เรามีโอกาส ได้เดินทางไปประเทศเกาหลี
เพื่อชมโรงงานผลิตกีตาร์ Crafter ตั้งแต่ วันที่ 17-21 พฤศจิกายน 2556

โรงงาน Crafter Guitars ตั้งห่างจากเมืองโซล (Seoul) ประมาณ 1 ชั่วโมง กับ 45 นาที
(เดินทางด้วยการขับรถยนต์) ช่วงที่เราเดินทางไปที่โรงงานนี้ อุณหภูมิ ประมาณ 1-4 องศา ในกลางวัน
หากเป็นตอนกลางคืน น่าจะติดลบสัก 3-4 องศา แน่นอน ครับ เพราะโรรงานอยู่ย่านนอกเมือง และเป็นพื้นที่สูง

Crafter เริ่มต้นการผลิตกีตาร์โปร่ง ในปี 1972 โดย คุณ “HyunKwon Park” (Crafter รุ่นที่ 1)
อาศัยบริเวณพื้นที่เล็กๆ ในบ้าน มีพนักงานไม่ถึง 10 คนในตอนเริ่มต้น หลังจากนั้นเพียง 2 ปี
Crafter Guitars เป็นที่รู้จักกันดี ในประเทศ Korea

คุณ HyunKwon Park (Crafter ผู้พ่อ) เคยทำงานสร้างกีตาร์โปร่ง ในโรงงานกีตาร์
ที่มีชื่อเสียงในเกาหลีในสมัยนั้น (เมื่อกว่า 40 ปีก่อน) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการนำประสบการณ์เหล่านั้น มาสร้างกีตาร์ในแบบตัวเอง

ในปีแรกๆ เขาใช้ชื่อ “Sung Eum” เป็นชื่่อแบรนด์กีตาร์ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น “Crafter”
เนื่องจากเขามีความคิดว่า จะส่งออกกีตาร์ไปขายยังต่างประเทศ ชื่อ Sung Eum น่าจะอ่านออกเสียงได้ยาก หากไม่ใช่คน Korea

พวกเขาเขียนชื่อเป็นร้อยๆ ลงบนกระดาษ เพื่อเลือกชื่อกีตาร์ ที่ถูกใจให้กับตัวเอง
ในที่สุด… จึงเลือกชื่อ “Crafter” เป็นชื่่อแบรนด์กีตาร์ อย่างที่เรารู้จักกันเช่นในทุกๆ วันนี้

จากรุ่นพ่อ มาสู่ รุ่นลูก(Crafter รุ่น 2) บริหารงานโดย… คุณ “InJae Park” ผู้บริหารโรงงาน Crafter รุ่นปัจจุบัน
ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมาหลายสิบปี พิสูจน์ได้ว่า คุณ “InJae Park” …Crafter รุ่นสอง มีความสามารถไม่แพ้รุ่นพ่อ

พิสูจน์ได้จาก… ปัจจุบัน Crafter Guitar เป็นกีตาร์ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในประเทศเกาหลี
และยังได้รับการตอบรับ จากตลาดต่างประเทศ เช่น ในเอชียหลายๆ ประเทศ, ยุโรบ และ อเมริกา ฯลฯ
( สามารถดูได้จาก http://crafterguitars.com/distributor/distributor.php )

คุณ InJae Park นอกจากจะมีฝีมือในการทำกีตาร์แล้ว ยังเป็นนักออกแบบ อีกด้วย
…จะสังเกตว่า Crafter Guitars จะมีลวดลายสวยงาม ตกแต่งหรูหรา มี design สวยงามมาก
เช่น inlay ต่างๆ ที่ประดับอยู่บนตัวกีตาร์ ที่จะมีการออกแบบใหม่ๆ ให้เห็นอยู่ในทุกๆ ปี (มีการปรับเปลี่ยนลวดลายอยู่ตลอดเวลา)

 

