หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องของ ฟอ. ฟัน

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

  ฟันเป็นอวัยวะที่อยู่ในช่องปากของคนและสัตว์ มีขนาดเล็ก มีส่วนประกอบของแคลเซียม มีส่วนรากติดอยู่กับขากรรไกรและมีตัวฟันโผล่พ้น

เหงือกออกมา ฟันเป็นอวัยวะที่เจริญมาจากเนื้อเยื่อชั้นนอก (Ectoderm) เช่นเดียวกับผิวหนังหรือเกล็ดปลา ฟันเป็นส่วนหนึ่งในระบบย่อยอาหาร ทำหน้าที่หลักในการ ฉีก บด อาหารให้คลุกเคล้ากับน้ำลายและนอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการพูดออกเสียงด้วย ฟันเป็นลักษณะโดดเด่นและมีอายุยาวนานของสัตว์มีกระดูกสันหลังโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นักโบราณคดีใช้เป็นในการระบุชนิดของฟอสซิลและบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต รูปร่างของฟันของสัตว์แต่ละชนิดจะมีความสัมพันธ์กับชนิดอาหาร ดังนี้

-สัตว์กินเนื้อ (Carnivore) เช่น เสือ สิงโต สัตว์เหล่านี้ ธรรมชาติได้สร้างให้ทางเดินอาหารสั้นมาก เนื่องจากเนื้อ สัตว์ เน่าเปื่อยเร็วมาก แล้วสารจากการเน่าเปื่อยของเนื้อ จะกลายเป็นสารพิษ ดังนั้น ทางเดินอาหารสัตว์ กินเนื้อ จึงวิวัฒนาการมาให้สั้น ดูดซึมเฉพาะธาตุอาหาร แล้วถ่ายกากทิ้งโดยเร็ว ไม่ทันดูดซึมสารเสีย จากการเน่าเปื่อย สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด สัตว์กินเนื้อมีเขี้ยวที่คม มีขากรรไกรที่ทรงพลัง พร้อมกรงเล็บอันคมกริบ ทั้งหมดนี้ ออกแบบมาสำหรับล่าเหยื่อโดยแท้ ฟันหน้าและเขี้ยวของสัตว์กินเนื้อ จะแหลมคม เพื่อใช้ในการล่าเหยื่อ ดังนั้นฟันและเขี้ยวที่แหลมคมจึงสามารถกัดทะลุและชำแหละเนื้อและกระดูกของเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ โดยสัตว์เหล่านี้จะไม่มีฟันกรามที่ใช้ในการบดเคี้ยวเช่นเดียวกับมนุษย์และสัตว์กินพืช

-สัตว์กินพืช (Herbivore) ได้แก่ สัตว์ที่มีเท้ามีลักษณะเป็นแบบกีบ เช่น วัว ควาย กวาง และสัตว์กินพืชอื่นๆ สัตว์กินพืชจะมีฟันหน้าเฉพาะที่ขากรรไกรล่าง ส่วนทางด้านบนจะเป็นแผ่นแข็ง เพื่อใช้รับการฟันด้านล่าง ในการกัดกินหญ้าและพืชต่างๆ ฟันจะมีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ระหว่างฟันหน้าและฟันด้านใน ฟันกรามมีลักษณะแบบเรียบและเรียงชิดกัน ช่วยใช้สามารถบดเคี้ยวพืชที่เหนียวๆ โดยสัตว์เหล่านี้จะไม่มีเขี้ยวหรือฟันหั่น สัตว์กินพืชบางพวกจะมีแบคทีเรียอยู่ในกระเพาะอาหาร มีไว้สำหรับการย่อยเซลลูโลสของพืชที่กินเข้าไป สัตว์กินพืชนี้จะกินหญ้าเข้าไปเก็บไว้ในร่างกาย จากนั้นมันสามารถที่จะสำรอกอาหารที่มันกลืนไปแล้วออกมาเคี้ยวใหม่ เรียกพฤติกรรมนี้ว่าการ เคี้ยวเอื้อง จึงทำให้สัตว์กินพืช เช่น วัว ควาย มีกระเพาะอาหารถึงสี่ห้อง



