ข้าราชการ กับ ความอดทน
"อาฟง" บัณฑิตที่สามารถสอบได้เป็นข้าราชการ ซึ่งเขาจะ ต้องไปประจำตำแหน่งอีกเพียงไม่กี่วันที่จะมาถึงนี้ แน่นอน ว่า เขาย่อมจะตื่นเต้น ดีใจ เป็นธรรมดาอย่างมาก เพราะว่า เขานั้นหวังมานานแล้วว่า เขาจะต้องได้รับราชการงานเมือง รับใช้ประชาชนเสียที
เมื่อเพื่อนของอาฟ่งทราบข่าว ต่างก็มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างถ้วนหน้า หนึ่งในเพื่อนของเขาก็มีบัณฑิตคนหนื่งนามว่า "อาโหงว" อาโหงวเป็นเพื่อนที่เรียน ร่วมอาจารย์เดียวกัน ซึ่งเขาก็มาแสดงความยินดีเป็นคนสุดท้ายเลยทีเดียว
อาฟ่งกับอาโหงวนั้น เดินมาสนทนากันที่สวนในบ้านของอาฟ่ง ซึ่งทั้งสองบัณฑิตนั้น ก็ได้พูดคุยถูกคอกันเป็นอย่างดี แล้วอาโหงวก็ได้กล่าวตักเตือน อาฟ่ง ออกมาว่า
"เมื่อท่านเป็นข้าราชการแล้ว ท่านจะต้องรู้จักอดทนให้มากๆ จะได้เป็นที่พึ่งของเหล่าประชาชนได้"
"พี่โหงว ท่านอย่าได้วิตกกังวล คำเตือนนี้ ข้าจะเก็บไว้และใส่ใจอยู่เสมอๆ"
จากนั้นทั้งคู่ก็พูดถึงเรื่องราวทางการเมือง ระบบราชการ ได้สักพัก อาโหงวนั้นก็กล่าวขึ้นว่า
"อาฟ่ง เมทื่อท่านได้เป็นข้าราชการ รับใช้บ้านเมือง ประชาชนและราชสำนักแล้ว จะต้องอดทนให้มากๆ"
"พี่โหงว ข้าจำใส่ใจไว้เสมอ" แม้ว่าจะรับปากแต่โดยดี แต่ในใจของอาฟ่งนั้น ก็อดคิดตะหงิดๆ ไม่ได้ และเมื่อพูดคุยกับ อาโหงว ไปได้สักครู่ อาฟ่งก็ กล่าวเช่นนี้ เดิมๆ ซ้ำไป ซ้ำมา 5-6 รอบ จนอาฟ่ง รู้สึกทนไม่ได้
" พี่โหงว ข้าทราบแล้ว ข้าจะต้องอดทน ต่อประชาชนให้มากๆ ไม่ต้องให้ท่านต้องมาพูดย้ำบอกข้าหลายๆ รอบหลอก"
"อาฟ่ง ข้าเพิ่งบอกเจ้าเองว่า ให้อดทนให้มากๆ แต่ข้าย้ำท่านไม่กี่ครั้ง ท่านก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว เมื่อท่านรับราชการ จะต้องมีเรื่องราว ซ้ำซากให้แก้ไข มีเหตุการณ์วุ่นวายมากมายให้ท่านต้องสะสาง แล้วอย่างนี้ท่านจะสามารถรับราชการได้อย่างไร งานราชการนั้นนอกจากความสามารถ ความซื่อตรง และความอดทนนั้น ก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง"
เมื่อได้ฟังคำของอาโหงวแล้ว อาฟ่งก็รู้สึกว่าตัวเองนั้น ยังมีความอดทนไม่พอ ดังนั้น เมื่อเขาได้รับเข้ารับราชการเรียบร้อยแล้ว จึงหัดพยายามให้ตัวเองเป็นผู้อดทนมาก แต่ เขาก็พยายาม หาเวลา ปรึกษา และพูดคุยกับอาโหงว อยู่อย่างสม่ำเสมอ เผื่อว่าหากเขาทำอะไรนอกลู่นอกทางแล้ว อาโหงว สหายแท้ผู้นี้ จะได้เตือนสติ ได้อย่างทันท่วงที
สุภาษิตสอนใจ
"รับใช้ประชาชน ความอดทนเป็นเรื่องสำคัญ"