ค้นพบมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ “โฮโม นาเลดี” ในเซาธ์แอฟริกา
เมื่อวานนี้ (10 กันยายน) ได้เกิดกระแสฮือฮาไปทั่ววงการวิทยาศาสตร์ หลังมีการค้นพบซากกระดูกมนุษย์โบราณชิ้นใหม่ ที่ไม่สามารถระบุหรือจำแนกแยกสายพันธุ์ได้
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์โบราณสายพันธุ์ใหม่ ในห้องใต้ดินที่อยู่ลึกเข้าไปในถ้ำ ใกล้นครโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ และให้ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “โฮโม นาเลดี” (Homo Naladi) โดยสันนิษฐานว่าเป็นซากกระดูกมนุษย์โบราณในยุคแรกของมนุษย์ยุคใหม่ ที่ได้อยู่อาศัยในเขตแอฟริกาเมื่อราวๆ 3,000,000 ปีก่อน
การค้นพบครั้งนี้ได้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารออนไลน์ Elife โดยระบุว่า จากการสำรวจได้พบซากฟอสซิล ที่มีลักษณะเป็นโครงกระดูกราว 1,500 ชิ้น และคาดว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกของมนุษย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ปะปนกันประมาณ 15 คน ซึ่งกระดูกเหล่านี้มีลักษณะของโครงกระดูกที่แตกต่างไปจากมนุษย์ในปัจจุบัน
ศาสตราจารย์ลี เบอร์เกอร์ (Prof. Lee Berger) หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ ผู้ที่ค้นพบซากฟอสซิลอยู่ในครั้งนี้ เผยว่า “ซากกระดูกมนุษย์โบราณที่ถูกค้นพบนี้ น่าจะเป็นมนุษย์ในยุคแรกๆ ของเรา (Homo) ที่เคยอยู่อาศัยในแถบแอฟริกาเมื่อช่วง 3,000,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งที่จริงแล้วมนุษย์นาเลดี จัดอยู่ในสายพันธุ์โฮโม และเป็นสายพันธุ์เดียวกับมนุษย์ยุคใหม่ ทั้งนี้พวกเขาไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ว่ามนุษย์นาเลดี คือ “จุดเชื่อมโยงที่หายไป” ในช่วงวิวัฒนการของมนุษย์ที่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังคงค้นหาคำตอบนี้อยู่ ซึ่งศาสตราจารย์เบอร์เกอร์บอกเพียงว่า มนุษย์สายพันธุ์นาเลดีเป็น “สะพานเชื่อม” สายหนึ่ง ระหว่างสัตว์ที่เดิน 2 เท้าในยุคแรกกับมนุษย์ที่เดิน 2 เท้าในยุคใหม่
- สมองที่มีขนาดเล็ก (เทียบเท่ากับสมองของ กอลิลา)
- กะโหลกศีรษะ มีขนาดเพียง 1 ใน 3 ของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน
- ฟันเล็ก – คล้ายฟันเด็ก
- หน้าอก – ลักษณะคล้ายกับลิง
- กระดูกเชิงกรานและกระดูกหัวไหล่ – มีลักษณะแบบเดียวกับมนุษย์ในยุคดึกดำบรรพ์
- นิ้วมือโค้ง – เหมาะแก่การปีนป่ายต้นไม้เป็นอย่างดี
- เท้า – มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ในยุคใหม่ ขายาว ความสูงประมาณ 5 ฟุต
คำว่า “นาเลดี” หมายถึง “ดาว” ในภาษา Sesotho ซึ่งเป็นภาษาทางราชการของประเทศแอฟริกาใต้ คาดว่า “โฮโม นาเลดิ” เป็นมนุษย์ที่เคยมีชีวิตอยู่ในช่วง 1,500,000 – 2,800,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งบางแหล่งอ้างถึงการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากลักษณะของมือ เท้า ข้อต่อ และสะโพก น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตในช่วงระยะเวลาราว ๆ 35,000 เท่านั้น
ทางด้าน จอห์น ฮอกส์ (John Hawks) นักวิจัยในทีมที่ได้ลงพื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ว่า ‘โฮโม นาเลดิ’ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการวิวัฒนาการมาถึงมนุษย์ในยุคปัจจุบัน แต่มีอีกเรื่องที่น่าแปลกใจเป็นอย่างมากคือ เราได้รู้ว่าซากกระดูกเหล่านี้ถูกฝังกลบเอาไว้ในถ้ำอย่างตั้งใจ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กับมนุษย์สายพันธุ์ Hominin หรือมนุษย์ลิงในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้บวกกับหลักฐานทางด้านกายภาพที่ได้ระบุไว้ว่า ‘โฮโม นาเลดิ’ มีขนาดของสมองเล็กกว่ามนุษย์มาก แต่กลับมีพฤติกรรมบางอย่าง ที่ซับซ้อน และน่าสนใจ อีกทั้งการดำเนินชีวิตก็มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์มาก
ศาสตราจารย์คริส สตริงเจอร์ จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในกรุงลอนดอน บอกว่า การค้นพบมนุษย์นาเลดีเป็น “การค้นพบที่สำคัญมาก ตอนนี้เราได้พบสายพันธุ์ของมนุษย์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งชี้ว่าธรรมชาติได้ทดลองสร้างวิวัฒนาการมนุษย์หลายสายพันธุ์ จนก่อกำเนิดเป็นสัตว์ที่คล้ายมนุษย์หลายสายพันธุ์ขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ในหลายพื้นที่ของทวีปแอฟริกา แต่ท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงสายพันธุ์เดียวที่มีชีวิตรอดและวิวัฒนาการเป็นสายพันธุ์มนุษย์แบบเรา” อย่างไรก็ตามเขาชี้ว่า ผลจากการค้นพบครั้งนี้น่าจะทำให้มีการทบทวนทฤษฎีเกี่ยวกับวิวัฒนาการมนุษย์ในปัจจุบันใหม่เสียที