-สัตว์ที่กินทั้งพืชและเนื้อสัตว์ (Omnivore) เช่น ลิง สุนัข แมว จะมีฟันที่เหมาะทั้งการกินเนื้อและกินพืช ขากรรไกรสามารถเคลื่อนไหวได้ทั้งแบบขึ้นลงและทางด้านข้าง ฟันจะประกอบด้วยฟันตัด เป็นฟันที่มีปลายคมสำหรับตัด เขี้ยวเป็นฟันที่ใช้จับและฉีก ฟันกรามจะใช้สำหรับกัดและบดอาหาร ระบบทางเดินอาหารของสัตว์พวกนี้สามารถย่อยสลายได้ทั้งพืชและสัตว์

             ฟันแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน คือ ฟันตัด (incisor) ฟันเขี้ยว (Cuspid or canine) ฟันกรามน้อย (Premolar) และฟันกราม (Molar) ฟันของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมี 2 ชุด ในมนุษย์ฟันชุดแรกจะเรียกว่าฟันน้ำนม จะเริ่มขึ้นเมื่อมีอายุ 6 เดือน และจะขึ้นครบเมื่อมีอายุ 2 ปีครึ่ง จำนวน 20 ซี่ ฟันชุดที่ 2 จะเรียกว่าฟันแท้ หรือฟันถาวร มีจำนวน 32 ซี่ ฟันชุดนี้จะเริ่มขึ้นเมื่อมีอายุ 6 ปี แต่จะขึ้นครบ 28 ซี่เมื่อมีอายุ 12 ปี โดยที่เหลือคือฟันกรามซี่สุดท้าย 4 ซี่ จะขึ้นมาในช่วงอายุ 18 – 25 ปี ถ้าฟัน 4 ซี่ยังไม่งอกขึ้นมาแสดงว่าเป็นฟันคุด

             ฟันนอกจากจะใช้ในกระบวนการย่อยอาหารแล้วยังสามารถนำข้อมูลเกี่ยวกับฟันมาใช้ในการแก้ปัญหาคดีฆาตรกรรมได้อีกด้วย โดยการสืบค้นจากประวัติการทำฟันที่มีอยู่ตามโรงพยาบาลหรือคลีนิคต่างๆมาร่วมประกอบกับโครงสร้างของฟันหรือกระดูกขากรรไกร การสืบค้นจากประวัติการทำฟันนี้สามารถช่วยในการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้ เช่นตัวอย่างการเกิดเครื่องบินตก การพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลค่อนข้างสะดวกในการพิสูจน์คนต่างชาติแต่สำหรับคนไทยอาจจะยากเพราะว่าน้อยคนนักที่จะมีประวัติการทำฟัน

 

ฟันของสิ่งมีชีวิตต่างๆ

 

             ถ้าเราลองสังเกตกันดีๆจะพบว่าฟันจะเริ่มพบได้ตั้งแต่สัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังจำพวกแมลงและหอย เช่นตั๊กแตน ปลาหมึก หอย แต่ฟันของสัตว์เหล่านี้จะประกอบด้วยสารประกอบพวก Chitin แต่ใช่สัตว์ที่มีฟันอย่างชัดเจนและมีบทบาทโดดเด่นก็คือสัตว์มีกระดูกสันหลัง ฟันของสัตว์เหล่านี้จะมีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด โดยเราสามารถดูลักษณะฟันของสัตว์แต่ละประเภทโดยรวมได้ดังนี้

