Landscape (ตุรกี)
ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงทางตอนเหนือของลุ่มน้ำไทกรีส เป็นเมืองศูนย์กลางสำคัญมาตั้งแต่สมัยเฮเลนิสติกมาจนถึงปัจจุบัน
Ephesus (ตุรกี)
เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนตั้งแต่สมัยเฮเลนิสติกและมีมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของวิหารแห่งอาร์ทีมิส หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
Fray Bentos Cultural-Industrial Landscape (อุรุกวัย)
กระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ในระดับโลก เป็นทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่อุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์
Great Burkhan Khaldun Mountain and its surrounding sacred landscape (มองโกเลีย)
พื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการบูชาภูเขา รวมถึงเชื่อว่าเป็นสถานที่เกิดและที่ฝังศพของเจงกีสข่าน
Necropolis of Bet She’arim: A Landmark of Jewish Renewal (อิสราเอล)
สถานที่ฝังศพของชาวยิวนอกกรุงเยรูซาเลม และยังเป็นคลังของงานศิลปะและจารึกในภาษากรีก อราเมอิก และฮิบรู
Rjukan-Notodden Industrial Heritage Site (นอร์เวย์)
เป็นเขตอุตสาหกรรมที่มีทั้งโรงไฟฟ้า โรงงาน ระบบขนส่ง และการวางผังเมืองที่ซับซ้อน ท่ามกลางภูเขาและแม่น้ำ
Rock Art in the Hail Region of Saudi Arabia (ซาอุดิอาระเบีย)
ศิลปะหินของภูมิภาคเฮลในซาอุดีอาระเบีย จารึกร่องรอยการเดินทางของผู้คนในสมัยก่อน
San Antonio Missions (สหรัฐอเมริกา)
ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส เป็นสถานที่สอนศาสนาที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายขององค์ประกอบต่างๆ
Singapore Botanical Gardens (สิงคโปร์)
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสิงคโปร์ ที่นี่เป็นศูนย์กลางสำหรับการวิจัยและอนุรักษ์พันธุ์พืช และแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของพืชสวนเขตร้อนตั้งแต่สมัยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
Sites of Japan’s Meiji Industrial Revolution: Iron and Steel, Shipbuilding and Coal Mining (ญี่ปุ่น)
อุตสาหกรรมช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 โดยเป็นอุตสาหกรรมการต่อเรือเหล็กและอุตสาหกรรมถ่านหิน
Speicherstadt and Kontorhaus District with Chilehaus (เยอรมนี)
อาคารสถาปัตยกรรมเขตคอนทอร์เฮาส์และชีเลเฮาส์ เชื่อมโยงระหว่างพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่ มีอาคารสำนักงานต่างๆ ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจากการค้าระหว่างประเทศ
Susa (อิหร่าน)
เมืองโบราณที่มีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของเมืองซ้อนกันมาตั้งแต่ช่วงห้าพันปีก่อนคริสตกาล มาจนถึงช่วงศตวรรษที่ 13
The Forth Bridge (สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เหนือ)
สะพานรถไฟที่เปิดใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1890 มาจนถึงปัจจุบัน ดำเนินการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าเรื่อยมา
The par force hunting landscape in North Zealand (เดนมาร์ก)
อุทยานล่าสัตว์ที่ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม ป่าบริเวณทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์ เดนมาร์ก /ด้บรรจุไว้กับยูเนสโกรายชื่อมรดกโลกในวันที่ 4 กรกฎาคม 2015
Tusi Sites (จีน)
ดินแดนชนเผ่าโบราณตูซี ที่เป็นระบบการบริหารชนกลุ่มน้อยของรัฐบาลในสมัยก่อน เพื่อให้ชนกลุ่มน้อยยังสามารถรักษาอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของตัวเองไว้ได้ พื้นที่ภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนแห่งนี้ครอบคลุมซากของโดเมนหลายชนเผ่า
Blue and John Crow Mountains (จาไมก้า)
ภูเขาขรุขระและป่าอย่างกว้างขวางในทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจาไมก้า สถานที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีความหลากหลายทางชีวภาพฮอตสปอตสำหรับหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียนที่มีสัดส่วนที่สูงของสายพันธุ์พืชเฉพาะถิ่น มีสายพันธุ์พืชเฉพาะถิ่นอย่างไลเคน มอส และพืชดอกบางชนิด
Routes of Santiago de Compostela:Camino Frances and Routes of Northern Spain (สเปน)
พื้นที่เชื่อมโยงเส้นทางแสวงบุญในภาคเหนือของสเปน สร้างมรดกที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้แสวงบุญรวมทั้งมหาวิหารคริสตจักร, โรงพยาบาล, หอพักและแม้กระทั่งสะพาน ขยายครอบคลุมบางส่วนของที่เก่าแก่ที่สุด เส้นทางแสวงบุญไปยัง ซานติอาโก เดอ คอมโพ มีการค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 9 และมีหลุมฝังศพที่เชื่อว่าเป็นของเซนต์เจมส์มหานคร
Cape Floral Region Protected Areas (อัฟริกาใต้)
สถานที่ตั้งอยู่ที่ปลายสุดทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกา ศูนย์กลางความหลากหลายทางชีวภาพจากทั่วโลก สถานที่ให้บริการรวมถึงการขยายสวนสาธารณะแห่งชาติ, อนุรักษ์ธรรมชาติ, พื้นที่ป่าป่าของรัฐและภูเขาพื้นที่กักเก็บน้ำ
Phong Nha – Ke Bang National Park (เวียดนาม)
อุทยานแห่งชาติของเวียดนามที่มีทั้งภูเขาหินปูนและป่าเขตร้อน ครอบคลุม 85,754 เฮคเตอร์ ภูมิทัศน์ของสวนสาธารณะที่เกิดจากที่ราบสูงหินปูนและป่าเขตร้อน
ส่วนของประเทศไทย ก็ได้มีการยื่นเสนอรายชื่อสถานที่ต่างๆ เพื่อเข้าสู้บัญชีมรดกโลกเช่นกัน ซึ่งในขณะนี้ทางประเทศไทยได้มีรายชื่ออยู่ในบัญชีเบื้องต้นขององค์การยูเนสโก หรือมรดกโลกแล้ว 5 แห่งด้วยกัน แบ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม 4 แห่ง และมรดกโลกทางธรรมชาติ 1 แห่ง ดังนี้
มรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ได้แก่
- อนุสรณ์สถาน และภูมิทัศน์วัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ นครหลวงล้านนา
- อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี
- เส้นทางวัฒนธรรมพิมาย ปราสาทพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ
- วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
มรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศไทย ได้แก่
- พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน อ. แก่งกระจาน จ. เพชรบุรี
ที่มา : unesco