หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

5 สัญญาณที่ชี้ชัดว่า มนุษย์ยังคงมี "วิวัฒนาการอันซับซ้อน" อย่างต่อเนื่อง

โพสท์โดย AdamS JaideE
5 สัญญาณที่ชี้ชัดว่า มนุษย์ยังคงมี “วิวัฒนาการอันซับซ้อน” อย่างต่อเนื่อง

เมื่อนึกถึง “วิวัฒนาการ” ของมนุษย์ คนส่วนมากอาจนึกย้อนไปถึงเมื่อหลายพันปีก่อน และภาพการวิวัฒนาการจากมนุษย์คล้ายลิงขนดกสู่มนุษย์ที่ยืนตัวตรงด้วยสองขาหน้าตาคล้าย “คนปัจจุบัน” ก็จะลอยเข้ามาในหัว แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้ววิวัฒนาการของเรานั้นยังไม่สิ้นสุดแม้จนกระทั่งวันนี้!

Dr. Virpi Lummaa จากภาควิชาวิทยาศาสตร์ด้านพืชและสัตว์จากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ (Sheffield) แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ กล่าวว่า “คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าวิวัฒนาการของมนุษย์เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปเป็นเวลานานแล้ว และเพื่อเข้าใจร่างกายของเราเองเราต้องมองย้อนกลับไปในสมัยโบราณ”

ด้วยความก้าวหน้าทางการศึกษาและเทคโนโลยี จึงมีหลักฐานมากมายที่สามารถบอกได้ว่ามนุษย์เรากำลังวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุด ยีนของเราเปลี่ยนแปลง การกลายพันธุ์ก็กำลังเกิดขึ้น และไม่ใช่เพียงเท่านั้น แต่เรากำลังวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วกว่าเดิมอีกด้วย เราพัฒนาอย่างรวดเร็วถึง 100 เท่าเมื่อเทียบกับวิวัฒนาการเมื่อ 10,000 ปีก่อน!

และนี่คือหลักฐานสำคัญ 5 ประการที่แสดงให้เห็นวิวัฒนาการที่กำลังเปลี่ยนแปลงของมนุษย์

1. การดื่มนม

human-evolution01

โดยทั่วไปแล้ว ความสามารถในการย่อยแลคโทสที่อยู่ในนมจะสิ้นสุดลงเมื่อทารกถึงวัยที่จะเลิกดื่มน้ำนมจากอกของมารดา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนถึงดื่มนมแล้วปวดท้องหรือท้องเสีย แต่เมื่อมนุษย์มีการนำสัตว์ที่ให้น้ำนมอย่างวัว แพะ หรือแกะมาเลี้ยง ความสามารถในการย่อยน้ำนมในมนุษย์บางคนกลับถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ผลการศึกษาพบว่าผู้ที่เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงในยีนได้ดีกว่าคนอื่นก็คือกลุ่มคนที่เกิดวิวัฒนาการจนสามารถย่อยแลคโทสในนมได้นั่นเอง

การศึกษาในปี 2006 พบว่าความสามารถในการย่อยแลคโทสถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมา 3,000 ปีในแอฟริกาตะวันออก และปัจจุบันยีนของการย่อยแลคโทสกว่า 95% นั้นอยู่ในร่างกายของประชากรในแถบยุโรปตอนเหนือ

2. การสูญเสียฟันกราม

human-evolution02

บรรพบุรุษของเรานั้นมีกรามที่ใหญ่กว่ามนุษย์ในปัจจุบันมาก เพื่อช่วยในการเคี้ยวบดอาหารที่เหนียวและแข็งอย่างรากไม้ ถั่ว หรือพืชชนิดต่างๆ และพวกเขายังต้องใช้ฟันในการฉีกเนื้อสัตว์เพื่อรับประทานอีกด้วย

