หนังซุปเปอร์ฮีโร่ยอดแย่ 5 อันดับจาก Marvel Comic

ค่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Marvel Comic ที่ทำภาพยนตร์เจ๋งๆ อย่างThor อย่างเรื่อง The Avengers หรือ Iron Man หรือ Blade มาแล้ว ไม่ว่าใครก็คงมีทำพลาดกันได้บ้าง ในบทความนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่สุดยอดแย่ 5 อันดับจากค่าย Marvel Comic นั้นมีเรื่องอะไรบ้าง

1. Howard The Duck (1986)

หากท่านที่ได้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง The Guardian of the Galaxy แล้วอยู่จนถึงเครดิตรันจบ จะได้เห็นเป็ด รูปร่างหน้าตาประหลาดตัวหนึ่ง โผล่มาพูดแค่สองประโยค นั่นแหละ  Howard จากเรื่อง Howard The Duck ที่เป็นหนึ่งในหนังสือการ์ตูนจัดทำโดย Marvel Comic ที่ได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1986 (พ.ศ. 2529) ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นการแปลงการ์ตูนเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เรียกได้ว่าน่าผิดหวังที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

ด้วยยอดการสร้างจำนวน 37 ล้านเหรียญสหรัฐ และ ได้รับรางวัล Razzie Awards รวมทั้งถูกตีตราว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีการถ่ายทำ และ สกรีนเพลย์ยอดแย่แห่งปี ไม่แปลกเลยที่จะได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดแย่ตลอดกาล

บางเรื่องจะบอกว่าเป็นหนังสือการ์ตูนก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเอามาทำเป็นหนังหรอกนะ

2. Elektra (2005)

สาวบึ้ก Jennifer Garner รับบทเป็น Elektra ตัวละครจากเรื่อง Daredevil ได้รับการออกทุนสร้างโดย 20th Century Fox เล่นเอาคนดูมึนไปตามๆกัน แม้ว่าสาวเจ้า Garner จะพยายามเล่นบทนี้สุดชีวิตแล้วก็ตาม ผลที่ออกมาก็ยังเป็นที่น่าผิดหวังแบบสุดๆอยู่ดี

สำหรับภาพยนตร์ความยาว 96 นาที Elektra เต็มไปด้วยตัวละครมิติเดียว การแสดงทื่อๆ และ เอฟเฟคเห่ยๆ มาพร้อมกับสคริปต์ห่วยๆ พล็อตวกวน ไม่ได้ช่วยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีอะไรดีขึ้นไปกว่าเดิมเลยแม้แต่นิดเดียว

ผู้ชมแทบจะไม่ให้ความสนใจในภาพยนตร์เื่องนี้ และ ไดเร็คเตอร์ Rob Bowman ก็ไม่ได้มีภาพยนตร์ที่เข้าตากรรมการได้เป็นฟีเจอร์ตั้งแต่นั้นมา

3. Blade: Trinity (2004)

หลังจากที่ Blade ภาค 1 และ ภาค 2 ที่ประสบความสำเร็จอย่างดี David Goyer ก็ได้จัดสร้างภาคจบ trilogy พร้อมทั้งนำเสนอภาพยนตร์เรื่อง Blade ที่แย่ที่สุดเท่าที่ได้ทำมา Blade Trinity เป็นภาพยนตร์เรื่องที่พิสูจน์ว่า Goyer เขียนได้ดีกว่า กำกับ ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านั่นเป็นคำชมหรืออะไรกันแน่

ไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตา ฉากต่อสู้ไม่เท่บาดใจเท่าสองภาคก่อน แต่กลับมีแต่ฉากต่อสู้ที่เหมือนไม่มีกะจิตกะใจสู้ ตำนานของ Dracula แล้วก็หาคู่หูหน้าตาดีมาให้เบลดอีกต่างหาก

มีการรายงานภายหลังว่า พระเอกผิวเข้มที่รับบท Blade นาย Wesley Snipes ดูจะไม่พอใจกับภาพยนตร์ภาคนี้เท่าไหร่นัก (จะไปว่าเขาก็ไม่ได้) แถมยังฟ้องร้องสตูดิโอที่ไม่ยอมรับความคิดเห็นของเขาระหว่างการถ่ายทำทั้งๆที่ตัวเขาเองนั้นเป็นถึงโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยซ้ำ แต่จากความสนุก มันส์ สะใจที่สร้างเอาไว้จากภาค 1 และ ภาค 2 ทำให้เรื่อง Blade: Trinity ทำเงินได้สูงถึง $128.9 ล้านเหรียญทั่วโลก เป็นสองเท่าของงบที่ลงทุนไป แต่เป็นยอดที่ต่ำที่สุดของแฟรนไชส์เรื่องนี้

4. Ghost Rider: Spirit of Vengeance (2012)

5 ปีหลังจาก Ghost Rider ภาคแรก มาพร้อมกับความเฉยชาของผู้ชม พอภาคสองตามมาก็เลยยิ่งชาเฉยหนักเข้าไปใหญ่ ด้วยงบที่น้อยกว่าครึ่งของภาคแรก มาถึงภาคนี้ยิ่งไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี ซีจี ห่วย พล็อตห่วย ตัวละคร ไม่ได้รับการพัฒนา ไม่มีมิติ ทื่อเป็นท่อนไม้ ที่สุดแล้วภาพยนตร์ทำเงินได้ $132.6 ล้านเหรียญทั่วโลก เรียกได้ว่าล่มไม่เป็นท่า

5. Fantastic Four (2005)

หลังจากทิ้งช่วงไปได้หลายปีเพื่อพัฒนา ในที่สุด Fantastic Four ก็เปิดตัวภาคสองออกมาให้ปี 2005 แม้ว่าภาคแรกจะประสบความสำเร็จอย่างเกินความคาดหมายก็ตาม

ปัญหาของ Fantastic Four มีหลายอย่าง ทั้ง Ioan Gruffudd, Jessica Alba และ Julian McMahon เหมือนได้รับการแคสติ้งมาอย่างไม่ค่อยตรงบทเท่าไหร่ (ส่วน Chris Evans กับ Michael Chiklis ดูยังไงก็ยังเอาฮาได้อยู่) สคริปต์แย่ ซีจีห่วย พล็อตอืด ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำเงินได้ $330 ล้านเหรียญทั่วโลก น่าจะเป็นเพราะจากความนิยมในตัวละครจากภาคแรก แต่อย่างที่รู้ๆกัน ภาคแรกดี ไม่ได้หมายความว่าภาคต่อๆไปจะดีด้วยเหมือนกัน