"optography" เป็นหนึ่งในการทดลองที่เป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบความผิดทางอาชญากรรมเป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์และนักเขียนนวนิยายเป็นอย่างมาก โดยเชื่อว่า "จอประสาทตาของคนตายจะสามารถบันทึกภาพสุดท้ายที่พวกเขาเห็นก่อนตายได้"
โดยในศตวรรษที่ 17 คนที่อยู่เบื้องหลังการทดสอบสุดแปลกนี้คือ บาทหลวง Christopher Schiener ซึ่งเขาสังเกตเห็นภาพแปลกๆ ในสายตาของกบที่ตายแล้ว ดังนั้นเขาจึงตั้งสมมติฐานว่า นั่นอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่กบเห็น่กอนตายก็เป็นได้
หลังจากนั้นก็ไม่มีวิธีใดที่จะตรวจสอบความเชื่อดังกล่าวได้ จน 200 ปีต่อมามีชาวเยอรมันชื่อ Wilhelm Kuhne สามารถประดิษฐ์เครื่องมือรักษาดวงตา ซึ่งมีประโยชน์ต่อการตรวจสอบการทดลอง optography
โดย Wilhelm Kuhne เชื่อว่าดวงตามีการทำงานเหมือนกับกล้องถ่ายภาพ ซึ่งจากการศึกษาสายตาของกระต่ายที่ตาลแล้วมันมีลักษณะเหมือนภาพของหน้าต่างอยู่ในจอประสาทตา ทั้งเขายังพบสารเคมีบางอย่างในจอประสาทตาที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาคล้ายกับการถ่ายภาพ
หลังจาการตรวจสอบของ Wilhelm Kuhne ส่งผลให้การทดลอง optography เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ถึงขนาดที่ว่า Jules Verne นักเขียนนิยายเรื่อง Les Frères Kip เขียนตัละครฆาตกรของเขาให้ทำลายดวงตาของเหยื่อทุกคน เพราะกลัวว่าจอประสาทตาอาจจะบันทึกภาพของฆาตกรไว้ได้
และน่าเสียดายที่ความนิยมในการทดลอง optography ได้จางหายไปแล้ว ทั้งๆ ที่มันเกิอบพิสูจน์ได้แล้วว่าจอประสาทตาสามารถเก็บบันทึกภาพสุดท้ายไว้ได้ก่อนที่จะเสียชีวิต? เพราะถ้ามันเป็นจริง คงมีแระโยชน์ต่อการสืบสวนหาตัวคนร้าย และเรื่องอื่นๆ อีกมากมายเลยทีเดียว
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "Creepybasement"
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
44 VOTES (4/5 จาก 11 คน)
VOTED: PRP, โก๊ะทอง, อาราเล่จัง, Ployza, Lovethailand, Thorsten, MuuNoyTingleE, สัปเหร่อนอกโลก, สำนึกดีมีมั้ย..สาส