ช่อง KIX ชวนเหยียบคันเร่งให้มิดไปกับ Tanner Foust จากสตั๊นท์หนังดังสู่พิธีกร Top Gear USA
หลังจากฝีมือการดริฟท์ระดับเทพสะท้านไปเข้าตาทีมงานรายการ Top Gear USA เข้า ทำให้แทนเนอร์ โฟสต์ (Tanner Foust) ถูกวางตัวให้มารับหน้าที่ 1 ใน 3 พิธีกรดำเนินรายการรถที่ดังที่สุดในโลกอย่าง Top Gear เวอร์ชั่นอเมริกัน เพื่อชูโรงสูบฉีดความมันให้ทะลุมาตรวัด ด้วยดีกรีแชมป์นักแข่งรถหลายประเภท ทั้ง Formula Drift Championship, U.S. Rallycross Champion, X Games Gold Medals และอีกมากมาย พ่วงด้วยการเป็นสตั๊นท์แมนในฉากขับรถสุดหวาดเสียวให้กับหนังแอคชั่นดังหลายเรื่อง อย่าง Fast and The Furious 3: Tokyo Drift งานนี้แทนเนอร์ขอขนประสบการณ์ในวงการนักซิ่งกว่า 10 ปีมารับหน้าที่พิธีกรเปลี่ยนความเร็วให้กลายเป็นความมันบนหน้าจอใน Top Gear USA season 4 ทุกวันอังคาร เวลา 20.00 น. เริ่ม 2 มิถุนายนนี้ ช่อง KIX (ทาง TOT iptv 257 และ CTH 83)
1. จากนักแข่งรถระดับแชมป์โลกสู่พิธีกรรายการ Top Gear USA
บอกได้เลยว่าสุดยอดมากครับ กับการเป็นส่วนหนึ่งของ Top Gear USA รายการที่คนรักรถและความเร็วทั่วโลกต่างชื่นชอบ ผมว่ามันเป็นงานที่ดีที่สุดในโลกเลยนะ ที่ให้คนรักความเร็วอย่างผม ได้มาเล่น มาลองรถเจ๋งๆหลากหลายรุ่นร่วมกับก๊วนเพื่อนพิธีกรอีก 2 ท่าน เวลาทำงานเลยเหมือนกลุ่มเพื่อนนัดมาทำอะไรเจ๋งๆร่วมกันเลยล่ะ
2. อุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตการขับรถ
ครั้งหนึ่งผมขับแรลลี่แล้วเกิดเสียหลักทำให้รถพุ่งออกหน้าผาลึก ทำให้หัวผมกระแทกอย่างแรง เหตุการณ์นี้ทำให้ผมคิดได้ว่า การเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ควรมีอีโก้ ว่าตัวเองเก่งหรือบังคับได้ทุกอย่าง เมื่อเริ่มเหยียบคันเร่งนั่นคือสิ่งไม่คาดฝันครั้งใหม่อาจรออยู่ข้างหน้า หากเกิดความผิดพลาดก็ต้องยอมรับและเรียนรู้อะไรจากมันให้ได้
3. เป็นนักแข่งรถระดับแชมป์ตัวพ่อแบบนี้สิ่งที่ท้าทายที่สุดของการเป็นสตั๊นท์แมนคืออะไร
ความปลอดภัยคือสิ่งที่น่ากังวลและท้าทายที่สุด เวลาแข่งรถ เรายังอยู่ท่ามกลางนักแข่งรถที่มีประสบการณ์ด้วยกัน แต่การเป็นสตั๊นท์ในภาพยนตร์ คุณต้องทำสิ่งที่เสี่ยงตายท่ามกลางนักแสดงร่วมและทีมงานต่อหน้ากล้อง ซึ่งพวกเขาอาจจะไม่มีทักษะเรื่องพวกนี้เลยก็ได้ อย่างตอนผมถ่ายทำ Tokyo Drift ผมต้องแข่งแบบยกล้อข้างแต่เข็มขัดนิรภัยดันเกิดไม่ทำงานดื้อๆซะอย่างนั้น มันอันตรายมาก แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่จะโค ตะ ระมันเลยล่ะ
4. เหตุการณ์ใดในรายการที่ทำให้เทพอย่างคุณสันหลังวาบ
