10 อาชญากรที่โง่ที่สุด
1. ธนบัตรที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาคือ 100 USD แต่มีชายอายุ 53 ปี ชื่อว่า Michael Anthony Fuller ได้ซื้อของในวอลล์มาร์ตโดยใช้ธนบัตร 1 ล้านดอลลาร์ Fuller ได้ใช้ธนบัตรนั้นเพื่อที่จะซื้อไมโครเวฟ, เครื่องดูดฝุ่น และสินค้าอื่นๆ เป็นเงิน 476 ดอลลาร์ ซึ่งในความคิดเขา ก็จะต้องได้เงินทอน 999,524 ดอลลาร์
แหมนะ ไม่ศึกษามาก่อนเลย
2. บางทีมันก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่จะกลับไปในที่ที่ตัวเองก่ออาชญากรรมแต่เมื่อคุณลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ มันก็ไม่มีทางเลือกมากนักโชคร้ายสำหรับ Victor Marin เมื่อเขากลับไปที่บ้านที่เขาเข้าไปขโมยมา Yaakov Kanefsky เจ้าของบ้านก็กลับมา Marin เคาะกระจกเรียกเจ้าของบ้าน และพยายามที่จะอธิบายเหตุผลกับเจ้าของบ้าน ว่าเขาเข้ามาในบ้านแค่อยากที่จะใช้ห้องน้ำ แต่ไม่ได้ผล Marin เลยทำข้อตกลงที่จะคืนเงิน $218 เพื่อแลกกับกระเป๋าสตางค์ของเขา เจ้าของบ้านตกลงมีธนบัตร 1 ดอลลาร์ 93 ใบ และธนบัตรใหญ่กว่า $125 Marin ก็ใช้เวลาสอดเงิน $125 คืนใต้ประตูแต่ธนบัตร 1 ดอลลาร์ 93 ใบต้องใช้เวลา ในตอนนั้นเอง ตำรวจก็มาและ Marin ก็ถูกจับ
3. Derrick Mosley เดินเข้าไปในร้านขายปืนพร้อมกับเอาไม้เบสบอลตีเข้าไปที่ตู้โชว์ เพื่อที่จะพยายามขโมยปืนแต่ผู้จัดการร้านเห็นจึงเอาปืนตัวเองชี้ไปที่ Derrick จนกระทั่งตำรวจมาถึง
55 ขโมยปืนในร้านขายปืนโดยใช้ไม้เบสบอลเนี่ยนะ เยี่ยมจริงๆ
4. John Szwalla วัยรุ่นชายอายุ 17 ปี จากรัฐ North Carolina ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เข้าไปขู่เอาเงินในร้านอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีปืนพกอยู่ข้างหลังเสื้อซึ่งปืนนั้นก็คือกล้วยนั่นเอง เจ้าของร้านและลูกค้าก็จับตัวเอาไว้ ส่วน John ก็ทานกล้วยนั้นขณะรอตำรวจ ตำรวจจึงพูดขำๆ ว่า เด็กนี่ทำลายหลักฐานไปแล้ว
5. Joey Miller และ Matthew McNelly ได้ปลอมตัวก่อนที่จะเข้าไปในอพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่ง โดยใช้ปากกาเคมีที่ลบออกยากๆ เขียนหน้าตัวเองแทนที่จะใช้หน้ากากหรือไอ้โม่งคลุมหัว ปากกาเคมีก็รู้ๆ กันอยู่ว่าลบยาก พอตำรวจมาถึงก็สามารถจับได้อย่างง่ายดาย
6. ปี 2008 Ruben Zarate อายุ 18 ปี ต้องการขโมยของในร้านขายท่อไอเสียที่ชิคาโกเขาก็เข้าไปในร้านพร้อมกับปืนแต่ เงินที่เขาต้องการอยู่ในตู้เซฟ ซึ่งมีเพียงผู้จัดการเท่านั้นที่เปิดได้ แต่ผู้จัดการร้านไม่อยู่ ณ ขณะนั้น Ruben ตัดสินใจที่จะขโมยเงินอีกครั้ง เขาจึงให้เบอร์โทรตัวเองกับพนักงานร้าน หลังจากนั้น พนักงานก็โทรหาตำรวจ ตำรวจจึงบอกให้พนักงานโทรหาขโมยคนนั้น เมื่อขโมยมาถึงก็มีการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็ถูกจับ
7. Jesus, take the wheel take it from my hands ฮ่า แต่อันนี้ Jesus ไม่ได้ take the wheel
แต่เป็นลูกชาย Randy Lewis มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 260 mg% และเขามีความรู้สึกว่าไม่ควรอยู่หลังพวงมาลัย โชคร้ายที่ความเมาทำให้เขาเชื่อว่าลูกชายวัย 10 ขวบ ของเขาจะคุมพวงมาลัยได้ดีกว่าที่ความเร็ว 145 km/h ลูกชายของ Lewis ก็สูญเสียการควบคุม และรถคว่ำ โชคดีที่ Lewis ลูกชายของเขา และลูกอีกสองคนของเขารอดชีวิตทั้งหมด
8. หัวขโมยสามคนจากโคลัมเบีย ในเมือง Juan de Acosta ได้ขนเหล้า, ข้าว, ทูน่า และปลาซาดีนบนลาอายุ 10 ปี! มันก็เป็นไปตามแผนดี แต่เผอิญเจ้าลาตัวนั้นได้ส่งเสียงร้องขึ้นอย่างดัง ทำให้ตำรวจได้ยินเสียงนั้น หัวขโมยทั้งสามเผ่นหนีไป ปล่อยให้เจ้าลายืนอยู่กับของที่ขโมยมา
9. ลูกค้าที่ร้านอาหารอเมริกันชื่อ Applebee's ได้ยื่นใบขับขี่ที่ขโมยมาเพื่อที่จะสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ความจริงเธอเป็นผู้หญิงอายุ 26 ปี ไม่ต้องใช้บัตรปลอมก็ได้ ก็ต้องยกความดีความชอบให้พนักงานในร้านที่บอกลูกค้าว่าเดี๋ยวจะไปทำเครื่องดื่มมาให้ แต่ว่าจริงๆ โทรหาตำรวจแทน
10. ในเดือนสิงหาคม 1995 Klaus Schmidt พยายามจะขโมยเงินในธนาคาร ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันด้วยการเดินเข้าไปพร้อมกับปืนพก และข่มขู่พนักงาน มันก็ดูเหมือนการปล้นทั่วๆ ไป แต่พนักงานได้สังเกตว่าอาชญากรคนนี้ดูแปลกๆ เพราะพนักงานคนหนึ่งถามว่าต้องการถุงไหม แต่เขาตอบมาว่า ใช่ นี่มันเป็นปืนจริงๆ จึงทำให้พนักงานรู้ว่าเขาหูหนวก จากนั้นพนักงานคนหนึ่งก็กดสัญญาณเตือน Schmidt ก็ดูไม่รู้เรื่องกับเสียงที่ดังขึ้น เมื่อตำรวจมาถึงก็จับชายหูหนวกทันที อย่างไรก็ตาม Schmidt ก็ได้ฟ้องธนาคารนั้นว่าหาประโยชน์จากความพิการของเขา