ปลา: ฟันของปลาส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นซี่เล็กๆ เรียกกันเป็นแผงหรือบางชนิดเป็นซี่ยาวๆถี่ทำหน้าที่ในการกรองอาหารคล้ายกับตาข่าย แต่ฟันของปลาที่มน่าสนใจและมีการศึกษากันมากก็คือฟันของปลาฉลาม ฟันของปลาฉลามเป็นส่วนที่มีการเจริญพร้อมกับผิวหนัง โดยเจริญมาจากกระดูกอ่อนบริเวณขากรรไกรมีกระบวนการสร้างคล้ายกับเกล็ด ฟันของปลาฉลามมีการผลัดหลุดออกไปเรื่อยๆ โดยตลอดชั่วอายุของปลาฉลามอาจมีฟันทั้งหมดถึง 35,000 ซี่ ฟันของปลาฉลามมีลักษณะคล้ายใบเลื่อยมีสารเคลือบฟัน ฟันใหม่จะเจริญมาจากด้านในรอมาแทนที่ฟันด้านนอกฉลามแต่ละชนิดจะมีจำนวนฟันในแต่ละแถวไม่เท่ากันรวมไปถึงระยะเวลาในการงอกทดแทนฟันซี่ที่หลุดหายไป นอกจากปลาฉลามยังมีปลาอีกชนิดที่มีฟันน่าสนใจเช่นกันและแตกต่างจากฟันของปลาชนิดอื่นๆ ก็คือปลา Goliath Tiger Fish เป็นปลานักล่าที่มีฟันขนาดใหญ่ แหลมยาว คล้ายกับจระเข้ พบในทวีปแอฟริกาโดยมีความดุร้ายพอๆกับปลาปิรันยาในทวีปอเมริกาใต้เลยทีเดียว
          
                    Shark Teeth                                             Goliath Tiger Fish

กบ: สัตว์จำพวกนี้ภายในปากมีฟันแต่ไม่ชัดเจนมีขนาดไล่เลี่ยกัน คล้ายกับซี่เลื่อย นอกจากนี้ยังฟันที่ทำหน้าที่พิเศษของกบก็คือ vomerine teeth ที่ใช้ในการยึดเหยื่อ

สัตว์เลื้อยคลาน: สัตว์เลื้อยคลานแบ่งออกเป็น 4 ประเภท มีเพียงประเภทเดียวเท่านั้นที่ไม่มีฟันก็คือพวกเต่า ส่วนประเภทอื่นเช่น งู จระเข้ กิ้งก่า จะมีฟันที่เกาะอยู่กับขากรรไกร สัตว์เลื้อยคลานที่กินพืชจะมีฟันที่มีลักษณะกว้างและแบนใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร ส่วนพวกที่กินเนื้อฟันจะมีลักษณะยาวเรียวและแหลมใช้ในการกัดและฉีกในกลุ่มของงูฟันเขี้ยวด้านหน้า 2 คู่ทั้งด้านบนและด้านล่างได้พัฒนาให้มีลักษณะยาวเรียวและในช่วงเวลาปกติสามารถพับเก็บซ่อนอยู่ใต้เหงือกได้ใช้ในการกัดและจัดการเหงื่อด้วยพิษ ส่วนจระเข้จะมีฟันขนาดใหญ่และแหลมประกอบอยู่บนขากรรไกรขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาทำให้มีพลังในการกัดค่อนข้างสูง

นก: สัตว์กลุ่มนี้เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังกลุ่มเดียวที่ไม่มีฟัน มีคนจำนวนมากสงสัยว่านกไม่มีฟันแล้วนกเหล่านี้กินอาหาร บดอาหารได้อย่างไร นกจะมีอวัยวะพิเศษที่เรียกว่ากึ๋น (Gizzard) ช่วยในการย่อยอาหารอยู่ระหว่างช่วงคอกับลำตัว ทำหน้าที่พักอาหารและบดอาหารไปด้วย โดยนกจะกินเศษกรวด เศษหินเพื่อช่วยในการบดภายในกึ๋นและจะถ่ายออกมาพร้อมกับมูล

สัตว์กลุ่มสุดท้ายก็คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์กลุ่มนี้มีรูปร่างลักษณะของฟันที่หลากหลายมากที่สุด เช่น

Aardvarks สัตว์ชนิดนี้เป็นสัตว์ทิ้องถิ่นของทวีปแอฟริกา มีลำตัวขนาดกลาง ขุดรูอยู่อาศัย ออกหากินในเวลากลางคืน อาหารของมันก็คือมด ปลวกและผลไม้บ้าง ลักษณะส่วนหน้าจะยาว เวลากินอาหารจะใช้ลิ้นที่มีลักษณะเหนียวแหย่ลงไปในรูมดหรือปลวก ถ้ารูของรังมดหรือปลวกแคบมันจะใช้กรงเล็บแหวกออกให้กว้างพอที่จะหาอาหารได้ ฟันของตัวนี้จะมีโพรงประสาท เนื้อฟันบางติดกับโพรงประสาท ตัวของฟันไม่มีสารเคลือบฟัน มีของตัวนี้จะเป็นฟันกรามน้อยและฟันกราม

Cetaceans เป็นพวกวาฬที่มีฟัน ฟันของแต่ละชนิดในกลุ่มนี้จะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น โลมามีฟันเป็นซี่แหลมๆเล็ก มากกว่า 100 ซี่อยู่บนขากรรไกร ในขณะที่บางชนิดเช่นนาวาฬ มีฟันคล้ายเขายูนิคอร์นยื่นยาวออกมา 2- 3 เมตร ฟันดังกล่าวจะประกอบไปด้วยเส้นประสาทที่มีความซับซ้อนมากมายมารวมกัน ทำหน้าที่เป็นอวัยวะรับสัมผัสในการหาอาหาร ทิศทางการเดินทางในการอพยพ และการสืบพันธ์ และอีกชนิดหนึ่งที่มีความน่าสนใจของฟันก็คือ Beaked Whales ซึ่งไม่มีฟัน มีเพียงเพศผู้เท่านั้นที่มีฟันรูปร่างแปลกประหลาด โดยฟันดังกล่าวจะใล้ในการหาอาหารและในบางครั้งยังใช้ในการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวและแสดงความแข็งแรง

      
                 Narwal Whale                                                   Narwal Teeth

Rodent หรือสัตว์ฟันแทะ สัตว์พวกนี้จะมีฟันตัด (Incisor) ที่เจริญยืดยาวตลอดชีวิตเรียกกระบวนการนี้ว่า Aradicular ไม่เหมือนมนุษย์ที่ cellameloblast ตายหลังจากที่ฟันมีการพัฒนา สัตว์พวกนี้จะสร้างสารเคลือบฟันทั้งด้านหน้าและด้านหลังออกมาอย่างต่อเนื่องจากวัตถุดิบที่หลากหลายจากที่มันกินเข้าไปทำให้ฟันมีความคม ฟันของสัตว์พวกนี้ใช้ในการตัดกิ่งไม้และเปลือกผลไม้ ในบางชนิดพบการเจริญทางพันธุกรรม เช่น Sibling vole และหนูตะเภา สัตว์ฟันแทะเหล่านี้จะไม่มีฟันเขี้ยวและฟันกรามน้อย มีช่องว่างระหว่างฟันกรามกับฟันตัดเรียกว่า Diestama region ส่วนกระต่าย (Lagomorph)จะมีการผลัดฟันตัดตอนก่อนคลอดออกมา ฟังของมันจะมีฟันตัด 6 ซี่ ฟันกรามน้อยด้านบน 3 ด้านล่าง 3 ซี่ และฟันกรามด้านบนด้านล่างอย่างละ 2 ซี่ ซึ่งจะต่างจากสัตว์ฟันแทะอย่างหนูอย่างกระรอกก็คือ มีฟันตัดที่เพิ่มขึ้น 1 คู่และมีฟันกรามน้อยด้วย ฟันของกระต่ายจะกร่อนไปสัปดาห์ละ 4 มม. การกร่อนของฟันกระต่ายเกิดจากการกัดอาหารเส้นใยเยอะโดยเกิดขึ้นกับการสร้างมาทดแทน