Mr. InJae Park นอกจากจะทำกีตาร์ แล้ว เขายังเป็นคนออกแบบทุกๆ ส่วนของกีตาร์ Crafter
ตั้งแต่ inlay, rosette, ลวดลายต่างๆ ที่อยู่บนกีตาร์ และยังออกแบบ bag/case สำหรับใส่กีตาร์ อีกด้วย

Mr. InJae Park เล่าให้ฟังว่า… “ผมชอบออกแบบอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเรียนมาทางด้านนี้
ทุกๆ ส่วนของกีตาร์ ผมเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด รวมถึง ส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ หรือ bag/case  ผมก็ชอบที่จะออกแบบเอง”
Mr. InJae Park  เล่าด้วยรอยยิ้มที่อิ่มตลอดเวลา ทำให้รู้สึกได้เลยว่า เขามีความสุขมาก ที่ได้ทำสิ่งเหล่านี้

CRAFTER GUITAR แบรนด์กีตาร์โปร่ง อันดับ 1 ใน Korea การันตีด้วยมาตรฐานการผลิต ส่งออกจำหน่ายทั้ง อเมริกา ยุโรป เอเชีย กว่า 10 ประเทศทั่วโลก
คุยกับ Mr. InJae Park เจ้าของบริษัท Crafter Guitars : พร้อมพาชม โรงงานกีตาร์ ณ ประเทศเกาหลี

ว่าแล้ว…ก็พาเราไปยืนดู ลวดลายต่างๆ บนตัวกีตาร์ ที่เขาได้ออกแบบไว้ ซึ่งจะมีลายใหม่ๆ ออกมาประจำทุกๆ ปี
(หาชมได้ใน Crafter : Anniversary ประจำแต่ละปี)

ก้าวแรก… เมื่อเข้าไปในพื้นที่โรรงงาน (ด้านใน) ผมเจอะ stock ไม้ จำนวนมากมาย
ที่เรียงเป็นหลายสิบๆชั้น หลายๆ กอง

ผมถาม Mr. InJae Park ว่า… ไม้ใน stock ของคุณ ทำไมมีจำนวนมากมายขนาดนี้ ?
เขาตอบว่า… ปัจจุบัน Crafter Guitar นอกจากจะขายในหลายๆ ประเทศในเอเชียแล้ว
ยังส่งจำหน่ายใน ยุโรบ และอเมริกา ฯลฯ ….ดังนั้น จำเป็นต้องมีวัตถุดิบ และกำลังผลิตที่มากพอ
ไม่งั้นมีปัญหาการส่งของแน่นอน  สต็อคไม้ทั้งหมดที่มี สามารถรองรับการผลิตได้ถึง 2 ปี!!
คิดเอาละกันครับว่า ที่ผมบอกว่า กองไม้ที่วางเป็น Stock มีมากมายขนาดไหน !

ไม้ส่วนใหญ่ นำเข้ามาจากในหลายๆ ประเทศ ส่วนจะเป็นประเทศไหน ต้องดูด้วยว่า เป็นพันธ์ไม้อะไร
เนื่องจากแต่ละประเทศ ก็จะมีไม้แต่ละพันธ์ ที่มีคุณภาพแตกต่างกัน  แหล่งส่วนใหญ่ คือ ออสเตรีย ยุโรบ อเมริกา เป็นต้น

ห้องรักษาไม้ จะมีการไล่ความชื้นออกจากไม้ เพื่อให้ได้ไม้ที่มีคุณภาพมากที่สุด

ห้องทุกๆ ห้อง (ก่อนที่จะเสร็จทุกๆ กระบวนการทำกีตาร์) จะมีอุณหภูมิ เท่าๆกันทุกๆห้อง
เนื่องจากจะต้องรักษาสภาพ ที่ดี เท่าๆ กัน

