หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รวมชีสสุดแปลกจากทั่วโลก เห็นแล้วอยากจะกินกันอยู่ไหม

โพสท์โดย นางเบิร์ด

รวมชีสสุดแปลกจากทั่วโลก

เห็นแล้วอยากจะกินกันอยู่ไหมน้า?

 

ชีสนับเป็นหนึ่งในอาหารที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และยังมีความแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ปัจจุบันมีชีสมากกว่า 3,000 ชนิดบนโลกนี้ให้เราเลือกรับประทาน แต่ครั้งนี้เราจะมาแนะนำชีส 11 ชนิดที่มีความโดดเด่น และแปลกประหลาดกว่าชีสชนิดอื่นๆ จากทั่วโลก ว่าแต่คุณจะกล้ารับประทานมั้ยนะ ยังงั้นต้องมาลองพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง...

 

1. Casu Marzu (Italy)

Casu Marzu (คาสุ มาร์ซู ) ชีสพื้นเมืองของชาว Sardinia ทำมาจากนมแกะ ถ้าแปลให้ตรงตัวแล้ว Casu Marzu จะแปลว่า 'ชีสเน่า' เพราะชาวซาร์ดิเนียนจะนำชีสที่ทำเสร็จแล้ว ไปทิ้งไว้จนเน่าเพื่อดึงดูดให้แมลงวันมาวางไข่ ปล่อยให้หนอนชอนไชดุ๊กดิ๊กอยู่ภายใน ช่วยเร่งกระบวนการหมักให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้ชีสมีความอ่อนนุ่มมากเป็นพิเศษ

แต่เราต้องขอบอกไว้ก่อนว่า ชีสชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น 'ชีสที่อันตรายที่สุดในโลก' เลยทีเดียว เพราะถ้ารอให้หนอนข้างในตายก่อน ชีสก้อนนั้นจะเป็นพิษทันที! นั่นแปลว่า ต้องรีบกินขณะที่หนอนยังคงคลานยั้วเยี้ยอยู่นั่นเอง

2. Milbenkase (Germany)

มาที่เยอรมนีเขาก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน เพราะที่นีมีชีสที่จะเลี้ยงตัว Mites (แมลง 6 ขาตัวเล็กๆ ประเภทไร, เห็บ) ไว้ภายในชีส ซึ่งเอ็นไซม์ในน้ำย่อยของแมลงพวกนี้จะช่วยทำให้ชีสอ่อนนุ่มขึ้น และค่อยๆ เปลี่ยนสี จากสีเหลืองเป็นน้ำตาลแดง จนกระทั่งเป็นสีดำก็แปลว่าพร้อมรับประทานแล้ว ในขั้นตอนการผลิตจะนำเอาข้าวไรย์มาวางข้างๆ ชีสเพื่อเป็นอาหารเสริมให้กับพวกแมลงอีกด้วย

ชีสชนิดนี้รสชาติจะออกขมๆ แต่มีความพิเศษตรงที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับคนที่เป็นภูมิแพ้ฝุ่นนั่นเอง เข้าทำนองขมเป็นยานั่นแหละ ^^

3. Yak cheese (Tibetan communities)

คำเตือน! ชีสชนิดนี้อาจทำให้คุณฟันหักได้ เพราะมันเหนียวจนเหมือนเคี้ยวยางไม้ก็ไม่ปาน ชีสชนิดนี้ทำจากน้ำนมของตัวจามรี ที่รีดส่วนประกอบที่เป็นน้ำออกจนหมด แล้วนำมาตัดเป็นแท่งนำไปอบด้วยไฟอีกรอบ ได้ความแห้งแข็งระดับสุดยอด เป็นที่นิยมมากในแถบทิเบต อินเดีย เนปาล เพราะเก็บได้นาน และพกพาสะดวก

4. Airag cheese (Central Asia)

พบได้มากในประเทศแถบเอเชียกลางที่นิยมเลี้ยงม้า โดยจะรีดนมในช่วงที่ม้าจะตกลูก ก่อนจะนำไปหมักทิ้งไว้ เติมนมต้มลงไปเพื่อเพิ่มความเข้มข้น ก่อนนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง ชีสชนิดนี้นิยมรับประทานทั้งแบบแห้งเป็นของว่างระหว่างวัน หรือนำไปใส่ซุปให้นุ่มลงก็ได้

5. Camel's milk cheese (Ethiopia, Mauritania, Sudan and Bedouin communities)

กลุ่มคนเลี้ยงม้าในแถบแอฟริกา เรียนรู้วิธีทำชีสจากนมอูฐมากกว่าศตวรรษแล้ว ชีสที่ทำจากนมอูฐจะมีปริมาณไขมัน และโปรตีนสูงกว่านมวัวมาก จึงมีกรรมวิธีการทำต่างจากทั่วไป คือต้องหมักนมในภาชนะที่ทำจากกระเพาะสัตว์ ชีสแบบนี้จะมีกลิ่นฉุนรุนแรงมาก

6. Human milk cheese (New York)

ไม่เพียงเฉพาะน้ำนมสัตว์เท่านั้น แต่น้ำนมของคนยังเอามาทำชีสได้ด้วย เชฟอเมริกันนามว่า Daniel Angererได้ทดลองทำชีสจากน้ำนมของภรรยาตัวเอง แล้วอัพโหลดวิดีโอขั้นตอนการผลิตลงบล็อคด้วย ซึ่งเขาแน่ใจว่าชีสที่ได้จากนมคนนั้นให้คุณ่าทางอาหารมากกว่าชีสจากนมวัวอย่างแน่นอน ถึงจะฟังน่าสนใจขนาดไหนแต่ชีสชนิดนี้ยังไม่มีการผลิตจริงจังเพื่อจำหน่ายแต่อย่างใด เพราะขั้นตอนการผลิตยังไม่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับนั่นเอง

7. American cheese

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์ประเภทชีสมากมายหลากหลายชนิด และวางอยู่เต็มชั้นทุกๆ วัน รอให้อเมริกันชนมาหยิบไปทำอาหาร ทั้งเบอร์เกอร์ หรือแซนด์วิชต่างๆ แต่ความเป็นจริงที่หลายคนไม่รู้ก็คือ ชีสหลายยี่ห้อในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นไม่ใช่ชีสแท้ๆ! แต่เป็นการนำเอานม เวย์โปรตีน ไขมันนม เกลือ เจลาติน นมผง สารปรุงแต่งกลิ่น และน้ำมัน มาผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรมให้มีความข้น กลิ่น สี ออกมาเหมือนชีสนั่นเอง ชีสประเภทนี้พบได้ทั่วไปในร้านฟาสต์ฟู้ดต่างๆ

8. Lichen cheese (Canada)

ชีสประเภทนี้เกิดจากการหมักนมแพะกับ Lichen ซึ่งเป็นเห็ดราชนิดหนึ่ง ทำให้ได้กลิ่นคล้ายกับบลูชีส ผู้ที่ค้นพบเห็ดราชนิดนี้คือ ชาวเผ่าเอสกิโมที่อาศัยอยู่แถบแคนาดานั่นเอง โดยพวกเขาบังเอิญเจอเห็ดนี้อยู่ในกระเพาะอาหารของกวางแคริบูที่ล่ามาได้ พอลองชิมดูก็พบว่ามีความอร่อยเหมือนชีสนั่นเอง

9. Deer milk cheese (New Zealand)

ชีสจากนมกวางแดง กำลังเป็นที่นิยมมากในนิวซีแลนด์ หลังจากเริ่มมีการผลิต และวางจำหน่ายเพียงหนึ่งปี คาดว่ามันกำลังจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกยอดนิยมของแดนกีวีในอนาคตอย่างแน่นอน แม้เราจะไม่รู้ว่ามันมีรสชาติเป็นอย่างไร แต่หากดูจากราคาน้ำนมกวางที่สูงถึง $100 ต่อลิตร แสดงว่าคงไม่ธรรมดาแน่ๆ

10. Alpaca and llama cheese (Andean communities)

สำหรับผู้คนที่อาศัยบริเวณที่ราบเขา Altiplano (เทือกเขาสูงในทวีปอเมริกาใต้ บริเวณประเทศเปรู ชิลี โบลิเวีย และอาร์เจนตินา) แล้ว ตัวลามะ และอัลปาก้าเป็นสัตว์ที่มีคุณเป็นอย่างมาก มูลของพวกมันถูกใช้เป็นเชื้อเพลิง ขนนำมาทำเครื่องนุ่งห่ม หนังเอามาทำเครื่องหนัง และน้ำนมของมันก็เอามาทำชีสแสนอร่อยได้ ชีสที่ทำจากน้ำนมตัวลามะ และอัลปาก้านั้นมีอายุการเก็บรักษาได้นาน รสชาติจะออกเค็มหน่อยๆ และเข้มข้นมาก ชีสประเภทนี้หาซื้อได้ยาก เพราะการรีดนมจากสัตว์ประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มีเรื่องเล่าว่าคนรีดนมอัลปาก้ามักจะโดนตะโกนเสียงดังใส่ และถุยน้ำลายรดด้วย

11. Donkey cheese (Serbia)

ชีสจากนมลานั้นอุดมวิตามินซีมากกว่าชีสนมวัวถึง 60 เท่า แต่ลาหนึ่งตัวจะให้น้ำนมได้แค่วันละ 200 มิลลิลิตร (ประมาณนม 1 กล่อง) ต้องใช้น้ำนม 25 ลิตรจึงจะได้ชีส 1 กิโลกรัม นั่นหมายความว่า นมลาเพียวๆ นั้นมีมูลค่าสูงอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นก็คือ €1,000 ต่อกิโลกรัม (ประมาณ 44,500 บาท!) นอกจากผลิตชีสแล้วยังเอาไปทำสบู่ และครีมทาหน้าด้วย ตามตำนานของคลีโอพัตรายังเอ่ยถึงเคล็ดลับความงามด้วยว่า เป็นเพราะพระนางอาบน้ำนมลาเป็นประจำนั่นเอง ชนะเลิศจริงๆ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
นางเบิร์ด's profile


โพสท์โดย: นางเบิร์ด
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: MARS GOD, candysweet, ginger bread, นางเบิร์ด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบวิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัลเซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 256810 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิตเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปีปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจายเจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์เปิดใจ "เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" นาทีช็อกเห็นภาพบาดตาผ่านกล้องวงจรปิด บทเรียนของความไว้ใจเมื่อตัวแม่ปะทะเจ้าของบริษัท! "ป้ารัตนา" โชว์สกิลสัมภาษณ์งาน ทำเอา "มอส มัดจุก" ถึงกับไปไม่เป็น"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สาวปริศนาปล่อยอึในร้านมินิมาร์ท พนง.เก็บกวาดปล่อยโฮ เพราะต้องตามเช็ด (เหตุเกิดที่ไทย)วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมากศึกเดือดกลางเมืองชล! "ไอซ์ รักชนก" ปะทะคารมกลุ่มแม่ยก "พี่เฮ้ง" ปมแก้รัฐธรรมนูญและตรวจสอบทุจริตบราวนี่ ไม่ใช้เตาอบ ส่วนผสมน้อย อร่อยสร้างภาพ
ตั้งกระทู้ใหม่