20 อันดับเมือง-ประเทศ ที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก 2015

20. วอชิงตัน ดี.ซี. (Washinton DC)

---

อันดับที่ 20 ก็คือกรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา

---

19. โตเกียว ญี่ปุ่น (Tokyo)

---

เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 19 ก็คือ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยที่ค่าเฉลี่ยของห้องพัก (คิดจากห้อง 85 ตารางเมตร เฟอร์ครบ ในเขตชุมชนเมือง) คือราว 97,500 ต่อเดือน ส่วนตั๋วดูหนังสองใบราคาอยู่ที่ประมาณ 1,200 บาท

---

18. เมลเบิร์น ออสเตรเลีย (Melbourne)

---

เมลเบิร์นอยู่ในอันดับ 18 ของลิสท์ ที่นี่ แอปเปิ้ล 1 กิโลกรัม ราคาอาจจะไม่แพงอยู่ที่ประมาณ 119 บาท แต่เบียร์ 1 แก้วตกเกือบๆ 220 บาททีเดียว

---

17. อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ (Amsterdam)

---

กรุงอัมสเตอร์ดัมของ เนเธอร์แลนด์ มาเป็นอันดับที่ 17 โดยอาหารในฟาสฟูดเฉลี่ยมื้อนึงราคา 320 บาท และค่าน้ำค่าไฟสำหรับสองคนอยู่ที่ราว 7,700 บาท

---

16. ฮอนโนลูลู สหรัฐอเมริกา (Honolulu)

---

ที่เกาะฮอนโนลูลู สหรัฐอเมริกา ถึงจะมีสภาพบ้านเมืองและภูมิศาสตร์สวยงามแค่ไหน แต่ค่าครองชีพที่นี่ไม่ได้สวยเลยซักนิด เพราะค่าน้ำค่าไฟที่นี่เฉลี่ยต่อคนต่อเดือนอยู่ที่ 11,000 บาท

---

15. สตอกโฮล์ม สวีเดน (Stockholm)

---

อันดับที่ 15 กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน . . . ที่นี่คอกเทลแก้วนึงราคาสูงถึง 600 บาท (ผับในเมืองไทย 200-300 บาท) หากใครมาอยู่เมืองนี้รับรอง ไม่ค่อยบริโภคแอลกอฮอล์แน่นอน

---

14. กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ (Hague)

---

เมืองเฮกของประเทศเนเธอร์แลนด์ อันดับ 13 . . . ราคารองเท้าหนังธรรมดาๆใส่ไปทำงาน (ไม่มีแบรนด์) ราคาประมาณ 6,000 บาท

---

13. บริสเบน ออสเตรเลีย (Brisbane)

---

ในบริสเบน ที่นั่งในโรงหนังแบบเบาะส่วนตัว อาจจะมีราคาถึง 6,200 บาท, ราคาสมาชิคฟิสเนสรายเดือนในย่านธุรกิจแพงถึง 2,300 บาทต่อเดือน แต่อย่างน้อยหาดสวยๆของที่นี่ก็ฟรีนะ

---

12. ฮ่องกง (Hong Kong)

---

อันดับที่ 12 เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของคนไทย “ฮ่องกง” โรงแรมเกรดดีที่นี่ หากจะเช่า 1 เดือนเต็มก็ตกเดือนละ 155,000 บาท >< แต่ราคาตั๋วโรงหนังที่นี่ค่อนข้างถูกเพียง 720 บาทเท่านั้น (2 ที่นั่ง)

---

11. ซิดนีย์ ออสเตรเลีย (Sydney)

---

ซิดนีย์เมืองที่เคยครองอันดับ 1 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก : ที่นี่บุหรี่ Marlboro ซองนึงราคาอยู่ที่ 450 บาท ถ้าคุณติดบุหรี่หลีกเลี่ยงการเดินทางมาซิดนีย์นะครับ

---

10. โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก (Copenhagen)

---

อันดับ 10 เมืองค่าครองชีพโคตรแพง ก็คือ โคเปนเฮเกน . . . โค้กขวด 2 ลิตร ราคาอยู่ที่ 165 บาท

---

9. ซานฟรานซิสโก (San Francisco USA)

