เที่ยวภูกระดึงหน้าฝนเป็นไงบ้าง?
ฮัลโหลลล ชาวโพสจัง
นานเป็นสิบชาติแล้วที่ไม่ได้ตั้งกระทู้(ขี้เกียจนั่นแหละ) ทีแรกว่าจะไปโพสทิ้งไว้ในพันทิปให้คนด่าเล่น เลยตัดสินใจมาโพสไว้ให้ชาวโพสจังได้เปิดซิงก่อน
วันนี้เลยจะมาขอรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมืองไทย ขึ้นชื่อว่าเดินขึ้นเหนื่อยมาก เหนื่อยวัวตาย เหนื่อยควายล้มเลยล่ะ แต่ยังเบาะๆอยู่นะถ้าเทียบกับเขาช้างเผือก ที่นี่ก็คือ "ภูกระดึง"
หลายคนคงคุ้นตากับภาพชะง่อนหินที่ยื่นออกไปหน้าผา ใบเมเปิ้ลสีแดงๆ และบรรยากาศหนาวๆบนยอดเขา แต่! เราจะรีวิวให้ทุกคนเห็นในสิ่งที่ทุกคนยังไม่คุ้นตา มันคือการเที่ยวภูกระดึงช่วงหน้าฝน หรือช่วงเปิดภูนั่นเอง
ทุกวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี คือวันเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง แต่ช่วงนี้คนจะไปเที่ยวน้อยมากเพราะมีฝนตกอยู่บ่อยๆ ทางเดินลำบาก(จริงๆค่อยๆเดินไปมันก็ไปได้นะ) แถมทากดูดเลือดยังชุมอีก นี่โดนทากสูบเลือดไปไม่น้อยแล้ว ดีที่ไม่มีอาการแพ้ แต่โดนดูดเลือดที เลือดจะไหลไม่ยอมหยุดเลย ต้องรอเป็นชั่วโมงอ่ะ
สำหรับใครที่ชอบความเงียบสงบ เย็นสบาย อากาศสดชื่นล่ะก็ ขอแนะนำช่วงนี้เลย รับรองว่าจะฟินกับธรรมชาติเลยล่ะ
อ่ะ...พูดมากเกินไปแล้ว ปกติเป็นคนชอบเขียนบรรยาย ถ้าไม่รีบหาที่จบบทมันจะยาวไปเรื่อย มาดูบรรยากาศกันเลยว่าเป็นไงมั่ง
ทางขึ้นช่วงแรกๆจะชันหน่อยนะ ค่อยๆเดินค่อยๆคลาน แต่จะมีบางช่วงที่เป็นทางราบ จะเดินง่ายหน่อย ถ้าฝนตกก็ระวังลื่นกันด้วย รองเท้าที่ใส่ควรเป็นรองเท้าที่มีดอกยาง คู่ไหนไม่ดอกไม่ต้องเอาไป โอเค๊?
