สุดยอดเทคนิค! ขจัดปัญหาการเลี้ยงน้องหมาร่วมกับสัตว์ตัวอื่น

 

 

     น้องหมาไม่ว่าพันธุ์เล็ก พันธุ์ใหญ่ อายุมาก อายุน้อย ต่างก็มี 2 ทักษะ หลักๆ ที่น้องหมาต้องฝึกให้ได้ก่อนที่จะนำสัตว์ตัวอื่นมาเลี้ยง หรือนำมาเลี้ยงหลังจากเลี้ยงสัตว์ตัวอื่นอยู่ก็คือ “เรียกแล้วต้องกลับมา” และ “บอกห้ามให้อย่าไปยุ่ง” หรือ บอกให้ "หยุด" หรือ "อย่า"  ให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะฝึกได้ค่ะ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาค่ะ (อ่านเพิ่มเติมวิธีการฝึกได้ที่บทความ 10 เทคนิค จำเป็นต้องฝึก! ก่อนพาน้องหมาออกเที่ยว ค่ะ)  
 

    ในส่วนอุปกรณ์สำหรับการฝึก ที่จำเป็นต้องมีก็คือสายจูง เพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมากระโจนเข้าหาสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ และ ขาดไม่ได้เลยก็คือขนมสำหรับเป็นรางวัลค่ะ รวมเบ็ดเสร็จแล้ว เพียงแค่อุปกรณ์ง่าย ๆ 2 ชิ้น คำสั่งพื้นฐานที่น้องหมาจำเป็นต้องรู้ และที่สำคัญความอดทนของผู้เลี้ยง ก็สามารถขจัดปัญหาน้องหมาล่าสัตว์ตัวอื่นในบ้านได้แล้วค่ะ แต่จะมีวิธีการอย่างไร ตามมาอ่านต่อเลย!

 

 

 

 

      1. ทำความเข้าใจถึงธรรมชาติของน้องหมาว่าพวกเขามีสัญชาตญาณในการไล่ล่า โดยเฉพาะน้องหมากลุ่มฮาวนด์และกลุ่มเทอร์เรียร์ที่เลี้ยงไว้ล่าสัตว์ อย่าง แจ็ค รัสเซลล์ บีเกิล พิทบูล เกรย์ ฮาวนด์ ฮัฟกัน ฮาวนด์ พวกเขาจะแทบคลั่งเมื่อเห็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่วิ่งไปวิ่งมา หรือ แม้กระทั่งนกที่บินอยู่เห็นเป็นไม่ได้ค่ะ สัญชาตญาณมันร่ำร้องให้ไล่ล่า เพราะนั้น ผู้เลี้ยงจะต้องยอมรับก่อนว่า ถ้ามีสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเข้ามาอาจทำให้เกิดปัญหาแน่นอน ไม่ควรทำโทษพวกเขาหากเห็นพวกเขาวิ่งไล่ หรือทำร้าย เพียงห้ามให้หยุดก็พอค่ะ 

   
 

     2. เมื่อเราเข้าใจธรรมชาติของพวกเขาแล้ว ก็ต้องปรับพฤติกรรมของพวกเขา โดยการใส่สายจูง พาออกสังคม ไปเจอคนโน้นคนนี้ น้องหมาตัวอื่น หรือเวลาเห็นสัตว์ชนิดอื่นอย่างแมว หนู กระต่าย นก หากพวกเขาทำท่าจะไล่ล่าก็ให้กระตุกสายจูง ออกคำสั่งว่า “อย่า” หรือ “หยุด” แล้วสั่งให้นั่งลงเพื่อที่ให้สงบสติลงค่ะ ค่อยฝึกไปนะคะจนพวกเขารู้ว่า การไล่ล่าสัตว์เป็นสิ่งต้องห้ามค่ะ แต่ถ้าเขาเป็นมิตรกับสัตว์ก็จะได้รับคำชมและรางวัลแทน 

 

 

