หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คุณรู้หรือไม่? ที่มาของคำว่า “สบู่” มาจากไหนกันนิ

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

สบู่ก้อนแรกถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 6 ศตวรรษก่อนคริสตกาลหรือประมาณ 2500 ปีมาแล้ว กล่าวกันว่าพวกฟีนีเชียนได้ต้มน้ำกับไขมันแพะและขี้เถ้าเข้าด้วยกัน แม้ฟังดูจะไม่ค่อยสะอาดนัก แต่สารโพแทสเซียมคาร์บอเนตในขี้เถ้านั้นช่วยให้สบู่ดึกดำบรรพ์ซึ่งมีผิวมันปลาบก้อนนี้มีคุณสมบัติใช้ทำความสะอาดได้

อย่างไรก็ตาม การผลิตและการใช้สบู่ก็ยังดำเนินไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ จนในสมัยหลังมีข้อยืนยันทางการแพทย์ว่า แบคทีเรียเป็นตัวการของโรคภัย เมื่อนั้นฝรั่งจึงยอมหันมาอาบน้ำและถูสบู่กันถ้วนหน้า แต่ตัวสบู่เองก็ไม่ได้มีการพัฒนาไปจากก้อนแรกเท่าไรเลย

ในปี ค.. 1879 นายฮาร์เลย์ พร็อกเตอร์ เจ้าของโรงงานสบู่ และนายเจมส์ แกมเบิล ญาติซึ่งเป็นนักเคมี พบว่าสบู่กุรุสที่ถูกทิ้งให้ตีผสมอยู่ในเครื่องนานเกินไปเพราะคนงานลืมปิดเครื่องมีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่าง คือมีน้ำหนักเบาจนสามารถลอยน้ำได้เพราะฟองอากาศในเนื้อสบู่ ปรากฏว่าสบู่ลอยน้ำได้ของนายพร็อกเตอร์ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว

นายพร็อกเตอร์ตั้งชื่อสบู่แหวกแนวของตนว่า ไอวอรี สบู่ยี่ห้อนี้มีรอยปรุตรงกลางก้อน หักแบ่งครึ่งได้ นายพร็อกเตอร์ตั้งสโลแกนสบู่ของตนว่า "มีเนื้อสบู่บริสุทธิ์ถึง 44 /100 เปอร์เซ็นต์" ทั้งนี้เป็นความคิดที่ดัดแปลงมาจากรายงานว่า สบู่ไอวอรีมีสิ่งเจือปน อยู่ 56/100 ของหนึ่งเปอร์เซ็นต์ เมื่อกลับเอาลบมาเป็นบวก ผลที่ได้คือคอนเซ็ปต์โฆษณาในยุคต้นที่สุดจะคลาสสิก และยังช่วยให้นายพร็อกเตอร์ตั้งตัวเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทเครื่องอุปโภคขนาดยักษ์ เรียกว่าร่ำรวยขึ้นมาจากฟองสบู่ก็เห็นจะไม่ผิดนัก

 


          เมืองไทยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์นับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวต่างชาติมักนิยมเข้ามาค้าขายกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ โปตุเกส ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น

          ในสมัยก่อนชาวต่างชาติพวกนี้มักจะมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ดูทันสมัยนำเข้ามาขายในประเทศไทยอยู่เสมอ สินค้ายอดนิยมในสมัยนั้นที่ชาวญี่ปุ่นนำเข้ามาเผยแพร่ในเมืองไทยคือ “สบู่” ที่สามารถใช้ได้ทั้งซักผ้าและถูตัวทำความสะอาดร่างกาย จริงแล้วสบู่ไม่ใช่สินค้าของญี่ปุ่น แต่เป็นของคนยุโรปที่ไปค้าขายในญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นจะเรียก Soap เป็น “โซปปุ” () ดังนั้นชาวญี่ปุ่นที่นำสบู่มาขายในเมืองไทยจึงเรียกตามสำเนียงของตัวเองว่า “โซปปุ”

          แต่ด้วยภาษาและสำเนียงที่ต่างกัน คนไทยจึงเรียกเพี้ยนมาเป็นคำว่า “สบู่” ที่เรารู้จักและใช้มาถึงทุกวันนี้นี่เอง

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
44 VOTES (4/5 จาก 11 คน)
VOTED: uoon, วรลักษณ์, ธนาคม, Kies, I AM THOR, นางเบิร์ด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!สื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว อดีตหัวหน้าพรรคคนดัง ย้ายซบ ปชป. ตอบแทนบุญคุณช่วยเป็น สส. สมัยแรกนางเอกดัง จบป.เอกแล้ว ลุ้นเล่นการเมืองภาพชุดมวยไทย กับ กังฟู จีน ต่อสู้กันจริงๆ เรามีการต่อสู้กับมวยกังฟูมานานมากแล้ว สู้กันจนมวยจีนต้องกลับไปพัฒนารูปแบบใหม่อ่ะเน่อป่วน ! 3 จว.ใต้ ใบปลิวเกลื่อนยะลา ขณะที่ชาวบ้านไปละหมาดวันศุกร์แพนด้า อาละวาดทำร้ายผู้ดูแล ต่อหน้านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นสั่งกั้นมุมภเขาไฟฟูจิ! เหตุ นนท. ทำพิษ"คาซิง ลุง" ส่ง "ลาบาบู้" ลิมิเตดให้ "ลิซ่า"..หลังช่วยทำยอดขายถล่มทลาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวเครียด! โพสค์ระบาย เหมือนไร้ตัวตนในที่ทำงาน?อดีตหัวหน้าพรรคคนดัง ย้ายซบ ปชป. ตอบแทนบุญคุณช่วยเป็น สส. สมัยแรกจีนล้ำ!"เสินโจว-18"ส่งนักบินถึงสถานีอวกาศเทียนกงป่วน ! 3 จว.ใต้ ใบปลิวเกลื่อนยะลา ขณะที่ชาวบ้านไปละหมาดวันศุกร์
ตั้งกระทู้ใหม่