จากภาพด้านบน… จะเห็นว่า ไม้ที่เห็น จะมีจุดๆ นั่นคือ ความชื้นกำลังถูกไล่ออกจากไม้

จากภาพด้านบน…  เมื่อความชื้นถูกไล่ หรือ กำจัดจนหมด หน้าไม้ก็จะเนียนแบบนี้

การนำไม้หน้ามาประกบให้เข้ากัน เพื่อนำไปทำ Top หรือ Sound-board ให้กับกีตาร์
สิ่งที่ต้องคำนึงคือ… ลายไม้ทั้ง 2 ข้าง ต้องมีความใกล้เคียงกันมากที่สุด เพื่อความสวยงาม
และ การตัดแต่งผิวไม้ จะต้องเนียนสนิท คือ… เมื่อประกบกันแล้ว ต้องไม่มีช่องไฟให้เห็น โดยขั้นตอนนี้มีวิธีการทำสอบ (QC) ง่ายๆ คือ
นำไม้ 2 ชิ้นมาประกบกัน แล้ววางบนพื้นที่มีหลอดไฟส่อง เพื่อหาดูว่า มีช่องไฟหรือไม่ หากมีถือว่า ไม่ผ่าน QC (หลักการนี้ ใช้ทั้งไม้ Top & Back)

เมื่อผ่านการขั้นตอนการคัดไม้ Top & Back ก็จะมาสู่ขั้นตอนการวาดขึ้นรูปไม้หน้า(Top) และ ไม้หลัง(Back)

ขั้นตอนการทำไม้ข้าง (Side) จะทำการดัดไม้ เพื่อให้เกิดการโค้งของไม้ ตามทรงของไม้ side ของกีตาร์ ด้วยด้วยเครื่องจัก

 

 

เตรียมคอ (neck) กีตาร์

เตรียม Finger-Board …ขั้นตอนนี้ จะมีความยุ่งยาก พอสมควร(เฉพาะในบางรุ่น)
เนื่องจากต้องใช้ความปราณีตสูงมาก ส่วนใหญ่ใช้มือทำ ยกเว้น ตอนที่เจาะลาย inlay ต่างๆ

 

ตัวอย่าง Crafter บางรุ่น ที่ทำ inlay โดยลวดลายต่างๆ จะเป็นงานที่ยุ่งยากพอควร และใช้เวลานาน
เนื่องจากต้องออกแบบ ลวดลายของ inlay ก่อน และนำเข้าโปรแกรมคอม ก่อนที่จะสั่งงานมายังเครื่องจักรเพื่อแกะลาย
จุดที่สำคัญคือ ตอนที่จะนำเปลือกหอย หรือไม้ เข้าไปในร่องไม้ที่เจาะเป็นลายต่างๆ

ตัวอย่าง เมื่อผ่านการเจาะลาย เพื่อทำ inlay โดยจะนำไปใส่ Abalone หรือพวกเปลือยหอยมุก ต่างๆ เข้าไป
และบางรุ่น จะใส่ inlay ด้วยไม้ชนิดต่างๆ เพื่อความสวยงาม บางลายใส่ไม้มากกว่า 1 ชนิด

 

เช่น อาจจะมีทั้งไม้ Rosewood และ Ebony เป็นต้น ตอนนำเอา เปลือกหอย หรือไม้ เข้าไปในลาย inlay
ต้องใช้ความชำนาญ และ ใจเย็นมากๆ

หลังจากใส่เปลือกหอย/มุก ต่างๆ เพื่อความสวยงาม ดูหรูหรา มากขึ้น

ใส่ inlay, rosette และ binding guitar ขั้นตอนนี้ ใช้มือทั้งหมด ครับ
ถ้าไม่ชำนาญ หรือ ไม่ระวัง โดนบาดนิ้ว แน่นอน ขั้นตอนนี้จะใช้เวลานาน เปลืองเวลามาก
แต่  คุณ “InJae Park” บอกว่าไม่เป็นไร เพราะอยากให้กีตาร์ออกมาสวยๆ มีงาน Art Art ออกมา