โอ้โห มากมายเกินกว่าที่คุณคาดคิดแน่ๆ โดยเฉพาะในซีซั่น 4 ที่พวกคุณกำลังจะได้ดู มีตอนหนึ่งพวกเราต้องพยายามขับเรือข้ามทะเลสาบ Ontario โดยมีผมกับอดัมแข่งกัน แต่เรือดันจมกลางทะเลสาบ ตอนนั้นผมกับอดัมเกือบจมน้ำจริงๆ แต่ก็ช่วยเหลือกันได้ทันเวลา เอาจริงๆพวกเราก็โดนตำรวจเพ่งเล็งกันหลายครั้งระหว่างถ่ายทำรายการเหมือนกันนะ เพราะหลายครั้งมันช่างอันตรายซะเหลือเกิน
5. ระหว่างแรลลี่ ดริฟท์ติ้ง และการเป็นพิธีกรรายการนี้ อะไรที่คุณตื่นเต้นและรู้สึกมันไปกับมันที่สุด
ผมตื่นเต้นกับทุกๆอย่างที่ผมทำ ตอนแข่ง ผมได้แต่มองไปข้างหน้า เพื่อที่จะได้กลับไปทำพิธีกรรายการ เมื่อถ่ายทำเสร็จผมก็จะตื่นเต้นที่จะได้ไปถ่ายหนังเรื่องต่อไป เรียกได้ว่าผมตื่นเต้นกับสิ่งต่อไปที่ผมกำลังจะทำเสมอน่ะ
6. แชมป์นักแข่งอย่างคุณคงสะสมซูเปอร์คาร์ที่บ้านไว้หลายคันเลยล่ะสิ
ผมรักรถก็จริง แต่มีอยู่แค่ 3 คัน 3 คันนี้บอกทุกอย่างในชีวิตผมได้ดี คันแรกคือ Porsche Turbo ปี 2001 เครื่อง 750 แรงม้า บ่งบอกความเป็นนักแข่งรถของผม คันที่สองคือ Ford Raptor เป็นรถกระบะคันใหญ่ เพราะผมอยู่ใกล้ชายหาดก็เลยต้องใช้รถที่ผมจะสามารถดูแลครอบครัวของผมได้ทั้งหมด ส่วนอีกคันเป็นรถเก่าของพ่อผม มันทำให้ผมนึกถึงพ่อเสมอและคอยเตือนให้รู้ว่าเราเป็นใคร
7. ในเมืองไทยมีถนนดีๆให้คุณได้มาแข่งรถมากมาย คุณจะเลือกรถรุ่นใดมาโชว์ความเป็นตัวคุณให้คนไทยได้เห็น
ต้อง Porsche เท่านั้น! ผมคือแฟนตัวยงของ Porsche เพราะมันถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองตัวตนผมเลยนะ ไม่ว่าจะความเร็วที่เข้าขาและเทคโนโลยีที่เข้ากับการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน หรือ แม้แต่กับบนเลนแข่ง
8. คุณว่าทุกวันนี้รถอเมริกันเปลี่ยนไปอย่างไร
ในช่วง 5 ปีหลังมานี่ เราได้เห็นการก้าวใหญ่ของรถอเมริกัน บริษัทรถอเมริกันได้จับมือพัฒนาเทคโนโลยีกับบริษัทรถยุโรป เราเลยได้เห็นรถอเมริกันที่มีเทคโนโลยีไม่ต่างจากรถยุโรป ไม่ว่าจะเครื่องยนต์หรือดีไซน์ หรือไม่ก็กับบริษัทรถของจีนที่ได้มาร่วมกันสร้างความหลากหลายทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นไปอีก
9. เห็นว่าคุณเป็นสตั๊นท์ในหนังแอคชั่นหลายเรื่อง รวมถึง Fast and The Furious: Tokyo Drift เมื่อหลายปีก่อน หากได้เล่นเป็นตัวเองใน Fast 8 คุณจะหยิบเอาทักษะแข่งรถใดมาโชว์
Rallycross ผมว่ามันเป็นการแข่งรถที่แปลกเอาการอยู่ ผมจะเลือก Beetle มาโชว์ในหนัง เพราะเป็นรถที่เล็กกะทัดรัด ดูไม่มีพิษภัย แต่กลับซ่อนสมรรถนะที่โหดใช่ย่อย เพราะทั้งสไลด์ได้ กระโดดข้ามได้ และก็เร็วอย่าบอกใคร ถ้าได้เอามันไปโชว์ Rallycross ในหนัง ต้องเตะตาคนดูแน่เลย
10. หัวใจของการขับรถเร็วคืออะไร
อาจจะฟังดูแปลก สำหรับผมมันคือ “การควบคุมสายตา” เพราะมันคือศูนย์กลางและจุดเริ่มต้นของการขับรถ เราต้องบังคับ ควบคุมและคาดการณ์ทุกอย่างที่อยู่เบื้องหน้า หากควบคุมสายตาไม่ดีจะไม่สามารถขับรถได้เร็วและปลอดภัยได้เลย