การสร้างกำแพงเมืองจีนดูแบบมาจาก “มังกร”
หากพูดถึง “กำแพงเมืองจีน” หรือ The Great Wall of China นั้น ก็คงคิดถึงเรื่องของความยิ่งใหญ่ เป็นตัวอย่างความสามารถและความพยายามครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของมวลมนุษยชาติ ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนและความรุ่งเรืองของจีนมาหลายศตวรรษ แต่แน่นอนว่า มันยังมีความจริงอีกมากมายที่ซ่อนเราอยู่ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน และวันนี้เราจะเอามาฝากกัน
25.คุณอาจคิดว่ากำแพงเมืองจีนมีความยาวเพียงแค่ 6,276 กิโลเมตร แต่จริงๆ แล้วมันมีความยาวถึง 8,851 กิโลเมตร เพราะในส่วนที่หลายๆ คนไม่นับนั้นคือ ส่วนที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นทางธรรมชาติระหว่างกำแพงที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของความยาวกำแพงเช่นกัน
24.การก่อสร้างกำแพงเมืองจีนใช้เวลายาวนานเกิน 2 พันปี โดยการสร้างส่วนแรกนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาลนั่นเอง
23.แต่ก่อนนั้นกำแพงเมืองจีน ไม่ได้มีชื่อว่า “The Great Wall of China” แต่มีตั้งแต่ชื่อธรรมดาๆ อย่าง “barrier” “rampant” หรือ “fortress” ไปจนชื่อราวบทกวีอย่าง “Purple Frontier” และ “Earth Dragon” จนกระทั่งในปลายศตวรรษที่ 19 ที่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “The Great Wall of China”
22.ชาวตะวันตกคนแรกที่เหยียบลงบนกำแพงเมืองจีนคือนักสำรวจชาวโปรตุเกสที่ชื่อ Bento de Gois ในปี 1605
21.ที่ว่ากันว่าปูนที่ใช้นำมาเชื่อมอิฐของกำแพงนั้นทำมาจากกระดูกมนุษย์ ไม่ใช่ความจริง แต่เป็นวัสดุก่อนสร้างที่หาได้ในช่วงเวลานั้นๆ ต่างหาก ซึ่งมีตั้งแต่ดิน ดินเหนียว กรวด หิน ไม้ เป็นต้น
sagittariandreams.blogspot.com
20.กำแพงเมืองจีนบางส่วนผุพังไร้การดูแล และที่สำคัญในช่วงปี 1970s กำแพงเมืองจีนถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของลัทธินิยมเผด็จการ จึงมีการสนับสนุนให้ผู้คนมานำอิฐไปก่อสร้างบ้านเรือนแทน
19.กำแพงเมืองจีนก่อสร้างสิ้นสุดลงในปี 1644 ในจักรพรรดิ์คนสุดท้ายของราชวงศ์หมิง หลังจากนั้นก็ไม่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกเลย มีแต่การทำนุบำรุงเท่านั้น
18.จุดที่กว้างที่สุดของกำแพงคือ 9.144 เมตร และจุดที่สูงที่สุดคือ 3.6576 เมตร ส่วนจุดที่สูงที่สุดของหอคอย สูง 7.9248 เมตร
17.มันยากที่จะบอกว่ามีคนเกี่ยวข้องในการก่อสร้างกี่คน แต่ประมาณการกันว่าอยู่ที่ราว 800,000 คน
16.เคยมีความเชื่อที่เป็นที่นิยมว่า เราสามารถมองเห็นกำแพงเมืองจีนได้จากดวงจันทร์ ราวกับมองเห็นเส้นผมของมนุษย์ในระยะ 2 ไมล์ แต่นั่นไม่ใช่ความจริง
15.ซึ่งจริงๆ แล้ว เพียงแค่มองกำแพงเมืองจีนด้วยตาเปล่า จากการโคจรรอบโลกในระยะต่ำๆ ที่ราว 100 ไมล์จากพื้นโลกก็แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ซึ่งเคยมีนักบินอวกาศบอกว่าเห็น แต่ตอนหลังบอกว่าเป็นเพียงแม่น้ำเท่านั้น ที่เขาเห็น
14.การสร้างกำแพงเมืองจีนไม่ได้มีแค่ป้องกันการคุกคามจากทางเหนือเท่านั้น แต่ยังมีเพื่อลาดตระเวณ ควบคุมชายแดน ควบคุมการค้าขายผ่านชายแดน และการอพยพอีกด้วย
13.ตามตำนานเล่าว่า การสร้างกำแพงเมืองจีนดูแบบมาจาก “มังกร” ซึ่งบางคนก็บอกว่า พอดูจริงๆ ก็เหมือนมังกรกำลังขดอยู่เหนือภูเขาจริงๆ
12.มีคนดังจากหลายวงการมาเที่ยวที่กำแพงเมืองจีนแห่งนี้ รวมไปถึงบรรดาประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายๆ คนด้วย อาทิ George W. Bush, Ronald Reagan, Richard M. Nixon และ Barack Obama.
