รู้เรื่องยาไอซ์ ห่างไกลยาเสพติดกันนะ ตั้งใจทำงานหาเงินเถอะ
หลังจากที่กระแสการเสพยาของนักร้อง นักแสดง เริ่มซาลงไปเนื่องใจมีข่าวอื่นที่นักข่าวคิดว่า จะ “ขายได้” เข้ามาแทนที่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยาเสพติดก็ยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญอยู่เช่นเคย ผมจึงขอใช้บทความนี้มาให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับยาเสพติด ประเภท ยาบ้า และ ยาไอซ์ ให้ได้รู้ถึงภัยร้ายของมัน
หลาย ๆ คนส่วนใหญ่ก็คงจะรู้จะ “ยาบ้า” และ “ยาไอซ์” มาบ้าง แต่ถึงจะไม่รู้จัก แต่เชื่อได้อย่างแน่นอนว่าทุกคนย่อมรู้ว่า ขึ้นชื่อว่าเป็นยาเสพติด มันต้องไม่ดีแน่ ๆ สำหรับยาบ้ามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Amphetamine” จะมีลักษณะเป็นเม็ด มีหลายสีหลายแบบสัญลักษณ์ที่อยู่บนตัวยามีไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต ส่วนยาไอซ์นั้น เป็นอนุพันธ์หนึ่งของยาบ้า มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Methamphetamine” เป็นสารบริสุทธิ์ ลักษณะจะเป็นผลึกใสคล้ายสารส้ม ด้วยความที่เป็นสารบริสุทธิ์ จึงออกฤทธิ์รุนแรงกว่ายาบ้าหลายเท่า
การเสพติดยาบ้าและยาไอซ์ เป็นโรคทางสมองชนิดหนึ่ง เมื่อได้เริ่มลองเสพแล้ว จะมีอาการอยากยา และไม่สามารถหยุดใช้ยาได้ แม้ว่าผู้เสพจะรู้ดีว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม เนื่องจากสารเสพติดมีผลกระทบต่อสมองของเรา ดังนั้นจึงเป็นการยากที่ผู้ติดสารเสพติดจะหยุดใช้ยา ซึ่งสุดท้ายแล้วสารเสพติดก็จะทำร้ายและทำลายผู้เสพเอง หากปราศจากความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะเพื่อน ครอบครัว และผู้เชี่ยวชาญในการรักษาแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะหายขาดจากการติดยานี้ก็แทบจะไม่มีเลย
ผลกระทบต่อสมองในระยะสั้น
ในสมองของเรานั้นจะมีสารสื่อประสาทตัวหนึ่ง ที่เรียกว่า “โดปามีน” (Dopamine) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความพึงพอใจ ความปิติยินดี ความรักใครชอบพอ หากร่างกายขาดสารตัวนี้ก็จะไม่สามารถรับรู้ถึงความสุข จากความสำเร็จของเราหรือประสบการณ์ดี ๆ ได้
อย่างไรก็ตามการเสพยาบ้าและยาไอซ์ ไม่ได้มีผลเฉพาะกับการกระตุ้นการหลั่งสารโดปามีนเท่านั้น แต่มันยังมีผลต่อสารสื่อประสาทที่เรียกว่า “Norepinephrine” และ “Serotonin” ด้วย
Norepinephrine เป็นสารสื่อประสาทที่ควบคุมปฏิกิริยาการตอบสนองของเรา โดยจะควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือด และช่วยให้เราจัดการกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดี ซึ่งสารเสพติดดังกล่าวไม่ได้เลียแบบสาร Norepinephrine เหมือนกับที่มันเลียนแบบสารโดปามีน แต่มันยับยั้งการดูดซับสารสื่อประสาท ระบบประสาทของเราจะทำการปล่อยสาร Norepinephrine เข้าไปในไซแนปส์ และหลังจากนั้น ระบบของร่างกายที่ถูกควบคุมโดย Norepinephrine จะได้รับผละกระทบรุนแรง ซึ่งการที่มี Norepinephrine ในสมองมากไป จะมีอาการดังนี้
