ภาษีการรับมรดก ประกาศบังคับใช้แล้ว

พระราชบัญญัติ ภาษีการรับมรดก พ.ศ.2558 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 132 ตอนที่ 72 ก ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2558 นั้น มีสาระสำคัญดังนี้
1.ผู้ได้รับมรดกจากเจ้ามรดกแต่ละราย ไม่ว่าจะได้รับมาในคราวเดียวหรือหลายคราว ถ้ามรดกที่ได้รับมาจากเจ้ามรดกแต่ละรายรวมกันมีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท ต้องเสียภาษีเฉพาะส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท
มูลค่ามรดก หมายถึงมูลค่าของทรัพย์สินทั้งสิ้นที่ได้รับเป็นมรดกหักด้วยภาระหนี้สิน อันตกทอดมาจากการรับมรดกนั้น ให้มีการพิจารณาทบทวนมูลค่ามรดกทุก 5 ปี โดยนําอัตราการเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคที่กระทรวงพาณิชย์คํานวณเพื่อ ใช้ในราชการในรอบระยะเวลานั้นมาประกอบการพิจารณาด้วย โดยการกําหนดมูลค่ามรดกขึ้นใหม่ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
2.มรดกซึ่งต้องเสียภาษี ได้แก่ ทรัพย์สินดังต่อไปนี้
(1) อสังหาริมทรัพย์
(2) หลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(3) เงินฝากหรือเงินอื่นใดที่มีลักษณะอย่างเดียวกันที่เจ้ามรดกมีสิทธิเรียกถอน คืนหรือสิทธิเรียกร้อง จากสถาบันการเงินหรือบุคคลที่ได้รับเงินนั้นไว้
(4) ยานพาหนะที่มีหลักฐานทางทะเบียน
(5) ทรัพย์สินทางการเงินที่กําหนดเพิ่มขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกา
3.ในการคํานวณมูลค่าของทรัพย์สิน ให้ถือตามราคาหรือมูลค่าอันพึงมีในวันที่ได้รับทรัพย์สินนั้นเป็นมรดก ดังต่อไปนี้
(1)กรณีเป็นอสังหาริมทรัพย์ ให้ถือเอาตามราคาประเมินทุนทรัพย์ของอสังหาริมทรัพย์เพื่อเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน หักด้วยภาระที่ถูกรอนสิทธิ ตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในกฎกระทรวง
(2) กรณีเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้ถือเอาราคาของหลักทรัพย์นั้นในเวลาสิ้นสุดเวลาทําการของตลาดหลักทรัพย์ใน วันที่ได้รับมรดก
(3) กรณีอื่นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในกฎกระทรวง แต่หลักเกณฑ์ดังกล่าวให้กําหนดเป็นการทั่วไปโดยไม่มีลักษณะเป็นการเฉพาะ เจาะจง
4.ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษียื่นแบบแสดงรายการภาษี และชําระภาษีตามแบบที่อธิบดีกําหนด ภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับมรดกที่เป็นเหตุให้มีหน้าที่ เสียภาษี
5.ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีคำนวณและเสียภาษีในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่ามรดก แต่ถ้าผู้ได้รับมรดกเป็นบุพการี หรือผู้สืบสันดานให้เสียภาษีในอัตราร้อยละ 5
ทั้งนี้ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ การถ่ายโอนทรัพย์สินโดยทางมรดกในปัจจุบันได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี ไม่ว่าทรัพย์สินจะมีจํานวนมากน้อยเพียงใด ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม สมควรที่จะจัดเก็บภาษีตามสมควรจากการรับมรดกที่มีมูลค่าจํานวนมากเพื่อนําไป พัฒนาประเทศ และยกระดับการดํารงชีวิตของประชาชนที่ยากไร้ให้ดีขึ้น
บทสรุปสุดท้ายคดี นัทปง หลักฐานชัด วงจรปิดในห้องเห็นทุกอย่าง
นายกฯ ประกาศ"ยุบสภา"คืนอำนาจให้ประชาชน
พ่อแม่ต้องใจแข็ง! 2 เรื่องที่ลูก ‘ขอแล้วห้ามให้’ ไม่อย่างนั้นน้ำตาอาจเช็ดหัวเข่าตอนบั้นปลายชีวิต
นางงามฟินแลนด์โดนปลดฟ้าผ่าหลังทำท่าเหยียดคนเอเชีย
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่การเมืองไทยนั้นแสนวุ่นวาย แต่ก็ชวนให้แอบขบขันอยู่นิดๆ จังหวะโบ๊ะบ๊ะเหลือเกินเด้อครับเด้อ
ผู้เชี่ยวชาญเขมรเปิดเกมรุก! ชี้ต้อง ‘ทำลายศักยภาพทหารไทย–พึ่งมหาอำนาจ’ ถึงจะหยุดไทยได้
เขมรใช้แผน "นารีพิฆาต" ปลอมเป็นสาวสวย..หวังล้วงพิกัดฐานทัพฝั่งไทย
ผักดอง ผักกระป๋อง ของรักสายเฮลตี้ ที่ทำไตพังแบบเงียบๆ
แมลงก้นกระดกตัวเล็กพิษแรง—3 วิธีไล่ง่าย ๆ ปลอดภัย ไม่ต้องพึ่งสารเคมี
7 น้ำต้องห้ามเทลงชักโครก—ทำบ่อยๆ ระวังส้วมระเบิด ค่าซ่อมหลักหมื่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ผ้าพันคอผืนเดียว เปลี่ยนทั้งตู้รถไฟ น้ำใจเล็ก ๆ ที่ทำให้ซูโจวทั้งเมืองยิ้ม
รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ หอยทอดๆนานก็จะกรอบ แต่ถ้าทอดแป๊บเดียวก็จะนิ่ม แล้วแต่คนกินจะชอบ ขอบคุณครับ
บทสรุปสุดท้ายคดี นัทปง หลักฐานชัด วงจรปิดในห้องเห็นทุกอย่าง
รศ.ยุทธพร ประเมินอนาคตการเมืองไทย หลังยุบสภา
7 น้ำต้องห้ามเทลงชักโครก—ทำบ่อยๆ ระวังส้วมระเบิด ค่าซ่อมหลักหมื่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
อนุทินตอบแถลงการณ์ปมยุบสภา พร้อมบอกให้พบกันที่คูหาเลือกตั้ง