นี่ไงแก อุโมงค์ต้นไผ่ สังเกตดีๆนะ มันจะอยู่ช่วงระยะครึ่งทางก่อนถึงซำแฮก ช่วงหน้าฝนมันจะเขียวแบบนี้แหละ และมันจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองช่วงเดือนเมษายน
ตั้งแต่เดินขึ้นไปถึงกลางทาง จุดพักชมวิวอีกจุดนึงที่ไม่ควรพลาดคือ
ซำกกโดน
จุดนี้บอกเลยว่า วิวสวยมากกกกก คือเดินขึ้นมาเหนื่อยๆ เห็นวิวนี้ ลมเย็นๆที่พัดผ่าน บวกกับอากาศสดชื่นหลังจากฝนที่ตกเพิ่งหยุด มันแทบไม่อยากลุกเดินไปข้างหน้าเลยอ่ะ มันฟินจริงๆ
***เอ้อลืมบอกไป ช่วงที่เปิดภูใหม่ๆ มีร้านค้าเปิดให้บริการตามจุดพักต่างๆแล้วนะ ไม่ต้องกลัวอด
เมื่อลากสังขารตัวเองขึ้นถึงยอดภูแล้ว หลายคนมักจะไม่พลาดที่จะถ่ายรูปคู่กับป้าย "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ใช่มั้ยล่ะ? ใครได้ไปก็อย่าลืมถ่ายนะ ถือเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูล "ว่าเออ..เรามาถึงแล้วนะ" ถ่ายเสร็จก็รีบเดินไปจุดกางเต๊นท์พักแรมได้แล้ว อย่ารีรอ เดี๋ยวไม่ทันดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูกไม่รู้ด้วยนะ (ใครเดินต่อไหวก็ไปดูเหอะ มันสวยจริงๆ ใครที่เหนื่อยจนไม่มีแรงเดิน ก็นั่งนวดขาตัวเองที่เต๊นท์ไปก่อนละกัน)
นี่ไงๆๆ วิวพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก
ถ้าฟ้าเริ่มปลอดโปร่งหลังจากฝนตก ก็จะได้วิวแบบนี้แหละ ในรูปจะเห็นเพียงแค่นี้นะ ถ้าอยากเห็นวิวกว้างๆ ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น
พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วก็รีบเดินกลับเหอะ มันมืด ต้องใช้ไฟฉายส่องทางตอนขากลับเลยล่ะ อย่าส่องแต่ทาง ส่องดูขาตัวเองด้วยว่ามีทากเกาะติดมามั้ย เดี๋ยวจะได้ไปนอนด้วยกันในเต๊นท์ทั้งคืนเป็นแน่
นี่แอบถ่ายคนอื่นตอนเค้าเผลอ ได้ฟีลมากอ่ะ ชอบบบบ(ผู้ชายคนนั้น5555) ถ้าเจ้าตัวมาเห็นรูปตัวเองแล้ว ติดต่อกลับมาด้วยนะ เดี๋ยวจะเอาเบอร์โทร เอ๊ย.. เอาไฟล์จริงให้ จะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก
ตอนเช้า ใครใคร่ไปดูทะเลหมอกตอนพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นก็รีบตื่นตั้งแต่ 04.30 นะ เพราะเจ้าหน้าที่จะนำทางพาไป
แต่เอ๊ะ... เราไม่มีรูปทะเลหมอกตอนเช้ามาให้ดูนี่ ไม่ต้องสงสัยเลย ...... ฝนตกจ๊ะ อด!
แล้วฝนตกบ่อยๆแบบนี้ บนภูจะเปียกชุ่มมาก ทากดูดเลือดนี่ครื้นเครงกันสุดๆ แต่ฝนตกนี่ล่ะดี เราจะได้ไปเล่นน้ำตกกันนนนนน
คำเตือน : หากคืนนั้นฝนตกแรงเกินไป นักท่องเที่ยวจะต้องระมัดระวังในการเดินเที่ยวชมน้ำตก เพราะน้ำจะแรงมาก จะเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวเอง และควรระมัดระวังช้างป่าออกหากิน ไม่ควรพูดจาส่งเสียงดังเกินไปขณะอยู่ในป่า เพราะอาจจะไม่ได้ยินหรือรู้ว่าช้างเดินมาบริเวณนั้น หากพบเห็นช้างป่า ให้รีบถอยกลับ อย่าเดินเข้าไปใกล้หรือเข้าไปถ่ายรูปถ่ายคลิปเด็ดขาด!