สารเสพติดของยาบ้าและยาไอซ์เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะมีส่วนประกอบทางเคมีคล้ายคลึงกับโดปามีน สารนั้นจะทำให้สมองเชื่อว่าสารดังกล่าวเป็นโดปามีน อีกทั้งยังกระตุ้นให้มีการผลิตสารโดปามีนในปริมาณที่มากขึ้น และทำการปิดกั้นกลไกในการดูดซับสารโดปามีนที่มากเกินไปออกจาไซแนปส์ การที่มีสารโดปามีนจากการผลิตของสมองมากขึ้นบวกกับสารโดปามีนปลอม ๆ (ไอซ์) และร่างกายไม่สามารถดูดซับสารโดปามีนที่เกินนั้นออกไปได้ รวมกันทั้งหมดก็จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขสุด ๆ เมื่อเสพยาทั้งสองชนิดนี้
- ความดันโลหิตสูง
- อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น
- เกิดความความเครียด
- การเต้นของหัวใจผิดปกติ
- พารานอยด์
Serotonin เป็นสารสื่อประสาทที่ส่งผลต่อความอยากอาหาร การนอนหลับ และกระบวนการเมตาบอลิซึม เมื่อผู้เสพนำยาไอซ์เข้าสู่ร่างกาย ผลก็คือ จะทำให้ไม่มีความอยากอาหาร สามารถที่จะทำงานได้ทั้งวันโดยไม่เหน็ดเหนื่อย และไม่มีความต้องการการพักผ่อนเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง
ผลกระทบต่อสมองในระยะยาว
การเสพยาไม่เพียงแต่มีผลต่อสมองในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองอย่างถาวรอีกด้วย จากการวิจัยส่วนหนึ่ง พบว่าการเสพยาอย่างต่อเนื่องยางนาน ทำให้ศูนย์ความจำและอารมณ์ของสมองนั้นย่ำแย่ เช่น เมื่อมีคนใดเสพยาไอซ์ติดต่อกันหลายปี เขาคนนั้นจะพบว่าเขาไม่มีรู้สึกมีความสนุกกับกิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุขเหมือนตอนก่อนที่จะเริ่มเสพยา
และภายหลังที่เลิกจากการเสพยาได้ โดยปกติแล้วร่างการของเราก็จะทำการเผาผลาญสารเสพติดที่อยู่ในร่างกาย ผลกระทบจากสารเสพติด ก็น่าจะหมดไป ซึ่งตามหลักการแล้วมันก็ควรจะเป็นเช่นั้น
แต่จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า แม้ผู้เสพจะหยุดยาเป็นเวลานานถึง 11 เดือนแล้วก็ตาม ร่างกายก็ยังแสดงถึงความเสียหายทางสมองในด้านการพัฒนาสติปัญญา งานวิจัยนี้ได้ใช้เทคนิค “Radioactive tracer” กับร่างกายของผู้เข้ารับการทดลอง เพื่อให้เห็นภาพของตัวรับสารโดปามีนในสมอง ผลก็คือยังคงมีความแตกต่างของตัวรับสารโดปามีนก่อนที่จะใช้สารเสพติดอยู่ดี
เนื่องจากโดปามีนเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย จึงมีการทดสอบการเคลื่อนไหวร่างกายด้วย ปรากฎว่าคนที่เสพยา ก็ยังคงมีสมรรถภาพแย่กว่าคนที่ไม่เคยเสพยาด้วยเช่นกัน
การเสพยาเสพติดมีโทษทางกฎหมาย
ยาไอซ์ และ ยาบ้า เป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ ซึ่งได้กำหนดบทลงโทษทั้งผู้เสพ ผู้ครอบครอง และผู้จำหน่าย
การที่เราครอบครองไว้ แม้ว่าจะเก็บไว้เสพคนเดียว แต่ถ้าเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนดไว้ ก็จะถือว่าเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งการจำหน่าย หรือการขายนั้น มีโทษหนักกว่าการครอบครองและการเสพ ซึ่งตามกฎหมาย ถ้าเข้าใจโดยทั่วไปก็คือ ยาไอซ์ตั้งแต่ 375 มิลลิกรัมขึ้นไป ส่วนยาบ้าก็ตั้งแต่ 15 เม็ดขึ้นไป
มาตรา 15
ถ้าหากใครที่ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ซึ่งถ้านำมาคิดรวมเป็นสารบริสุทธิ์อย่างเดียว และมีปริมาณมากกว่า 20 กรัม มีโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตเลยทีเดียว ยาไอซ์ที่เป็นสารบริสุทธิ์ล้วน ๆ จึงมีราคาแพง ซึ่งจากการติดตามข่าวยาเสพติดทำให้ทราบว่ายาไอซ์ที่ซื้อขายกันนั้น มีราคาสูงถึงกรัมละ 3000 บาทเลยล่ะครับ
มาตรา 66
