หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เคยสงสัยไหม…ว่าทำไมต้องใช้ดินสอเบอร์ 2 ในการทำข้อสอบ?

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

ทำไมต้องใช้ดินสอเบอร์ 2ระบายคำตอบในกระดาษคำตอบ?

การระบายคำตอบบนกระดาษคำตอบของข้อสอในแต่ละวิชาคงเป็นอะไรที่เรารู้จักกันดี และทุกครั้งอาจารย์ก็จะบอกให้เราเตรียมดินสอเบอร์ 2 มาเพื่อระบายคำตอบลงในกระดาษคำตอบ เคยสงสัยกันบ้างมั๊ย ว่าทำไมต้องใช้ดินสอเบอร์ 2?

แนวคิดนี้เกิดขึ้นในปี 1931 โดยครูฟิสิกส์โรงเรียนมัธยมชื่อ Reynold Johnson ขณะที่เขากำลังทำการตรวจข้อสอบ เขาเกิดสงสัยว่าน่าจะมีวิธีการอื่นที่เขาจะตรวจข้อสอบได้ที่ไม่ต้องตรวจทุกข้อเองด้วยมือ

เขารู้ว่า แกรไฟต์เป็นวัสดุที่ในดินสอที่ใช้ในการเขียน ซึ่งคุณสมบัติหนึ่งของแกรไฟต์ที่มีการจัดเรียงตัวของอิเล็กตรอนเป็นแนวระนาบ โดยอิเล็กตรอนวงนอกสุดสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระภายในวัสดุ จึงทำให้มันสามารถนำไฟฟ้าได้

จอห์นสันจึงได้คิดค้นเครื่องตรวจข้อสอบจากกระดาษคำตอบที่มีการระบายด้วยดินสอขึ้น และขายไอเดียให้กับ IBM ได้ผลิตเครื่องตรวจกระดาษคำตอบเป็นเครื่องแรก แต่ในตอนนั้นดินสอเบอร์ 2 ก็ยังไม่ได้เป็นปัญหาจนกระทั่งรุ่นของเครื่องที่ถูกนำมาใช้ในปี 1960 -1970 ซึ่งเป็นเครื่องที่มีอุปกรณ์ตรวจวัดการดูดกลืนแสงที่เรียกว่า phototubes ทำให้ไม่สามารถตรวจวัดแสงได้ในบางจุดที่ต้องการบันทึกคำตอบ จึงต้องใช้แกรไฟต์ที่เฉพาะมากขึ้น

เนื่องจากการทำงานของเครื่องตรวจกระดาษคำตอบในปัจจุบันนั้น จะใช้หลักการการวัดการสะท้อนของแสง ซึ่งคือจุดไหนมีการระบายคำตอบไว้จะมีการดูดกลืนแสงไว้ และส่วนไหนที่ไม่มีการระบายคำตอบ แสงก็จะสะท้อนกลับหมด โดยปริมาณของแสงที่สะท้อนกลับจะบอกถึงความเข้มที่ระบายซึ่งที่ต้องใช้ดินสอเบอร์ 2ก็เพราะว่าดินสอเบอร์ 2 มีปริมาณคาร์บอนมากพอที่จะดูดกลืนแสงได้ และก็เบาพอที่จะสามารถลบให้สะอาดได้

เกร็ดความรู้

ดินสอที่ใช้โดยทั่วไปนั้น ไส้ดินสอทำด้วยแกรไฟต์ (Graphite) ผสมกับ Clay ซึ่งเป็นดินชนิดหนึ่ง ซึ่งจะใช้เพื่อช่วยในเรื่องของความแข็งหรืออ่อนของไส้ดินสอ ซึ่งสามารถระบุความเข้มของดินสอเอาไว้ด้วยตามระบบยุโรป โดยใช้อักษร

“H” (hardness) หมายถึง ความแข็งของไส้ดินสอ
“B” (blackness) หมายถึง ความเข้ม
“F” (fine point) หมายถึง เนื้อละเอียด

ดินสอสำหรับศิลปะจะมีความเข้มหลายขนาดให้เลือกใช้ ซึ่งมีตั้งแต่ดินสอที่แข็งและสีอ่อน ไปจนถึงสีเข้มมาก โดยมักเรียงตามลำดับต่อไปนี้

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีระบบอเมริกันที่ใช้ตัวเลขเพียงอย่างเดียว โดยสามารถเทียบประมาณกับระบบยุโรปได้ดังนี้

ดินสอที่เขียนกันโดยทั่วไป มีความเข้มระดับ HB แต่ดินสอสำหรับระบายกระดาษคอมพิวเตอร์ หรือกระดาษคำตอบในการทำข้อสอบต้องใช้ความเข้มระดับ 2B ขึ้นไป

 

ที่มา: http://www.thaihiggs.com/knowledge/17282
ที่มาของข้อมูล : th.wikipedia.org/wiki/ดินสอ,http://www.vcharkarn.com/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: ดีเจ ซูกัส, ผมหรรมเล็กคร๊าาาฟ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ไม่ควรกิน"แตงโม"ถ้าอยู่ในคน7กลุ่มนี้!!นี่ ม.เชียงใหม่ หรือซาฟารี? เจอสัตว์แปลกๆ เยอะมาก!!มนต์รักราดหน้า..จากลูกค้ามาเป็นคู่ชีวิต"ลุงดอนใจดี" ย้ำอาหารที่ร้านไม่แพง และยังคงขายราคาเดิมหนุ่มสงสัย? ทำไมฝรั่งถึงไม่นิยมใส่ทองคำ และของมีค่าเวลาไปเที่ยว!!Pig Beach ชายหาดหมูและหมูอยู่ชายหาดไบเดน ฮึ่ม " ทุกคนต้องอยู่ใต้กฏหมายเดียวกัน "สุดอึ้ง!!! ลิงอุรังอุตัง ใช้สมุนไพรรักษาตัวเองไม่แปลกใจทำไมลิงใหญ่เป็นญาติที่สนิทที่สุดของมนุษย์สุดอัศจรรย์! ถ้ำใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใกล้ประเทศไทย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ลุงดอนใจดี" ย้ำอาหารที่ร้านไม่แพง และยังคงขายราคาเดิมเมื่อหนุ่มน้อยซื้อหูฟังบลูทูธมาใช้ครั้งเเรก เสียงนี่ชัดเลย ชัดว่ายังไม่ได้เชื่อมรวมความพีค ใน เดอะเสน็ค (พาร์ท 1)หนุ่มสงสัย? ทำไมฝรั่งถึงไม่นิยมใส่ทองคำ และของมีค่าเวลาไปเที่ยว!!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
Google rewardsวิธีต้มไข่แบบประหยัดไฟและน้ำ"ฉบับญี่ปุ่น"สุดอัศจรรย์! ถ้ำใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใกล้ประเทศไทยเคล็ดลับอายุยืนของคนญี่ปุ่น
ตั้งกระทู้ใหม่