11.และที่แห่งนี้ยังถูกทำเป็นสถานที่ทดสอบกีฬาอีกด้วย อาทิ ในปี 1987 นักวิ่งทางไกลของอังกฤษชื่อ William Lindesay มาวิ่งที่นี่เป็นระยะทางรวมกันกว่า 1,500 ไมล์ หรือราว 2,414 กิโลเมตร
10.มันคือช่วงเวลาของการก่อสร้างกำแพงเมืองจีนนี่เองที่มีการคิดค้น “รถลาก” ของชาวจีนและเริ่มใช้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
9.ในช่วงที่ผ่านมา มีสงครามหลายครั้งที่สู้กันบนสมรภูมิกำแพงเมืองจีน ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1938 ช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 นั่นเอง
8.หอคอยสังเกตุการณ์ที่กำแพงเมืองจีนถูกใช้เป็นที่ส่งสัญญาณต่างๆ โดยใช้สัญลักษ์อย่างเช่น แสงไฟ ควัน หรือธง เป็นต้น
7.จุดที่สูงที่สุดของกำแพงเมืองจีนอยู่ที่บนภูเขา Heita ใกล้ๆ กรุงปักกิ่ง สูงถึง 5,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล
6.กำแพงเมืองจีนถือเป็น “สุสาน” ที่ยาวที่สุดในโลกอีกด้วย เพราะในระหว่างการก่อสร้างนั้น มีแรงงานจำนวนมากมายที่ตายที่นี่และถูกฝังไว้ที่รากฐานของกำแพงแห่งนี้
5.ในปี 1987 UNESCO บันทึกกำแพงเมืองจีนอยู่ในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ประจำชาติที่ยิ่งใหญ่ของโลก
4.ผู้ให้บริการนักท่องเที่ยวบางราย จัดทัวร์ในยามค่ำคืน ในเวลาที่กำแพงเมืองจีนจะถูกประดับประดาไปด้วยไฟอย่างสวยงาม
3.ด้วยความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีน ทำให้การดูแลยากตามไปด้วย ตอนนี้มีเพียงสององค์กรที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ได้แก่ the China Great Wall Society และ the International Friends of the Great Wall
2.ตลอดการมีอยู่ของกำแพงเมืองจีนนั้น มีตำนานเล่าขานมากมาย และหนึ่งในเรื่องที่ดังที่สุดคือเรื่องของนาง Meng Jiang Nu เธอเป็นชาวนาที่ถูกบังคับให้มาทำงานที่กำแพงเมืองจีนในสมัยราชวงศ์ Qin เมื่อเธอทราบว่าสามีของเธอตายในระหว่างการทำงานที่กำแพง เธอร้องไห้จนกำแพงตรงนั้นถล่มลงมาจนเผยให้เห็นกระดูกของสามีของเธอ เธอจึงสามารถนำกระดูกไปฝังได้ เรื่องเป็นเป็นเรื่องที่เศร้ามากจนมีคนสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกด้วย
1.กำแพงเมืองจีน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก ต่อปีมีคนมาที่นี่หลายสิบล้านคน และแค่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันชาติของจีนนั้น มีคนมาที่นี่ราว 8 ล้านคนเลยทีเดียว!
processedfishcake.wordpress.com