มาตรา 66 ผู้ใดจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ หรือมีจำนวนหน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงปริมาณที่กำหนดตามมาตรา 15 วรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงสิบห้าปี หรือปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ายาเสพติดให้โทษตามวรรคหนึ่งมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ปริมาณที่กำหนดตามมาตรา 15 วรรคสาม แต่ไม่เกินยี่สิบกรัม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่สี่แสนบาทถึงห้าล้านบาท
ถ้า ยาเสพติดให้โทษตามวรรคหนึ่งมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินยี่สิบกรัม ขึ้นไปต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งล้านบาทถึงห้าล้านบาท หรือประหารชีวิต
และมาตรา 67
มาตรา 67 ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ หรือมีจำนวนหน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึงปริมาณที่กำหนดตามมาตรา 15 วรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับบทลงโทษทางสังคม
เป็นที่เข้าใจกันดีว่า ในสังคมและวัฒนธรรมของคนไทยนั้น มองว่าผู้เสพยาเสพติด เป็นคนไม่ดี คนไทยส่วนใหญ่จึงมักจะไม่ให้โอกาสผู้ที่เคยเสพยาเสพติดที่ผ่านการบำบัดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการคบหาสมาคม การสมัครรับเข้าทำงาน ฯลฯ หากแต่เป็นเพียงผู้เสพอย่างเดียวก็ควรจะได้รับโอกาส เพราะการติดยาเสพติด ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนเพียงแค่อยากรู้อยากลองในขณะที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และการอบรมสั่งสอนของผู้ปกครองด้วย และผู้ติดยาเสพติดอีกหลาย ๆ คนต้องการที่จะหยุดใช้ยา แต่บางคนบางกลุ่มก็ไม่กล้าที่จะบอกให้คนอื่นได้รับรู้ว่าตนเองเป็นผู้ติดยา จึงไม่ได้รับการบำบัดอย่างถูกวิธี ทำให้ไม่สามารถอดทนอดกลั้นต่ออาการอยากยาได้ และก็ต้องกลับไปพึ่งยาอยู่ดี
ความคิดเห็นหนึ่งของผู้เสพยาเสพติด
การเสพยาเสพติดนั้นเป็นเรื่องไม่ดี แต่ถ้าพลั้งเผลอไป สังคมก็ควรจะให้โอกาส ไม่ว่าจะเป็นคนยากดีมีจนอย่างไร ก็ต้องการโอกาสด้วยกันทั้งสิ้น ผมมีเพื่อนที่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่อยู่รอบตัวมากมาย แต่ถือเป็นความโชคดีของผมอย่างหนึ่ง ที่เพื่อน ๆ เหล่านั้นไม่เคยชักชวนให้ลองเลยแม้แต่นิดเดียว ภายในใจของผมก็มีความอยากรู้อยากลองอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าหากท่านที่อ่านบทความนี้ ก็จะสามารถเข้าใจ(อยู่บ้าง)ถึงกลไกลของยาเสพติดที่มีผลต่อร่างกาย จากนั้นให้จินตนาการถึงความรู้สึกนั้น และนึกถึงผลกระทบที่ตามมา ดังตัวอย่างที่มีอยู่ตามข่าวยาเสพติด เพียงเท่านี้ก็ทำให้รู้ได้ว่าควรห่างไกล และปลูกฝังให้เยาวชนได้รับรู้ถึงภัยของยาเสพติด และให้หลีกเลี่ยงจะเป็นการทีดีที่สุดครับ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
ด่วน F-16 ไทยถล่มฐานเขมร ที่สตึงกัด ทหาร กัมพูชาเสียชีวิต 18 นาย
คริสต์มาสมืดมนของทรัมป์ กับการตอกย้ำความผิดพลาดทางการเมือง
ฆ่าเพนนี แล้วอะไรต่อ? เกมการเมืองบนเหรียญของทรัมป์
กินก้อยดิบ มันแซ่บชั่วคราว แต่ระวังสิบ่มีโอกาสได้แซ่บอีกเด้อ
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
คริสต์มาสมืดมนของทรัมป์ กับการตอกย้ำความผิดพลาดทางการเมือง
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย

