อีกร้อยปี อีกสิบอุโมค์ยักษ์ ก็ไม่ได้ช่วยให้ กทม. รอดจากน้ำท่วม
Pat Hemasuk
ตามหลักทางวิศวกรรมแล้ว กรุงเทพเป็นที่ราบลุ่มอยู่สูงจากระดับน้ำไม่ถึงเมตร slope ของท่อระบายน้ำเป็นศูนย์ การระบายน้ำที่ดีคือต้องเพิ่มพื้นที่หน้าตัดของท่อหรือทางระบายน้ำ ตามหลักการสามอย่างของกลศาสตร์ของไหล แรงดัน-พื้นที่หน้าตัด-แรงเสียดทานการไหล
แต่ระบบท่อระบายน้ำหลักของถนนในกรุงเทพมันคือท่อไม่ใช่อุโมค์ ซึ่งมันน่าจะเป็นอุโมค์มาตั้งนานแล้วเพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าตัด
แต่สิ่งอย่างหนึ่งที่มันเป็นหนึ่งในสามอย่างที่ผมบอกไว้คือ แรงเสียดทานการไหล ที่มันมีมากมหาศาล และมันยังลามไปกินพื้นที่หน้าตัดให้ลดลงด้วยคือเศษไขมันและเศษอาหารจากร้านค้าแผงลอย
ในเขตตัวเมืองในกรุงเทพมี้จำนวนร้านอาหารแผงลอยหลายร้อยร้านต่อความยาวหนึ่งกิโลเมตร พวกร้านอาหารแผงลอยพวกนี้มันไม่เคยเอาขยะเปียกพวกเศษอาหารและไขมันใส่รถกลับบ้านหรอกครับ เทลงท่อทั้งหมดพร้อมกับน้ำล้างจานชาม ลองคิดดูว่าร้านค้าพวกนี้ในกรุงเทพชั้นในมีกี่หมื่นร้าน เอาแค่เทเศษอาหารและไขมันลงแค่ร้านละถังวันหนึ่งก็หลายหมื่นถังแล้ว และความจริงมันไม่ใช่เพียงถังเดียวต่อร้านเสียเมื่อไรแต่ละร้านล่อกันกระหน่ำ ขยะลงท่อสะสมอยู่อย่างนั้นลอกอย่างไรก็ไม่จบไม่สิ้น
ท่อในกรุงเทพมีไขมันอมตะแบบนี้อยู่หลายหมื่นตัน ขนาดจุลินทรีย์ชนิดไร้อากาศตัวดุๆ ยังส่ายหัวกินมันไม่ได้ ต้องใช้วิธีใช้ลูกกระสุนลากเชือกตามแนวท่ออย่างเดียว ระหว่างแมนโฮลถึงแมนโฮลบางครั้งเจอไขมันหนักเป็นร้อยกิโลก็มี
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะมีระบบจัดการระเบียบการทิ้งมลพิษลงท่อระบายน้ำของร้านขายอาหารแผงลอย ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะไม่อนุญาตให้แผงขายอาหารใช้กาละมังนั่งยองๆล้างที่ปากท่อระบายน้ำแล้วทิ้งเศษอาหารแบบสกปรกโสโครกอย่างที่เห็นกันจนชินตา
ถ้ายังทำกันไม่ได้ ก็ท่วมกันต่อไปเถอะ อีกร้อยปี อีกสิบอุโมค์ยักษ์ก็ช่วยไม่ได้เพราะท่อมันตันจากไขมันและขยะกันตั้งแต่ต้นทางแบบนี้
เครดิตภาพ กองประชาสัมพันธ์ กทม. / กูเกิ้ล