เตือนภัยวัยรุ่น! ใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยโปรดระวัง เสี่ยงเป็นเนื้องอกมดลูก !
เมื่อการรณรงค์กับการป้องกันการท้องก่อน วัยอันควรหรือจะกล่าวได้ว่าเป็นช่วงวัยที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นในวัยเรียนหรือวัยที่กำลังอยู่ในช่วงทำมาหากินไม่มีศักยภาพ เพียงพอสำหรับการเลี้ยงดูบุตร กลายเป็นการท้องที่ไม่พร้อม ทำให้ “ยาคุมฉุกเฉิน” เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมใช้ พอๆ กับการใช้ยาคุมแบบธรรมดา อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ของความมันส์ตามวัย ทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกินยาคุมฉุกเฉินไม่ได้รับการทำความรู้จักให้ดี พอ
ความไม่เข้าใจกับการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
เรื่องน่าวิตกที่พบในกลุ่มเด็กวัยรุ่นและนักศึกษาคือการหันมาใช้ยาคุมฉุก เฉินในการป้องกันการตั้งครรภ์ เพราะคิดว่ามันง่ายและไม่ยุ่งยากกับการกินเหมือนยาคุมทั่วไปที่ต้องกินต่อ เนื่องเป็นระยะเวลานาน อัตราการใช้ยาคุมแบบฉุกเฉินเพิ่มสูงขึ้นโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การกินเกินเดือนละ 3-4 ครั้งจึงถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างมหันต์ที่ร่างกายจะเกิดความผิดดปกติอัน เนื่องมาจากระบบฮอร์โมน และเสี่ยงต่อ เนื้องอกมดลูกได้มากกว่าคนทั่วไปอีกหลายเท่า
ยาคุมฉุกเฉินกับผลกระทบต่อความแปรปรวนของระดับฮอร์โมน
เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีความเข้มข้นของฮอร์โมนที่สูงกว่ายาคุมทั่วไป แพทย์จึงไม่ค่อยนิยมให้นำมาใช้กันจนกลายเป็นยาสามัญธรรมดาแบบนี้ แต่จะถูกใช้ต่อเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆ จากความเสี่ยงที่จะทำให้ตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นการถูกข่มขื่น ถุงยางรั่ว หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจต่างเหล่านี้ที่อาจจำเป็นต้องใช้อย่างเร่ง ด่วนเพื่อลดอัตราการรวมตัวระหว่างไข่และอสุจิ ทว่าตามผลการวิจัยที่ออกมาใหม่ ตลอดช่วงชีวิตของผู้หญิงไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 ครั้ง ! ซึ่งถือว่าที่ผ่านมาเรามีความเสี่ยงกับอันตรายในอนาคตกับภาวะ เนื้องอกมดลูกได้สูงตามมา
ยาคุมฉุกเฉินจะเข้าไปสร้างปัญหาให้กับระบบฮอร์โมนในร่างกายจนเกิดความผิด ปกติเมื่อใช้ติดต่อกันบ่อยๆ จึงไม่แปลกที่คนที่กินยาคุมชนิดนี้มักจะได้รับผลข้างเคียงได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นอาการทั่วไปที่พบเห็นได้อย่างภาวะคลื่นไส้อาเจียนไป รุนแรงไปถึงเนื้องอกในตับ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดทั้งสมองและหัวใจ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือภาวะเนื้องอกที่พบได้ในมดลูก มีความเกี่ยวข้องกับภาวะเสียสมดุลของฮอร์โมนเช่นเดียวกัน
ความเชื่อมโยงของเนื้องอกมดลูกและยาคุมฉุกเฉิน
แม้ว่าโรคนี้ ส่วน ใหญ่จะไม่ใช่มะเร็ง ทว่ามันก็ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผุ้หญิง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ยังมีประจำเดือน อาจจะทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง มีประจำเดือนมามากหรือมาแบบกระปิดกระปรอย รู้สึกเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หากเนื้องอกขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ใหญ่ ก็จะทำให้เกิดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก หรือหากเป็นหญิงตั้งครรภ์ก็จะเกิดความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้สูง
แม้ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้เป็นสาเหตุหลักๆ ที่จะทำให้เกิดเนื้องอกเหล่านี้ แต่มันมีส่วนเกี่ยวข้องที่จะเข้าไปกระตุ้นระบบฮอร์โมนจนเกิดความแปรปรวน ส่งผลให้ความเสี่ยงต่างๆ เกิดขึ้นได้ง่ายนั่นเองค่ะ