ไต้หวันพยายามผลักดันอาหารท้องถิ่นสู่ครัวโลก
ไต้หวันนับเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารการกินที่มีวัตถุดิบสดๆจากท้องทะเล และแหล่งกสิกรรมในท้องถิ่น อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงอาหารประจำชาติ ชาวไต้หวันจำนวนไม่น้อยกลับไม่สามารถบอกได้ว่าเมนูไหนคืออาหารประจำชาติของตน ด้วยเหตุนี้หลายฝ่ายจึงพยายามส่งเสริมและผลักดันให้อาหารไต้หวันเป็นที่รู้จักของนานาชาติมากขึ้น
แม้ทางการไต้หวันจะพยายามทำให้อาหารประจำชาติเป็นที่รู้จักในเวทีโลก และสนับสนุนให้ร้านอาหารได้ขยายสาขาไปยังต่างประเทศ ด้วยการจัดงานประชาสัมพันธ์ต่างๆ อาทิ งาน Taiwan Culinary Exhibition ซึ่งมีขึ้นเป็นประจำทุกปีในไต้หวัน และการเดินสายออกร้านในต่างประเทศ แต่กลับมีผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จเพียงไม่กี่รายเท่านั้น
นอกจากชาไข่มุกอันโด่งดัง ปัจจุบันมีร้านอาหารไต้หวันที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติเพียงไม่กี่แห่ง หนึ่งในนั้นคือ ร้านติ่น ไท่ ฟง ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ซึ่งให้บริการอาหารประเภทติ่มซำและมีสาขามากถึง 112 แห่งใน 11 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ร้านอาหารชื่อดังอีกแห่งของไต้หวันอย่าง ซินเย่ กลับพบว่าการขยายสาขาไปยังต่างแดนเป็นเรื่องยุ่งยาก โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่า อาหารหลายเมนูของ ร้านซินเย่ มีความซับซ้อนในการปรุงมากกว่าร้านติ่น ไท่ ฟง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การควบคุมคุณภาพและรสชาติของอาหารในสาขาต่างแดนทำได้ยากหากไม่มีการส่งพ่อครัวมือหนึ่งไปปรุงด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ สาเหตุอีกประการที่ทำให้อาหารไต้หวันไม่โด่งดังในต่างแดนคือการที่ชาวต่างชาติไม่คุ้นเคยกับอาหารไต้หวันนั่นเอง โดยผู้บริหารมูลนิธิวัฒนธรรมอาหารจีน บอกว่า คนไต้หวันเป็นผู้ที่อพยพมาจากประเทศต่างๆและไต้หวันยังเคยเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่น ดังนั้นอาหารไต้หวันจึงได้รับอิทธิพลจากทั้งอาหารจีนและญี่ปุ่น และทำให้เป็นการยากที่จะระบุว่าเมนูใดเป็นอาหารประจำชาติ เนื่องจากอาหารที่คนไต้หวันรับประทานในปัจจุบันถูกดัดแปลงมาจากอาหารต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันหลายฝ่ายพยายามส่งเสริมอาหารของชนพื้นเมืองไต้หวัน ซึ่งปรุงจากวัตถุดิบอย่าง ผักกูด และปลาที่ย่างด้วยหินร้อน ขณะเดียวกันพ่อครัวแม่ครัวรุ่นใหม่ก็หันมานิยมเปิดร้านอาหารแนวฟิวชั่นมากขึ้น โดยผสมผสานรสชาติและวิธีการปรุงอาหารพื้นเมืองไต้หวันกับอาหารต่างชาติ