หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เทคนิคการล้าง 2 ล้อคู่ใจให้เหมือนใหม่

โพสท์โดย คันอิ๊บหาย

 

เทคนิคการล้าง 2 ล้อคู่ใจให้เหมือนใหม่
 

          หลายคนคงสงสัยว่า การล้างรถจักรยานยนต์นั้นมีขั้นตอนด้วยหรอ ฟังดูแล้วอาจจะแปลกๆ แต่ที่จริงแล้วการล้างรถที่ถูกต้องนั้นต้องเป็นไปตามลำดับ เพื่อให้ผลที่ออกมาดูสะอาดสะอ้านที่สุด และวันนี้ BoxzaRacingจะนำเกร็ดความรู้ดีๆสำหรับชาวสองล้อทั้งหลาย ที่ไม่ว่าจะเป็น Bigbike (บิ๊กไบค์) หรือรถมอเตอร์ไซค์ธรรมดา ก็สามารถนำไปใช้ได้ และรับรองว่าผลจะต้องออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอน

 

 

ส่วนขั้นตอนนั้นไม่ยากเลย แค่เตรียมอุปกรณ์พื้นฐานดังนี้

 

ส่วนขั้นตอนการล้างมีดังนี้

 

1. เริ่มที่ฉีดน้ำอัดรถด้วยความแรงพอประมาณ ไม่แรงไป หรือเบาไป โดยเอามือลูบๆคราบดิน โคลนต่างๆ ให้หลุดออกจากรถหรือเหลือน้อยที่สุด

 

 

2. นำน้ำยาล้างรถที่เตรียมไว้มาล้างตามปกติ (ถ้าเป็นยี่ห้อที่สามารถกำจัดคราบหนักๆได้ จะดียิ่งขึ้น)

 

 

3. ล้างมอเตอร์ไซค์ 2 ล้อคู่ใจของเรา จากส่วนบนลงมาล่าง โดยการใช้ผ้านุ่ม เช่นผ้าสำลี (ถ้าเป็นของใหม่ เราควรจะนำมาแช่น้ำไว้สักประมาณ 1 คืน และถ้าสามารถใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มได้จะยิ่งดีใหญ่) ส่วนการล้างรถมอเตอร์ไซค์นั้น ขอแนะนำให้แบ่งผ้าออกเป็น 2 ผืน เหตุผลที่ต้องแยกเนื่องจาก โดยทั่วไปส่วนบนของรถจะมีฝุ่นน้อย ในขณะที่ด้านส่วนล่างของรถมีฝุ่นมาก (ไม่ควรใช้ฟองน้ำล้างรถ เพราะอาจจะมีเม็ดกรวด หิน ดิน หรือทรายติดอยู่)

 

 

          โดยในส่วนของผ้าผืนแรกให้นำมาใช้ทำความสะอาดส่วนบนของตัวรถ เช่น ถังน้ำมัน แฟริ่ง กระจกทั้งสองด้าน หน้าปัดเรือนไมล์ เบาะ และแฟริ่งท้ายรถ เป็นต้น หลังจากนั้นให้ฉีดน้ำออกก่อนที่จะใช้ผ้าผืนที่ 2 มาทำความสะอาดต่อ (เพราะถ้าเราทิ้งไว้นานๆ แชมพูทำความสะอาดรถอาจจะแห้งและกลายเป็นคราบติดรถเราได้)

          ต่อมาผ้าผืนที่ 2 ให้นำมาทำความสะอาดที่บริเวณส่วนล่างของตัวรถ เช่น โช๊คอัพหน้า โครงรถ เครื่องยนต์ ล้อหน้าและหลัง ต่อไปที่สวิงอาร์มหลัง ตามลำดับ หลังจากนั้นมาเช็ดต่อที่ส่วนบังโคลนและใต้ท้องรถรวมถึงโช๊คอัพด้านหลัง (เพราะส่วนหลังนี้อย่างที่รู้กันดีว่ามีคราบสกปรกเยอะที่สุดนั่นเอง)

4. ฉีดน้ำไล่น้ำยาล้างรถออกให้หมด จากนั้นใช้ลมมาทำการเป่าให้แห้ง (ถ้าใครมีปั๊มลมจะช่วยได้เยอะเลยในขั้นตอนนี้) และถ้าเป็นไปได้ อย่านำรถไปขับเพราะคิดว่าลมจะพัดจนแห้ง เพราะจะทำให้มีฝุ่น ดินทราย มาเกาะมากยิ่งขึ้น จากนั้นทิ้งไว้ 10-20 นาที เพื่อให้น้ำหยดลงด้านล่างให้หมด

 

 

5. ใช้ผ้าแห้งและเนื้อนุ่ม (หรือทำการพรหมน้ำหมาดๆ เพื่อให้ผ้ามีความนุ่มและอ่อนตัว) นำมาเช็ดรถให้แห้งทันที จะได้ไม่มีฝุ่นเกาะ และเพื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำบนผิวสีของรถ

 

ข้อควรระวัง : ไม่ควรล้างรถคู่ใจกลางแดดจ้า เพราะจะทำให้น้ำยาล้างรถแห้งไว และจะเกิดเป็นคราบบนผิวสีของรถนั่นเอง.

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
คันอิ๊บหาย's profile


โพสท์โดย: คันอิ๊บหาย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: ดีเจ ซูกัส, คุณชาย อินดี้, llHackll
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ก่อนอาย 30 บางคนไม่นึกอยากมีคู่ หลังอายุ 40 ยิ่งเป็นสุขกับการมีคู่ได้รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่ใกล้จะถึงวันลอยกระทงแล้วจ้า อีกวันเดียวเองเที่ยวพระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยางรู้จักโรคไอกรน: อาการที่ไม่ควรมองข้ามและการป้องกันที่คุณควรรู้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เเม่ บุ๋ม ปนัดดา ฟาดแรง หาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของคนอื่น อย่าเรียกว่าตนเองว่าช่วยเหลือล่าสุดบรรดาคนที่ด่า ใหม่ ดาวิกา ออกมาโพสต์ขอโทษแล้วหลังทนายรับเรื่องเตรียมฟ้อง รู้จักโรคไอกรน: อาการที่ไม่ควรมองข้ามและการป้องกันที่คุณควรรู้เที่ยวพระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยาง"บุกจับหลวงตา 'เวิร์คฟอร์มโฮม' สึกซ้ำรอบที่สาม!"ก่อนอาย 30 บางคนไม่นึกอยากมีคู่ หลังอายุ 40 ยิ่งเป็นสุขกับการมีคู่ได้
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
"มองข้ามไม่ได้! สัญญาณมะเร็งซ่อนอยู่ตอนแปรงฟัน รู้ทันรักษาไว"รู้หรือไม่ 3 สิ่งนี้ ไม่ควรใส่แก้วเก็บความเย็นเด็ดขาดรู้จักโรคไอกรน: อาการที่ไม่ควรมองข้ามและการป้องกันที่คุณควรรู้5 อาชีพสายช่างมาแรง! Gen Z แห่เรียน สอดรับเทรนด์ New Collar Workforce
ตั้งกระทู้ใหม่