---

อันดับ 9 ของประเทศ เมือง ที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดก็คือ ซานฟรานซิสโก ที่นี่ไวน์แดงราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 550 บาท (ถือว่าแพงสำหรับทวีปอเมริกา หรือ ยุโรป)

---

8. ปารีส (Paris)

---

ในปารีส ค่าเช่าห้อง 120,000 บาทต่อเดือน (ไม่แน่ใจว่า ห้องแบบไหน แหล่งข่าวไม่ได้ระบุ) แต่ค่ากินดื่มที่นี่ไม่ได้แพงมากนัก ถ้าเทียบกับเมืองอื่นๆในรายการ

---

7. สิงคโปร์ (Singapore)

---

อันดับ 7 ในลิสท์ สิงคโปร์ เมืองแห่งความเจริญของ South East Asia ที่นี่ Volkswagen Golf 2.0 ราคาแพงแบบสุดๆๆๆๆ 4.3 ล้านบาท แพงกว่าประเทศอื่นอยู่หลายเท่าเลยหละ

---

6. โลซาน สวิตเซอร์แลนด์ (Lausanne)

---

โลซาน สวิตเซอร์แลนด์เป็นอันดับหกของเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ที่นี่ค่า Taxi สำหรับระยะทาง 8 กิโลเมตร อยู่ที่ 1,250 บาท (พอๆกับระยะการเดินทางเฉลี่ยในแต่ละวันของคนกรุงเทพ) คิดเล่นๆราคาขนาดนี้ถ้านั่งทุกวันก็ประมาณ 37,500 บาท >.<

---

5. นิวยอร์ค ซีตี้ , สหรัฐอเมริกา (New York City)

---

NY นิวยอร์ค ครองอันดับ 5 : ราคาตั๋วโรงหนังสองที่นั่ง (เบาะดีที่สุด) ราคาเบาะๆ แค่ 11,000 บาทเอง (Y_Y น้ำตาจิไหล)

---

4. ซูริก สวิตเซอร์แลนด์ (Zurich)

---

ซูริก ประเทศสวิส มีรายจ่ายค่าครองชีพแพงกว่า NY ซะอีก ไข่ไก่ราคาเฉลี่ยที่นี่ฟองละ 235 บาท ยาแก้ไข้ พวก พารา แก้วัด สำหรับใช้ 6 วันอยู่ที่ 660 บาท (ดูท่าแล้ว อยู่ที่นี่คงต้องรักษาสุขภาพกันดีๆนะ แพงเหลือเกิน)

---

3. เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ (Geneva)

---

เจนีวา ประเทศสวิส มาเป็นอันดับ 3 . . . ที่นี่อกไก่ 1 กิโลกรัม ราคาสูงมากถึง 500 บาท ต่อกิโลกรัม

---

2. ออสโล นอร์เวย์ (Oslo)

---

อันดับ 2 เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ . . . ที่นี่ไวน์แดงคุณภาพปานกลางขวดนึงราคาประมาณ 1,000 บาท (อย่าเทียบกับราคาไวน์ในไทย เพราะที่ไทยไวน์ถือว่าเป็นสินค้าราคาแพง แต่ที่ยุโรป หรือ อเมริกา ไวน์มีราคาถูกมาก เช่นที่ออสเตรเลีย ไวน์แดง 3 ลิตร ราคาอยู่ที่ 350 บาทเท่านั้น)

---

1. ลอนดอน อังกฤษ (London)

---

เมืองที่เป็นแชมป์เมืองค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกก็คือ ลอนดอน

ที่นี่ค่าการเดินทางต่อเดือนอยู่ที่ 7200 บาท รวมทั้งค่าเช่าห้อง คอนโด ที่แพงหู่ฉี่ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ของชาวลอนดอนแท้ๆ ที่ไม่มีเงินมากนัก จนต้องย้ายออกไปอยู่เมืองอื่น เนื่องจากปัญหาค่าครองชีพ . . . ราคาน้ำมันนั้นตกอยู่ที่ราว 72 บาท ต่อลิตร ซึ่งก็แพงกว่าเมืองไทยเกือบ 2 เช่าเลยทีเดียว