เตรียมประกอบคอกีตาร์ (Neck) เข้ากับ ตัวกีตาร์ (Body)

เตรียมใส่ Fret ลงบน Finger-Board ส่วนนี้ก็ใช้มือ นะครับ

 

การทำ Finish เคลือบตัวกีตาร์ ขั้นตอนที่ 2 ถือเป็นการทำ Finish ขั้นตอนสุดท้าย
เพื่อเคลือบ และ ขัดเงาให้กับกีตาร์ ก่อนที่จะทำขั้นตอน จัดคอ ปรับ Action ต่อไป…

บางรุ่น จะเป็น กีตาร์โปร่งไฟฟ้า จึงต้องเจาะ body เพื่อเตรียมใส่ pre-amp pickup บนตัวกีตาร์

 

หลังจากทำ Finish จนสมบูรณ์ครบทุกๆขั้นตอน
ขั้นตอนต่อไปคือ… จะทำการปรับคอ และแต่งระยะความสูง
ระหว่าง สายกีตาร์กับเฟรต หรือการปรับ Action นั่นเอง
โดยระหว่างขั้นตอนการปรับ Action จะมีการ QC บาลานซ์ (balance) ของเสียงด้วยเครื่องตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจว่า
เสียงได้มาตรฐาน มีความบาล้าน พร้อมที่จะเล่นได้ทันที

จากการทดสอบของผม ถือว่า Action ทำได้พอดีมือครับ ได้มาตรฐานดีมากครับ
(เรื่อง action มีข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาอ่านต่อไปในความข้อด้านล่าง…)

แม้กระบวนการทำกีตาร์ จะจบสมบูรณ์แล้ว แต่ทางโรงงาน ยังคงไม่ pack กีตาร์ลงกล่อง
โดยกีตาร์ทั้งหมด จะต้องอยู่ในห้องรักษาอุณหภูมิ อีกเป็นสัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่า…
โครงสร้างกีตาร์ทุกๆตัว  จะไม่มีการ ป่อง/แตก คือ… สภาพต้องไม่เปลี่ยนไปจากมาตรฐานของโรงงาน

เมื่อผ่านไปหลายสัปดาห์ ตามมาตราฐาน  และทำการ QC จนแน่ใจแล้วว่ากีตาร์ได้มาตรฐาน พร้อมจำหน่าย
ก็จะทำการ pack กีตาร์บรรจุลงกล่องกันกระแทกอย่างดี เพื่อส่งให่กับ ตัวแทนจำหน่าย Crafter Guitars
ในหลายๆ ประเทศ ทั่วโลก ทั้ง เอเชีย ยุโรบ และ อเมริกา ฯลฯ

…ข้อสังเกต…
แม้ว่าทาง Crafter จะพยายามดูแลเรื่องความชื้น แต่ปัจจัยของตำแหน่งที่ตั้งในแต่ละประเทศ ที่ต่างกัน
เช่น ร้อน ชื้น หนาว ฯลฯ ต่างกัน ดังนั้น จึงอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่สภาพกีตาร์ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
เช่น เรื่อง Action หรือระยะความสูงของสายกีตาร์กับเฟรต …ตัวอยางในประเทศไทย ที่มีความชื้นสูง
โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีความชื้นสูงถึง 80% (มาตรฐานไม่ควรเกิน 50%) ในโรงงานใช้ 46%
ดังนั้น หากไปลองกีตาร์ ในร้าน อาจจะพบว่า ทำไม Action มีความสูง นั่นอาจจะมาจากความชื้นที่เปลี่ยนแปลง

ให้สังเกตว่า ตอนฝนตกมากๆ นานๆ พอมีความชื้นสูง กีตาร์ที่บ้านเรา ที่เราเล่นทุกวัน
Action ณ ขณะนั้น จะสูงขึ้นกว่าเดิม ….พออากาศกลับมาเป็นปกติ Action เราก็จะกลับมาที่เดิม ที่มันเคยเป็น