     3. อย่างไรก็ตาม เราจะยังไว้ใจน้องหมาไม่ได้นะคะ เพราะหลายครั้งต่อหน้าเราเขาก็เรียนร้อยแต่รับหลังมักชอบเล่นงานสัตว์ตัวอื่นจนถึงแกชีวิต ผู้เลี้ยงอาจต้องคอยสังเกตภาษากายเวลาพวกเขาเจอสัตว์ว่ามีปฏิกริยาอย่างไร  ถ้ายังดูตื่นตัว กระโดดอยากเข้าไปหา มองไม่วางตาตั้งท่าจะไล่ก็ให้ระมัดระวังมากขึ้นในการฝึกหรือการปล่อยให้อยู่ด้วยกันค่ะ แต่ถ้าเข้ามานิ่ง ๆ พยายามดมก็ให้ค่อย ๆ ปล่อยน้องหมาทำความรู้จักไปก่อนนะคะ แต่ต้องอย่าลืมใส่สายจูงน้องหมาเผื่อเกิดอะไรฉุกเฉินจะได้สามารถกระตุกสายจูงได้ค่ะ ส่วนสัตว์ตัวอื่นควรอยู่ในกรง หรืออยู่กับมือเราเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นค่ะ

 

 

 

     4. สร้างสิ่งแวดล้อม หรือบรรยากาศให้น้องหมารู้สึกว่าสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเขา และผู้เลี้ยงต้องยกระดับความสำคัญของสัตว์ตัวนั้นๆ ให้เหนือกว่าน้องหมา เช่น เอาไว้ในกรง เมื่อเอาออกมาก็อุ้มไว้ ถ้าน้องหมาสนใจต้องสั่งให้นิ่ง หรือนั่งลง คอย แล้วจึงค่อย ๆ ให้เขาดม รู้สึกคุ้นเคย เป็นพวกเดียวกัน แต่ถ้าเขาทำท่าทีจะขบหรือกัด ให้ออกคำสั่งห้ามน้องหมา พร้อมให้ให้พวกเขาคอยจนกว่าเราเล่นกับสัตว์ตัวอื่นเสร็จก่อนจะเล่นกับเขา ส่วนการให้อาหารก็เช่นกันค่ะ ควรให้อาหารสัตว์ตัวอื่นก่อน นั่นก็เพื่อแสดงให้น้องหมาเห็นการจัดลำดับว่าพวกเขาอยู่ตำแหน่งที่น้อยกว่า ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายสัตว์ตัวอื่น หรือแสดงความก้าวร้าวใส่ค่ะ 

 

     5. ในกรณีที่น้องหมากลัวสัตว์ตัวอื่น หูตก หางลู่หลบตาเมื่อเจอ ก็ให้ปล่อยพวกเขาไปให้ค่อยๆ ทำความรู้จักเมื่อพวกเขารู้สึกผ่อนคลาย พร้อมที่จะค่อยๆ ก้าวเข้ามาทำความรู้จักเองค่ะไม่ควรแหย่แกล้งยื่นสัตว์ตัวอื่นให้พวกเขายิ่งหวาดกลัวนะคะ เพราะจะทำให้พวกเขาจะยิ่งเครียด กดดัน แสดงความก้าวร้าว แว้งกัด เพื่อเป็นการป้องกันตัว แล้วนั่นจะยิ่งทำให้การกระชับมิตรยุ่งยากมากเข้าไปอีก

 

 

 

     6. ให้ผู้เลี้ยงค่อยๆ ฝึกวันละนิด ถ้าเห็นว่าพวกเขายังจะไล่ล่าอยู่ก็ออกคำสั่งห้ามเช่นเดิมแล้วหยุดการฝึกก่อน ค่อยกลับมาฝึกใหม่ค่ะ หรือ จะลองวิธีการสายสายจูงพาน้องหมาเดินเล่นพร้อมกับอุ้มหรือนำสัตว์เลี้ยงตัวอื่นไปด้วย เป็นการสร้างพลังงานฝูงให้น้องหมารู้สึกว่าสัตว์อีกตัวอยู่ฝูงเดียวกันนะ ไม่ควรทำร้ายกัน

 

     7. สุดท้ายถ้าน้องหมายังไม่ยอมหยุดสัญชาตญาณนักล่า ควรจับแยกกันชัดเจน อาณาเขตใคร อาณาเขตมัน หรือใส่ที่ครอบปากน้องหมาเมื่อพามาเจอกัน แล้วหมั่นฝึกวินัยให้น้องหมามีความอดทน ทำตามคำสั่งค่ะ (อ่านเพิ่มเติมบดความเคล็ด (ไม่) ลับ! การฝึกให้น้องหมารู้จักควบคุมตัวเอง ค่ะ)