ปัจจัย 4 ที่ทำลายความสำเร็จ
เชื่อว่าเราทุกคนมักมีไอเดียหรือมีความฝันจะทำอะไรอยู่บ่อยๆ บางคนก็บอกว่าอยากเปิดกิจการของตัวเอง บ้างก็บอกว่าอยากเริ่มทำอะไรขึ้นมาใหม่เป็นต้น แน่นอนว่ามันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนทุกคนนั้นจะ
เกิดไอเดียหรือมีอะไร ใหม่ๆ เข้ามาได้เรื่อยๆ
แต่พอเอาเข้าจริงเราก็มักจะไม่ได้ทำมันแต่อย่างใด จากประสบการณ์การพูดคุยกับหลายๆ คน รวม
ทั้งกับตัวเองด้วยว่าชีวิตเรานั้นมีหลายๆ เรื่อง
ที่เข้ามาทำให้เราเสียโอกาสที่จะได้ทำอะไรใหม่ๆ พวกนี้อยู่เสมอ แน่นอนว่าถ้าเราอยากจะประสบ
ความสำเร็จหรือได้ทำอย่างที่หวังก็คงต้องก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ไปให้ได้ ส่วนจะมีอะไรบ้าง และคุณกำลังประสบมันอยู่หรือเปล่า ก็มาดูลิสต์ตามด้านล่างนี้เลย
(source : yahoo.co.jp)
1. กลัว
พอเราต้องเริ่มอะไรสักอย่างขึ้นมาใหม่นั้น สิ่งแรกๆ ที่จะเกิดควบคู่ตามมาคือความกลัวหรือกังวลว่า
มันจะล้มเหลว คนอยากเปิดร้านขายของก็กลัวจะเจ๊ง
คนอยากเปลี่ยนงานก็กลัวว่างานใหม่จะไม่เข้าท่า ฯลฯ ความกลัวเหล่านี้เพราะส่วนใหญ่เราไม่อยาก
รับความผิดหวังหรือต้องเสียใจหาก เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
และนั่นทำให้โอกาสของหลายๆ คนหายไปโดยใช่เหตุ ถ้าคุณอยากจะลองทำอะไรสักอย่างนั้น การคิด
ให้ถ้วนถี่รอบคอบก็เป็นสิ่งดี
แต่ถ้าคิดมากจนเข้าขั้นกลัวเกินไปก็คงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไร
2. ขี้เกียจ
ไอเดียมันเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวโดยเราไม่ต้องลงแรงสักเท่าไร แต่พอจะให้
ต้องทำอะไรที่ต้องลงแรงเสียเวลาแล้วมันก็อีกเรื่อง
ทั้งนี้เพราะเราต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น ต้องทอนเวลาที่เคยสบายหรือเวลาที่เคยพักผ่อนออกไปเพื่อทำสิ่ง
อื่น หลายๆ ครั้งเราก็จะรู้สึกว่าทำไปทำไม
ความขี้เกียจและรักสบายก็จะเริ่มกลายเป็นเสียงในใจทำนองว่าอย่าเหนื่อย เลย อยู่แบบเดิมไปดี
กว่า และนั่นทำให้หลายๆ คนไม่ได้เริ่มทำอะไรสักที
3. ผัดวันประกันพรุ่ง
บางคนอาจจะไม่ได้ถึงขั้นขี้เกียจ แต่เพราะความเหนื่อยหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเยอะมากจนรู้สึก
ว่ายัง ไม่ใช่เวลาที่จะเริ่มทำ ขอเลื่อนกำหนดการไปก่อน
รออีกสักหน่อยเช่นรอให้มีแรง รอให้ว่างกว่านี้ ฯลฯ แล้วก็ผัดไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทำแม้ว่า
เวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ตาม เพราะพอถึงวันที่เราว่าง
มันก็จะมีอะไรใหม่เข้ามาแทรกอีกอยู่ดี ซึ่งการผัดวันประกันพรุ่งนี้เองก็น่ากลัวไม่แพ้กับความขี้เกียจ
เลยทีเดียว
4. ท้อ
การประสบความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน หลายๆ ครั้งระหว่างทางต้องพบกับความผิดหวัง
บ้างก็ต้องรอคอยโอกาสที่บางทีก็รอนานจนดูเหมือนจะไม่มีวันถึง
สิ่งที่ตามมาคือความท้อ การรู้สึกว่าสิ่งที่ทำคงไม่มีวันสำเร็จ บ้างก็รู้สึกว่าการตัดสินใจที่ผ่านมาคงเป็น
สิ่งที่ผิดและอยากเลิกทำเสียกัน ตอนนี้ จะว่าไปแล้วนั้น การท้อ
คงเป็นสิ่งที่ควบคู่กับการลงมือพยายามและฝึกฝน แม้แต่คนเก่งๆ เองก็จะมีจังหวะที่ต้องเผชิญกับช่วง
เวลายากลำบากอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่จะทำให้ก้าวข้ามไปได้คือ
พลังใจที่จะไม่ยอมแพ้เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นว่าความสำเร็จจะอยู่ตรง หน้าในวันหนึ่ง
ปัจจัย 4 อย่างข้างต้นนี้ เป็นสิ่งที่เรามักพบบ่อยๆ เวลาพูดคุยกับหลายๆ คนที่เข้ามาปรึกษา บ้างก็พูด
คุยในช่วงที่กำลังเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง
(รวมทั้งประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองด้วย) โดยเชื่อว่ามันคงเป็นสิ่งที่เราต้องเจอในวันหนึ่งตลอด
ชีวิตของเราเนี่ยแหละ ซึ่งเราก็คงต้องหาวิธีรับมือกับมันให้ได้
เพื่อจะก้าวไปสู่อนาคตที่เราหวัง