บรู๊ซ ลี (Bruce Lee) ไม่ได้ตายเพราะลมบ้าหมู??
หรือ หลี่ เสี่ยวหลง
บรู๊ซ ลี เกิดที่ซานฟรานซิสโก ที่โรงพยาบาลในย่านไชนาทาวน์ ที่มลรัฐซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ในระหว่างที่พ่อของเขาพร้อมกับคณะงิ้วกวางตุ้งไปตระเวนแสดงในอเมริกา เขาจึงได้รับสัญญาติอเมริกัน นางพยาบาลจึงตั้งชื่อให้ว่า “บรูซ ลี” เพราะเรียกง่ายและฟังดู เป็นฝรั่ง จากนั้นพ่อของเขาก็พากลับฮ่องกง
ลีเริ่มเข้าสู่โลกเซลลูลอยด์ตั้งแต่ 6 ขวบ ในภาพยนตร์เรื่อง "The Beginning of the Boy" จากนั้นก็ได้เล่น หนังมาเรื่อย ๆ พอเริ่มเป็นวัยรุ่นก็เริ่มเกเร ยกพวกตีกับชาวบ้านเขาไปทั่ว เมื่อวันหนึ่งถูกรุมอัดจนเละ เขาจึงเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ของ สำนักมวยวิงชุน (หย่งชุน)
เขาละทิ้งโรงเรียนและหันมาเอาจริงเอาจังทางกังฟู เรียนอยู่สี่ปี ฝีมือของเขาก็เริ่มแก่กล้า จนไปมีเรื่องกับแก๊งนักเลงใหญ่แห่งฮ่องกง ลีในวัย 19 ปีจึงถูกพ่อแม่ส่งตัวขึ้นเรือไปอเมริกา เขามาทำงานที่ร้านอาหารของญาติในซานฟรานซิสโกอยู่พักหนึ่ง แล้วย้ายไปซีแอตเทิล เป็นครูสอนเต้นรำชาชาชา ซึ่งเขาเคยเป็นแชมป์ที่ฮ่องกงมาก่อน
จากนั้นบรู๊ซ ลี ก็เริ่มเปิดสอนศิลปะป้องกันตัว จากนั้นเขาเข้าเรียนปรัชญาที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เรียนจบแล้วย้ายไปแคลิฟอร์เนีย ตั้งสถาบันสอนศิลปะป้องกันตัว สอนมวยจีนให้กับคนทุกชาติ วันหนึ่งก็มีผู้กำกับหนังมาเห็นฝีมือของเขาจึงชวนไปเล่นหนังทีวีชุด "The Green Hornet" หนังชุดนี้มี 30 ตอน แม้จะไม่ดังมาก แต่ก็ทำให้ลีเริ่มมีชื่อเสียงโดดเด่นยิ่งกว่าดารานำเสียอีก จากนั้นก็ได้เล่นหนังต่อมาอีกหลายเรื่อง ก่อนจะกลับไปสอนกังฟูต่อ หลังจากผิดหวังในฮอลลีวูด
บรู๊ซ ลี กลับฮ่องกงในปี 1971 พบกับ เรย์มอนด์ เชา (Raymond Chow) ผู้ผลิตหนังในฮ่องกง เปิดฉากด้วย "ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง" (The Big Boss) จากนั้นก็ต่อด้วย "ไอ้หนุ่ม ซินตึ๊งล้างแค้น" (Fist of Fury) วาด ลวดลายพายุหมัดและเท้าแบบที่ผู้ชมไม่เคยเห็นมาก่อน เขาได้ประกาศศักดาของคนเอเชีย เตะฝรั่งตัวมหึมาคว่ำคาเท้า ส่งผลให้ลีกลายเป็นฮีโร่ของคนทั่วฮ่องกงและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หนังของเขาทำรายได้มหาศาล และเป็นการเปิดศักราชใหม่ของหนังกังฟู จากนั้นเขาตั้งบริษัทหนังของตัวเอง ลงทุนไปถ่ายทำที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี คือเรื่อง "ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง บุกกรุงโรม" (The Way of the Dragon) กลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเขา
ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปถึงฮอลลีวูด เรื่องต่อมาจึงได้ทุนจากอเมริกาคือ "ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง มังกรประจัญบาน" (Enter the Dragon) หนังทำรายได้ถล่มทลายกว่าสองร้อยล้านเหรียญ
กลายเป็นหนังกังฟูฮ่องกงเรื่องแรกที่สร้างปรากฏการณ์ใหญ่ให้แก่วงการ ภาพยนตร์เอเชีย อีกทั้งยังก่อให้เกิดกระแสคลั่งไคล้ไอ้หนุ่มซินตึ๊งไปทั่วโลก นอกจากนี้เขายังใส่ปรัชญาเข้าไปในศิลปะการต่อสู้ถึง 26 ชนิดและตั้งชื่อว่า "จิตคุนโด" (Jeet Kune Do) ในปี 1997 นิตยสารเอ็มไพร์ (อังกฤษ) จัดเขาเป็นหนึ่งใน 100 ดารานำตลอดกาล
บรู ซ ลี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 1973 ในวัยเพียง 32 ปี ในเวลานั้นเขากำลังดัง และทำงานอย่างหนัก โดยไม่ยอมพักผ่อนและดูแลร่างกาย บ่อยครั้งเขาถึงกับไม่กินข้าว ในที่สุดเขาก็มีคนพบร่างไร้สติของไอ้หนุ่มซินตึ๊งที่บ้านพักของดาราสาว เบ็ตตี ติงเพ่ย (Betty Ting Pei) ในฮ่องกง
เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิต ช่วงแรกการเสียชีวิตเขายังเป็นปริศนา นักข่าวจึงใส่ไข่ไปต่าง ๆ นานา ว่าเขากินยาชูกำลังและเสียชีวิตขณะทำรักกับดาราสาว หรือถูกวางแผนฆาตรกรรม
ต่อมาศาลและแพทย์ได้ออกแถลงอย่างเป็นทางการว่า ลีเสียชีวิตเพราะสมองบวมเนื่องจากแพ้ยาแก้ปวดที่ติงเพ่ยให้กินก่อนเขาจะหลับ ไป เป็นการตายโดยอุบัติเหตุไม่ใช่ฆาตกรรม แม้มังกรหนุ่มจะเสียชีวิตไปแล้วกว่าสี่สิบปี ลีลากังฟูของเขาก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจผู้ชมมาจนทุกวันนี้หนังสือพิมพ์สากล 27/02/06 เมื่อวานนี้ (26) สื่อฮ่องกงเปิด เผยรายงานของผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันรายหนึ่งถึงสาเหตุการเสียชีวิตของดารา กังฟูชื่อก้องโลกแห่งยุค ‘บรู๊ซลี’ หรือหลีเสี่ยวหลง
โดยเขาตั้งข้อสันนิษฐานใหม่ว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่บรู๊ซจะเสียชีวิตด้วยโรคลมบ้าหมูอย่างเฉียบพลัน เนื่องมาจากการอดนอนและความเครียด ไม่ใช่มาจากอาการแพ้ยาตามรายงานชันสูตรศพในปี 1973
ฟิลคินส์ ผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันการแพทย์ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ผู้ทำการศึกษาสาเหตุการตายของบรู๊ซลีมาหลายปีกล่าวว่า รายงานการชันสูตรศพที่สรุปเมื่อปี 1975 ว่า บรู๊ซลีเสียชีวิตด้วยสาเหตุการแพ้ยาแก้ปวด Equigesic และทำให้สมองบวมนั้นเป็นข้อวินิจฉัยที่ผิดพลาด ทั้งนี้ จากร่องรอยหลายประการทำให้ฟิลคินส์ฟันธงว่า มังกรน้อยหลีเสี่ยวหลงอาจเสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอาการลมบ้าหมู ตามที่เขาเรียกว่า “sudden unexpected death in epilepsy, SUDEP”
ในรายงานของฟิลคินส์ยังระบุอีกว่า โรคที่ทำให้ราชากังฟูบรู๊ซลีเสียชีวิตในวัยหนุ่มแน่นนั้น มาจากการที่ร่างกายอ่อนเพลียเนื่องจากอดนอนและมีอาการเครียดจัด ส่งผลให้หัวใจและปอดหยุดทำงานอย่างฉับพลัน หรือเป็นอาการลมบ้าหมูฉับพลัน ซึ่งเป็นโรคที่มีการค้นพบภายหลังจากที่ดาราหนุ่มเสียชีวิตไปแล้ว 22 ปี (1995)
ฟิลคินส์ เสริมว่า รายงานการชันสูตรศพในขณะนั้นบอกว่า ร่างกายของบรู๊ซไม่มีร่องรอยการบาดเจ็บ นอกจากกัญชาแล้วก็ไม่ตรวจพบสารพิษอื่นใด ส่วนสารประกอบในยาแก้ปวดที่บรู๊ซกินเข้าไปก็พบในปริมาณน้อยมาก ซึ่งไม่น่าเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่า ก่อนบรู๊ซลีเสียชีวิตเขามีอาการอ่อนเพลียและกดดันอย่างมากทั้งทางร่างกายและ จิตใจ
แม้ว่าปัจจุบันยังยากที่จะอธิบายสาเหตุที่แท้จริงของการเสีย ชีวิตจากโรคดังกล่าว แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า โรคนี้มักเกิดกับเพศชายที่อยู่ในวัยหนุ่ม อายุระหว่าง 20-40 ปี และเกี่ยวพันกับการอดนอน สมองเติบโตช้า มีอาการทางประสาท หรือระบบทางเดินหายใจขัดข้อง นิยมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และใช้ยาพร่ำเพรื่อ
ทั้งนี้ ในรายงานยังเผยว่า โรงพยาบาลประสาทสมองและศัลยกรรมประสาทสมองแห่งลอนดอนเคยทำการศึกษาวิจัย เกี่ยวกับผู้ป่วยโรคลมบ้าหมู พบว่า จังหวะการเต้นที่ผิดปรกติของหัวใจอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคนี้ โดยอาจมีปัจจัยแฝงที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างกะทันหันคือการเกิดหัวใจวาย นอกจากนี้ ทุกๆปีโรคดังกล่าวยังคร่าชีวิตประชาชนในกลุ่มประเทศยุโรปเฉลี่ย 4,000 คน ส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนของผู้เสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าว 7-17% ของอัตราการตายทั้งหมด