พระเอกของเราอยู่นี่ ใบเมเปิ้ล
แต่ช่วงเปิดภูใบเมเปิ้ลจะยังไม่เป็นสีแดงนะ ส่วนจะแดงช่วงไหน บอกได้ยากมากเพราะขึ้นอยู่กับอากาศในแต่ละปี สำหรับใครที่อยากไปดูช่วงเมเปิ้ลแดงล่ะก็ ต้องคอยติดตามจากเพจท่องเที่ยวในเฟซบุ๊ค เช่น ท่องเที่ยวสะดุดตา Sadoodta, เที่ยวเลย เที่ยวจังหวัดเลย, ร้านกาแฟชมพู่มะเหมี่ยว เป็นต้น ซึ่งทั้ง3เพจนี้ เราคอนเฟิร์มได้เลยว่า จะรู้ตั้งแต่วันแรกที่ใบเมเปิ้ลเริ่มแดงเลยล่ะ
ต้นเมเปิ้ลหาไม่ยากนะ จะมีตั้งแต่ทางเดินเข้าที่พัก ทางเดินไปน้ำตก และในป่าแถวๆน้ำตกนั่นแหละ
พอออกจากน้ำตกแล้ว จะไปไหนกันต่อล่ะ?
ขอแนะนำเลยยย .... เดินเลียบเส้นทางเดินริมหน้าผาไปถ่ายรูปชะง่อนหินที่ผาหล่มสักกัน(ตรงนี้เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยนะ ใครพลาดนี่ เหมือนกับมาไม่ถึงเลยล่ะ)
ระหว่างทางเดิน ถ้าสภาพอากาศเป็นใจจริงๆหลังฝนตกหรือก่อนฝนตก จะได้เดินกันท่ามกลางป่าหมอกเชียวนะ อย่างกับในเทพนิยายหลอนๆ หรือเมือง Silent Hill เชียวนะเออ
น่าจะมีนางแบบแต่งตัวจัดเต็มแบบแม่บ้านมีหนวดมาโพสท่าสะบัดผ้าให้ถ่ายรูปจริงๆ
หลอนมั้ยล่ะ? นี่เราเดินชิวๆคนเดียวยังต้องมองซ้ายมองขวาเลย
ใครขี้เกียจเดิน บนนี้ก็มีจักรยานให้เช่าปั่นนะเออ แต่ราคาก็เอาเรื่องอยู่ แต่ไม่ค่อยอยากจะแนะนำ เพราะเส้นทางไม่ได้ราบเรียบซะทั้งหมด หลายคนเกิดอุบัติเหตุ ทำเอาทั้งทริปหมดความสนุกเลย ทางที่ดี....เดินเหอะ ถึงจะเหนื่อยและเจ็บเท้า นั่งพักแป๊บก็หายแล้ว
เดินไป ชมวิวชมดอกไม้ข้างทางไป เราว่ามันก็โอเคนะ ชีวิตโคตร SlowLife อ่ะแก ดูสองข้างทางดีๆ มีไรสวยๆน่ารักๆให้เห็นด้วย(ไม่รวมทากดูดเลือดนะ เกลียดมัน!)
ถึงแล้ววววว ผาหล่มสัก ไฮไลท์ของที่นี่ รีบๆแชะรูปเลยแก สภาพอากาศที่นี่ตอนปลายฝนมักจะแปรปรวณเอาแน่เอานอนไม่ได้
ตะวันตกดินก็เดินกลับได้แล้ว ต้องเดินกลับที่พักอีกไกลเลย รีบกลับให้ถึงที่พักเร็วๆ หมูกระทะอร่อยๆรอเราอยู่
รูปสุดท้ายนี่ ขอแนะนำสำหรับใครอยากถ่ายวิวกว้างๆหรือถ่ายย้อนแสงแบบ Siluate (หรือ Silhouette) ลานหินตรงผาจำศีล ใกล้ๆกับผาหมากดูกจะเหมาะมาก คนไม่ค่อยมาถ่ายมุมนี้กันเพราะไม่มีร้านค้าคอยอำนวยความสะดวก รับรองได้เลยว่าถ่ายจนจุใจแน่
ทุกคำถามย่อมมีคำตอบ
- "ไม่ไปช่วงหน้าหนาวที่อากาศหนาวๆ เวลานอนตอนกลางคืนไม่ร้อนหรอ?"