          
             Rodent Teeth                              Lagomorph Teeth

ม้า: ม้าตัวเต็มวัยจะมีฟันตั้งแต่ 36 – 44 ซี่ ประกอบด้วยฟันกรามน้อย 12 ซี่ ฟันกราม 12 ซี่ และฟันตัด 12 ซี่ โดยปกติแล้วเพศผู้จะมีเขี้ยว 4 เขี้ยว ส่วนเพศเมียพบน้อยมากน้อยกว่า 28% ในม้าบางตัวมี 1-4 ซี่ของ wolf teeth เป็นเขี้ยวเล็กๆอยู่บริเวณแก้ม ฟันของม้าสามารถทำนายอายุได้ ในช่วงระหว่างแรกเกิดและ 5 ปี จะสามารถทำนายได้อย่างชัดเจนโดยการสึกกร่อนของฟันน้ำนมและฟันแท้ ในช่วง 5 ปีนั้นฟันจะมีการสึกกร่อน หลังจากนั้นแล้วก็สามารถคาดเดาจากลักษณะการสึกกร่อนของฟันตัด รูปร่าง มุมมองของฟันที่มีการกระทบกันและอื่นๆ การสึกกร่อนของฟันเกิดจากอาหาร การดำรงชีวิตและคอกที่ใช้เลี้ยง

     
         Elephant Skull and Tusk                              Elephant Teeth
             
           ฟันที่มีลักษณะต่างออกไปเช่น งาช้าง เป็นลักษณะพิเศษของฟันเขี้ยวที่ใช้สำหรับการขุดดินและการต่อสู้ ฟันของช้างมีความใกล้เคียงกับฟันของพยูนทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเมื่อก่อนช้างเคยเป็นสัตว์น้ำมาก่อนหรือปล่าว ช้างมีฟันกราม 4 ซี่ ด้านบนด้านล่างฝั่งละซี่ เมื่อมีอายุมากกว่า 40 ปี ฟันจะถูกแทนที่ด้วยฟันกรามชุดใหม่ที่มีขนาดใหญ่ โดยฟันกรามนี้จะงอกมาจากด้านหลังของขากรรไกรมาแทนที่อันที่หลุดไป

            จากทั้งหมดพบว่าลักษณะฟันของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารและวัตถุประสงค์ซึ่งส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตอยู่รอดและการสืบเผ่าวงศ์ตระกูลของมันต่อไป

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
VOTED: Asuka, คุณกินไง จะใครละ, ลูกสาวอบตกลับมาแล้ว, Saisiamasia
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ความยิ่งใหญ่ของนักรบอังกอร์โบราณแห่งกัมพูชา : ชุดเกราะที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม"คำทำนายวันโลกสิ้น ของ'หลวงปู่เทสก์'แคปชั่นลอยกระทง 18+ อ่อยๆ เด็ดๆย้อนดูคลังรถ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" 50 คัน แต่ละคันไม่ธรรมดา! คนขอซื้อ 14 ล้านยังไม่ขาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หล่อมาก !!“อีตั้น ศักดิเดช” ลูกชายแม่หมิว โตเป็นหนุ่มหล่อ เข้าวงการบันเทิงเต็มตัวแกรมมี่ต้อนรับ'หมูเด้ง'สู่ค่ายอย่างเป็นทางการ!แก๊งบิ๊กไบค์ออกทริปเต็มถนน ติดธงประเทศเพื่อนบ้าน แช่ขวาขวางถนน.ไม่สนโลก"ความยิ่งใหญ่ของนักรบอังกอร์โบราณแห่งกัมพูชา : ชุดเกราะที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม"
ตั้งกระทู้ใหม่