ในปัจจุบันเรามีกระบวนการในการประกอบอาหารและอุปกรณ์การตัดแบ่งเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของฟัน อาหารของเรานั้นนุ่มและเคี้ยวง่าย ฟันกรามซี่ใหญ่จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป จึงส่งผลให้ปากของเราไม่มีพื้นที่สำหรับ “ฟันคุด” เมื่อมันงอกออกมาหลายคนจึงเกิดการอักเสบจนต้องถอนทิ้ง แสดงให้เห็นว่าร่างกายของเรามีการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพความเป็นอยู่อยู่เสมอ และบางงานวิจัยก็เชื่อว่าในไม่ช้าฟันกรามของประชากร 35% ที่กำลังจะเกิดนั้นจะหายไปอย่างถาวร

3. การต่อต้านโรค

ในปี 2007 นักวิจัยได้ทำการค้นหาหลักฐานเพื่อมายืนยันถึงการวิวัฒนาการของมนุษย์ และได้มีการค้นพบยีนใหม่ที่สามารถต่อต้านโรคหลายชนิด เช่นยีนที่สามารถต่อต้านโรคมาลาเรียได้ ซึ่งยีนเหล่านี้พบได้มากในหมู่ชาวแอฟริกัน

นอกจากนี้ยังพบว่าการอาศัยอยู่ “ในเมือง” ทำให้เราเกิดวิวัฒนาการในการต่อต้านวัณโรคและโรคเรื้อนอีกด้วย ซึ่ง Dr. Ian Barnes ผู้ศึกษาด้านชีววิทยาจาก Royal Holloway แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอนยืนยันว่า “มันคือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สามารถยืนยันวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์มนุษย์”

4. สมองที่เล็กลง

human-evolution03

แม้หลายคนอาจจะเชื่อว่าขนาดของสมองที่ใหญ่โตคือหลักฐานของความเฉลียวฉลาดที่เหนือกว่าบรรดาสัตว์ทั้งหลาย แต่ในความเป็นจริงสมองของเรามีขนาดเล็กลงมาตลอด 30,000 ปี ขนาดโดยเฉลี่ยของสมองมนุษย์นั้นลดลงไปถึง 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร ถึง 1,350 ลูกบาศก์เซนติเมตร หรือประมาณลูกเทนนิส

มีข้อสรุปหลายแนวทางสำหรับความจริงข้อนี้ นักวิจัยกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าที่สมองมีขนาดเล็กลงเพราะเรากำลังฉลาดน้อยลงจริงๆ ตามประวัติศาสตร์แล้วขนาดของสมองมนุษย์ลดลงตามความเจริญและความซับซ้อนที่มากขึ้นของสังคม แสดงให้เห็นว่าความสะดวกสบายมากเกินไปทำให้เราไม่ต้องใช้สมองเพื่อการใช้ชีวิตและการเอาตัวรอด

แต่ในทางกลับกันนักวิจัยบางกลุ่มก็เชื่อว่าสมองเราไม่ได้มีขนาดลดลงเพราะเราฉลาดน้อยลง แต่ขนาดที่เล็กนั้นกลับมีประสิทธิภาพมากกว่า เนื่องจากเมื่อมันเล็กลงแล้วมันจะสามารถทำงานได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีแนวคิดที่ว่าที่สมองเล็กลงก็เพื่อประโยชน์ของการวิวัฒนการและการปรับตัว สมองที่เล็กลงนั้นได้ลดความรุนแรงและป่าเถื่อนของเราลงไปเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในสังคม

5. ดวงตาสีฟ้า

photo3

ย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดของมนุษย์ เราทุกคนล้วนมีดวงตาสีน้ำตาล แต่เมื่อ 10,000 ปีที่ผ่านมา ประชากรที่อาศัยอยู่ในแถบทะเลดำ (ยุโรป, เอเชียไมเนอร์ และดินแดนคอเคซัส) ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในยีนที่ทำให้สีของดวงตากลายเป็นสีฟ้า แต่เหตุผลของการเปลี่ยนแปลงนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด มีทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการทดสอบความเป็น “พ่อ” เนื่องจาก “เพศชายมีแรงกดดันในการวิวัฒนาการเพื่อไม่ให้สับสนกับลูกของชายคนอื่น” พวกเขาจึงดูแลเหล่าทารกตาสีฟ้าด้วยกันเท่านั้น เพราะเมื่อบรรพบุรุษตาสีฟ้าทั้งหมดเด็กก็จะไม่มีโอกาสมีดวงตาสีน้ำตาล และยังเป็นเหตุผลที่สามารถสนับสนุนการทดลองที่พบว่า “ชายตาสีฟ้าจะรู้สึกว่าหญิงตาสีฟ้ามีเสน่ห์และแรงดึงดูดมากกว่าหญิงตาสีน้ำตาล ในขณะที่ชายและหญิงตาสีน้ำตาลไม่รู้สึกเช่นนั้น”

ที่มา: mentalfloss, ภาพ: inspirationfeed,pinterest

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
AdamS JaideE's profile


โพสท์โดย: AdamS JaideE
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
44 VOTES (4/5 จาก 11 คน)
VOTED: จอมยุทธอินดี้, Ployza, เจ๊เงียว เสียวสลึงค์, เอ๋ง ไม่ดัดจริต, njack
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ไวรัลชุดเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุ: ชุดหรือศิลปะ?"แห่ถาม "หนุ่ม กรรชัย" ลาออกแล้ว9 อาหารกินแล้ว 'หน้าเด็ก' ช่วยชะลอความแก่ อาหารต้านริ้วรอย หาทานง่าย ดีต่อสุขภาพลิลลี่ ได้หมดฯ ฉลองวันเกิดสุดแซ่บ! เจอแซวแรง รีบสวนกลับทันควันแน็ก ชาลี ยอมรับ อักษรย่อ ว. คือแม่ผมเอง ลั่นพร้อมจ่ายแทนเต็มที่นักท่องเที่ยวดื่มเหล้าปนพิษในลาว กลายเป็นดราม่าเดือด เมื่อชาวเกาหลีขยี้มุมมองจนต้องร้อง อีหยังวะเจ้าอาวาสหลับลึกเกิน ปลุกกันทั้งวัดก็ยังไม่ตื่น ถึงกับต้องงัดประตูไปช่วย ลูกศิษย์บอกเพราะท่านหูตึงสกัดจับแก๊งซิ่ง'น้ำไม่อาบ'!บางรายเจ็บสาหัส!ชื่นชม! "ผู้กำกับดาว"โรงพักทุ่งสง เมืองคอน เข็นรถผู้สูงอายุเดินไม่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอนขอเน้นย้ำถึงกลุ่มที่ยังไม่ได้รับเงิน กรุณาแก้ไขบัญชีโดยด่วน เงินจำนวน 10,000 บาทจะถูกโอนในรอบสุดท้ายในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ตำรวจท่องเที่ยวช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเรือล่มเขื่อนรัชชประภาทะเลสาบฮาซู่: กระจกส่องท้องฟ้าแห่งมองโกเลียใน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แห่ถาม "หนุ่ม กรรชัย" ลาออกแล้ว"ไวรัลชุดเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุ: ชุดหรือศิลปะ?"สกัดจับแก๊งซิ่ง'น้ำไม่อาบ'!บางรายเจ็บสาหัส!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
นักท่องเที่ยวดื่มเหล้าปนพิษในลาว กลายเป็นดราม่าเดือด เมื่อชาวเกาหลีขยี้มุมมองจนต้องร้อง อีหยังวะ10 พฤติกรรมเสี่ยงที่คุณทำอยู่ทุกวัน โดยไม่รู้ตัวว่าทำลายสุขภาพระยะยาวในประวัติศาสตร์จีน ชีวิตของภรรยาทหารที่เสียชีวิตในสงครามชีวิตจะเป็นอย่างไร?เกิดเหตุไฟไหม้ต้นคริสต์มาส บนถนนออร์ชาร์ดในสิงค์โปร์ นักท่องเที่ยวคิดว่าเอฟเฟ็กต์โปรโมทหนัง โชคดีเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ทัน
ตั้งกระทู้ใหม่