ขอตอบก่อนเลยว่า ไม่ร้อนหรอก ถึงจะไม่ใช่หน้าหนาว...อุณหภูมิตอนกลางวันที่นี่ก็ประมาณ 23-25 องศาเซลเซียส และตอนกลางคืนอุณหภูมิต่ำสุดตอนนี้อยู่ที่ 17 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้นอย่าชะล่าใจ เอาเสื้อแขนยาวอุ่นๆมาเผื่อไว้ด้วยนะจ๊ะ
- "กลัวทากทำไงดี?"
ทุกร้านค้าจะมีถุงเท้ากันทากขาย ซื้อๆไปเถอะไม่กี่บาทหรอก ป้องกันได้แน่นอน สาวๆหลายคน(รวมหนุ่มๆด้วย) เวลาโดนทากเกาะ จะกรี๊ดลั่นมาก แต่ผิวหนังของทากจะไวต่อสารเคมีมาก ใครอยากประหยัดงบหน่อยก็หาขวดสเปรย์เล็กๆติดตัวไว้ ใส่เกลือลงไปพอสมควร เติมน้ำแล้วคนให้ละลาย ฉีดครั้งเดียว เจ้าทากผู้น่ารักจะชักดิ้นชักงอตายเลยล่ะ หรือใครมีตังค์หน่อยก็ใช้สเปรย์ OFF กระป๋องสีส้มนะ ฉีดนิดเดียวทากก็หลุดแล้ว (จริงๆไม่อยากให้ต้องถึงกับฆ่ามันหรอก เอานิ้วดีดมันก็หลุดแล้ว เหตุผลที่ไม่อยากให้ฆ่าก็เพราะว่า "ที่ป่าไหนมีทากดูดเลือด แสดงว่าที่นั่นมีความอุดมสมบูรณ์มาก")
- "ต้องเตรียมไรไปมั่ง?"
เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นนั่นแหละ ที่เพิ่มมาหน่อยคือ ยาประจำตัว, ยาคลายกล้ามเนื้อ, เจลนวดแก้ปวดเมื่อย, ร่มหรือเสื้อกันฝน เป็นต้น ถ้าขาดเหลืออะไร ร้านค้าแถวตรงจุดบริการนักท่องเที่ยวมีขายหมดแหละ
ปล. เคยมีคนไปกินตับกันข้างบนจนไม่เกรงใจเต๊นท์ข้างเคียงเลย อันนี้คือขอร้องนะ กินตับกันได้ แต่อย่าเสียงดัง ให้ป้องกันด้วย กลับลงมาจากภูจะได้ไม่ป่อง ถ้าไม่ได้พกถุงยางติดตัวไป ให้ไปซื้อที่ร้านค้าซะ (พิกัด ตามหาร้านที่ขายข้าวขาหมู พอหันหน้าเข้าร้านแล้วให้นับไปทางซ้ายมือ ร้านที่3จะเป็นร้านขายกาแฟสด ร้านนี้มีถุงยางขาย ไม่ Durex ก็ Onetouch อ่ะ ถ้าสินค้าหมดก็อดนะ) ........นี่เราชี้โพรงให้กระรอกรึเปล่าเนี่ย
หมดละสำหรับรีวิวเที่ยวภูกระดึงหน้าฝน นี่พยายามบรรยายให้น้อยแล้วนะ 555555+
****** ที่สำคัญนะ อย่าทำลาย หัก เด็ด โค่นต้นไม้ดอกไม้ข้างบน หรือขีดเขียนตามโขดหินและลำต้นต้นไม้เด็ดขาด เที่ยวแบบมีจิตสำนึกที่ดีเนอะ คนที่มาเที่ยวทีหลังเค้าจะได้เห็นไรสวยๆมั่ง ^_^
ขอจบทริปไว้แค่นี้ กระทู้หน้าจะพาไปไหน ขอโยนพวงมาลัยเสี่ยงทายก่อนละกัน
บ๊ายบาย ขอให้ไปเที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