น้ำจิ้มปลาเผาเกลือ 4 สูตร อร่อยเด็ด ทำง่าย
โพสท์โดย ลูกสาวอบต
นอกจากปลาช่อนเผาเกลือ เนื้อปลาหอมหวานอร่อยแล้ว รสชาติจะอร่อยสูตรเด็ดแค่ไหนนั้น น้ำจิ้มเป็นตัวสำคัญ ที่ช่วยเพิ่มความอร่อยเด็ดให้กับปลาเผาขึ้นมาทันที ที่มีทั้งน้ำจิ้มเผ็ดหรือน้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม แซ่บสะใจ หรือจะน้ำจิ้มแจ่วที่มีรสจัดจ้านแต่กลมกล่อม ออกหวานอมเปรี้ยว หรือจะน้ำพริกหนุ่มรสชาติกลมกล่อม ก็อร่อยเข้ากันดีนัก สำหรับสูตรน้ำจิ้มปลาเผาที่นำมาฝากนี้ มีทั้งน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มแจ่ว และน้ำพริกหนุ่ม เน้นทุกสูตรเป็นสูตรทำง่าย ใช้วัตถุดิบน้อย ใช้เวลาน้อยอีกด้วย แต่รสชาติความอร่อยแซ่บเวอร์นั้นมิได้น้อยน่าใครเลย อร่อยและทำได้ง่ายแบบนี้ห้ามพลาดครับ
น้ำจิ้มซีฟู้ดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดนั้น ควรมีรสชาติเปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานและเผ็ดกลมกล่อม ส่วนความเผ็ดนั้นอยู่ที่ระดับกลางๆ สามารถรับประทานกับอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา ทั้งเมนูเผา ย่าง ลวกหรือนึ่ง ก็อร่อยไม่แพ้กันครับ สำหรับสูตรนี้มีน้ำตาลทราย น้ำปลา มะนาว พริก กระเทียม ผักชี เอามาปั่นหรือผสมรวมกัน ก็ได้น้ำจิ้มซีฟู้ดทานกับปลาเผาแล้ว
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ถ้วย)
พริกขี้หนูสวนสีเขียวสด 20 เม็ด
กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือกซอย 5-6 กลีบ
ผักชีพร้อมรากหั่น 1 ต้น
ใบโหระพา 10 ใบ (ใส่หรือไม่ใส่ ก็ได้ครับ)
น้ำเชื่อม 4 ช้อนโต๊ะ (น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ+ น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ)
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. หั่นต้นผักชีพร้อมรากผักชี กระเทียม ให้เป็นชิ้นเล็กๆ
2. ปั่นพริกขี้หนู กระเทียม ผักชีพร้อมราก และใบโหระพา ทั้งหมดให้ละเอียด เทใส่ในชาม
3. เติมน้ำเชื่อม เกลือ น้ำมะนาว คนให้เกลือละลาย ปรุงรสให้แซ่บสะใจ เปรี้ยว เค็ม หวาน
**หากต้องการให้สีน้ำจิ้มมีสีเขียวมากขึ้น ให้เน้นใบผักชีมากกว่าต้นผักชี
**น้ำจิ้มซีฟู้ด สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วัน
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ถ้วย)
พริกขี้หนูสวนสีเขียวสด 20 เม็ด
กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือกซอย 5-6 กลีบ
ผักชีพร้อมรากหั่น 1 ต้น
ใบโหระพา 10 ใบ (ใส่หรือไม่ใส่ ก็ได้ครับ)
น้ำเชื่อม 4 ช้อนโต๊ะ (น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ+ น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ)
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. หั่นต้นผักชีพร้อมรากผักชี กระเทียม ให้เป็นชิ้นเล็กๆ
2. ปั่นพริกขี้หนู กระเทียม ผักชีพร้อมราก และใบโหระพา ทั้งหมดให้ละเอียด เทใส่ในชาม
3. เติมน้ำเชื่อม เกลือ น้ำมะนาว คนให้เกลือละลาย ปรุงรสให้แซ่บสะใจ เปรี้ยว เค็ม หวาน
**หากต้องการให้สีน้ำจิ้มมีสีเขียวมากขึ้น ให้เน้นใบผักชีมากกว่าต้นผักชี
**น้ำจิ้มซีฟู้ด สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วัน
น้ำจิ้มแจ่ว
น้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดรสแซ่บของชาวอีสานบ้านเฮานั้น ควรมีรสกลมกล่อม หวานอมเปรี้ยว รสจัดจ้าน เป็นน้ำจิ้มรับประทานกับอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะปลาย่าง ปลาเผา ปลานึ่ง หรือเนื้อย่าง เนื้อปิ้ง หรือแม้แต่จิ้มกับอาหารที่ไม่อร่อย รสจืด ถ้าจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วก็จะเกิดความอร่อยขึ้นมาทันที น้ำจิ้มแจ่ว 2 สูตรนี้เป็นสูตรทำง่าย รสชาติอร่อยใช้ได้ เน้นสะดวกทำแป๊บเดียวได้ทานแล้ว เครื่องปรุงและวิธีทำก็ตามนี้เลยครับน้ำจิ้มแจ่ว สูตรที่ 1
พริกคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบเปรี้ยวก็ใส่น้ำมะนาวเพิ่ม)
หอมแดงซอย ต้นหอมซอย และผักชีฝรั่งซอย (ปริมาณตามชอบ)
น้ำจิ้มแจ่ว สูตรที่ 2
พริกคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มหรือลด ตามชอบครับ)
ซอสแม็กกี้ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
(หรือจะใส่ทั้งหอมแดงซอย ต้นหอมซอย และผักชีฝรั่งซอยลงไปด้วยก็ได้…เพิ่มหรือลดตามชอบครับ)
วิธีทำ (ทั้ง 2 สูตร)
1. นำเครื่องปรุงทุกชนิด (ยกเว้นน้ำมะนาว และผักซอยต่างๆ) ใส่ลงในชาม ผสมละลายให้เข้ากัน
2. เติมรสเปรี้ยวด้วยการบีบมะนาวลงไป ค่อยๆ เติมที่ละนิดพร้อมกับชิมไปด้วย ถ้าไม่เปรี้ยวให้เติมลงไปอีกจนได้รสชาติตามใจชอบ
3. ตามด้วย โรยหอมแดงซอย ต้นหอมซอย และผักชีฝรั่งซอย (เพิ่ม/ลดได้ ปริมาณตามชอบ) คลุกเคล้าให้เข้ากัน แค่นี้ก็ได้น้ำจิ้มแจ่วรสจัดจ้านแล้ว
น้ำพริกหนุ่ม
น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกของชาวเหนือ ประกอบด้วยพริกหนุ่ม หัวหอมเผา กระเทียมเผา รสชาติกลมกล่อม ลองหานำมารับประทานดู ทานคู่กับปลาเผาและผักต้ม ผักลวก รับรองว่าคุณหรือใครจะไม่ผิดหวังส่วนผสม
พริกหนุ่ม 10-12 เม็ด
หอมแดง 6 หัว
กระเทียมเม็ดใหญ่ 6 กลีบ
น้ำปลาอย่างดี 1-2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ ½ ช้อนชา
วิธีทำ
1. เอาพริก กระเทียม หอมแดงมาย่างไฟ ให้หอม (แต่อย่าลืมล้างทำความสะอาดพริกก่อนเอามาย่าง)
2. เคล็ดลับนิดหนึ่งของการย่าง ถ้าใช้เตาถ่านจะมีกลิ่นหอมกว่าไปย่างบนเตาแก๊ส พอย่างได้ที่ก็ไปแกะเปลือกออก สำหรับพริกเมื่อสุกเราจะลอก ในส่วนที่ไหม้ ๆ ดำ ๆ เอาออก ถ้าใครไม่ชอบเผ็ดให้เอาไส้พริกออกบ้างก็จะลดความเผ็ดลง
3. มาเริ่มตำน้ำพริกหนุ่ม โดยรองก้นครกด้วยเกลือนิดนึง แล้วนำกระเทียมและหอมแดงใส่ในครก ตำให้เข้ากันจนกระทั่งละเอียดพอ
4. จากนั้นนำพริกหนุ่มที่เผาแล้วหั่นใส่ลงไปในครก (เพื่อสะดวกในการตำ) ตำจนกระทั่งพริกละเอียดพอ…ว่าจะเอาหยาบ หรือแหลกละเอียด ตามชอบเลยครับ
5. เมื่อตำได้ที่แล้ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา คนให้เข้ากัน ตักใส่จานเป็นอันเสร็จ
** บางสูตรใส่ปลาร้าด้วยแต่จริง ๆ ทางภาคเหนือเลยจะไม่ใส่ หากทานเผ็ดไม่เก่ง ให้นำเม็ดพริกออก หรือนำมะเขือยาวมาเผาลอกเปลือกมาผสมด้วยก็ได้ **
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: พูดไปก็เท่านั้น, MuayMuaythai, lingju
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
10 อันดับเลข ยอดฮิต หวยแม่จำเนียร 16/11/67คบต่อหรือพอแค่นี้!! หนุ่มฉุนเพื่อนรักล้วงเป้า คว้าขวดเบียร์ทุบหัวแตกหนุ่มเขมรปากดี!! บอกคนไทยเคลมตัวหนังสือของกัมพูชาไปดัดแปลงเป็นภาษาตัวเอง"ไวรัลพุ่ง! นักเรียน ม.6 ขายนมเปรี้ยวส่งตัวเองเรียน ชาวเน็ตแชร์วาร์ปเพียบ"แคปชั่นลอยกระทง 18+ อ่อยๆ เด็ดๆพรรคเพื่อไทย" ลงพื้นที่ช่วย “ป๊อบ” หาเสียงนายก อบจ.อุดรธานี ศึกใหญ่วัดพลังฐานเสียงหวังชนะขาด เชื่อ "ทักษิณ" ลงมาช่วยได้กระแสบวก...มากกว่ากระเเสลบ"บุกจับหลวงตา 'เวิร์คฟอร์มโฮม' สึกซ้ำรอบที่สาม!"คำถามในโซเชียล: จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไทยไม่มีแรงงานต่างด้าว คุณคิดว่ามีผลหรือไม่?เต้นงานบุญกฐินราคาทองร่วงหนัก5 อาชีพสายช่างมาแรง! Gen Z แห่เรียน สอดรับเทรนด์ New Collar Workforceถกถามเหมาะสมมั้ย? ‘เด็ก’ แต่งตัวเลียนแบบ ลิซ่า หวั่นเรื่องความปลอดภัย.Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โอปอล ลั่นกลองรบ ! สวมชุดประจำชาติไทยสู้ศึกจักรวาล - แรงบันดาลใจจากสมเด็จพระสุริโยทัยฝันหญิงแต่งสไบ ยืนในน้ำสวนยางพารา แบ็กโฮขุด อึ้ง!เจอต้นตะเคียนยักษ์5 อาชีพสายช่างมาแรง! Gen Z แห่เรียน สอดรับเทรนด์ New Collar Workforceเต้นงานบุญกฐินหัวใจเต้นผิดจังหวะ...หรือเปล่า? เช็กอาการ เสี่ยงโรคหัวใจแบบไหน?ทะเลสาบน้ำจืดที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยน้ำที่ใสสะอาดจนเหมือนกระจก