มาสำรวจกันว่าผู้หญิงแบบไหนที่มักจะขึ้นคาน?

ขอบอกว่าจขกทไม่มีเจตนาจะลบหลู่ดูหมิ่นคนที่ไม่มีแฟน หรือไม่ได้แต่งงานนะคะ เพราะมีหลายคนที่ได้แต่งงานไปแต่นิสัยไม่ดีเลยก็เยอะ เพราะฉะนั้นการแต่งงานไม่ได้เป็นเครื่องบ่งชี้ความดีของใครเลย และส่วนตัวก็ไม่ได้มีค่านิยมว่าผู้หญิงควรแต่งงานแต่อย่างใด เพราะทุกวันนี้เราดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งผู้ชายแล้ว ถ้าเจอแต่คนไม่ดี หรือไม่เจอคนที่ใช่ อยู่คนเดียวสบายใจกว่าค่ะ

แต่หลายครั้งจะเห็นคนชอบวิเคราะห์ หรือสรุปง่ายๆว่าทำไมตัวเอง หรือเพื่อนจึงไม่มีแฟนซักที อันนี้หมายถึงคนที่อยากมีแฟน แต่ไม่มีนะ ต้องยอมรับว่าบางทีคนเราชอบหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองบ้าง ออกจะมโนซะเยอะ เช่น ชั้นเก่งเกินไป ผู้ชายเลยกลัว หรือ เพราะเธอเรื่องมากแน่เลย เลยไม่มีใครดีพอ ซึ่งล้วนแต่เป็นการสรุปแบบเข้าข้างตัวเองซะส่วนใหญ่ ในความเป็นจริงแล้วถ้ามาดูเหตุผลที่ไม่มีแฟน หรือไม่ได้แต่งงานซะที คุณอาจจะเงิบไปเลยก็ได้

เข้าเรื่องกันเลย จขกท ได้เลือกกลุ่มตัวอย่างของสาวที่ยังอยู่บนคาน อายุตั้งแต่ 30 ถึง 80 ปี (ใช่ค่ะ มีญาติผู้ใหญ่ทั้งของตัวเองและของเพื่อนที่ไม่เคยแต่งงานมาให้สัมภาษณ์ด้วย) จำนวน 50 คน มาถามถึงสาเหตุที่คิดว่าทำไมตัวเองถึงไม่ได้แต่งงาน หรือมีแฟนแล้ว แต่แฟนยังไม่ขอแต่งงานซะที และถามเพื่อนหรือคนใกล้ชิดของท่านเหล่านี้อีก 4 คน (ถามเยอะจะเรื่องใหญ่ จขกท ไม่ได้จะทำวิทยานิพนธ์) เป็นชาย 2 หญิง 2 คำถามคือ "คิดว่าเหตุใดคนๆนี้ถึงขึ้นคาน" ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ (เพื่อนสาวขออนุญาตผลักไปอยู่ฝั่งผู้ชายนะคะ)

โดยคำว่าขึ้นคาน ในทีนี้ หมายถึงอายุเลย 30 ปี (เอามาตรฐานสากลเนี่ยแหละ ใครอยากแต่ง 40 ก็แล้วแต่ค่ะ จขกท ตามใจทุกคนไม่ได้) แล้วยังไม่ได้แต่งงาน และไม่มีแพลนจะแต่งงาน แต่อยาก หรือเคยอยากแต่งงาน มีความต้องการทางเพศเป็นปกติ จะมีแฟนอยู่ หรือไม่มีแฟนเลยก็ได้ แต่เอาว่ามีความอยากที่จะแต่งหรือมีคู่ แต่ไม่ได้แต่ง

ข้อเสียของ Case Study นี้มีอยู่ดังนี้
1. จขกท เลือกได้แค่เฉพาะคนรู้จักกันเท่านั้น เลยมีแค่ 50 คน และเป็นกลุ่มสังคมใกล้เคียงกัน เพราะไม่สามารถไปศึกษาหรือสรุปเอากับคนที่ไม่รู้จักได้ค่ะ (วุฒิ ป.ตรี-เอก รายได้เกิน 50,000 ต่อเดือน) ถ้าใครสนใจศึกษาเพิ่มเติมก็ไปต่อยอดได้นะคะ
2. คำตอบมักจะมีความเกรงใจ หรือสร้างภาพอยู่ เพราะเป็นคนรู้จักกันเนี่ยแหละ โดยเฉพาะผู้หญิง แต่ที่น่าตลกคือผู้ชายกับกระเทยจะให้คำตอบได้โดนกว่า
3. ถึงแม้ว่าจะเลือกคนที่รู้จักกันมาตอบ เราก็ไม่สามารถไปตัดสินใครได้และก็ใช่ว่าคำตอบที่ได้จะสรุปตัวตนของคนๆนั้นจริง อย่างไรก็ดี การรู้จักกันเพียงผิวเผินแล้วตัดสินกันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำในสังคมอยู่แล้ว จขกท เห็นว่าเราไม่ควรมองข้ามค่ะ

 มาดูกันเลยค่ะว่าเหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงขึ้นคาน คืออะไรบ้าง

1. ไม่สวย แต่งตัวไม่ดี บุคลิกไม่ผ่าน
OMG!!! จขกท ไม่คิดว่าคำตอบนี้จะมาเป็นอันดับ 1 เพราะเชื่อมาตลอดว่าคนเรารักกันด้วยใจ แต่ปรากฏว่าพอรวบรวมคำตอบแล้วพบว่าครึ่งหนึ่งของคนที่ขึ้นคานนั้นมีคนลงความเห็นว่า "ไม่สวย" อ้วนไป ดำไปไม่ใช่สเปคผู้ชาย สิวเยอะ ผิวไม่เนียน สูงไป ตัวใหญ่เกิน แม้แต่เจ้าตัวเองหลายคนยังเชื่อว่าที่เค้ายังไม่มีแฟนซะทีเป็นเพราะเค้าไม่ใช่สเปคผู้ชายไทย ที่ต้องผอม ขาว หุ่นดี บางคนหน้าตาพอไปได้ แต่แต่งตัวแปลกๆ หรือติสแตก ผู้ชายไม่กล้าเข้าใกล้ ส่วนบุคลิกที่ไม่ผ่าน นอกจากพวกติสเกินแล้ว ยังมีแบบ คิกขุอาโนเนะ ซึ่งผู้ชายมองว่าไม่น่าเอ็นดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มตัวอย่างของเราอายุ 30 ขึ้นไปแล้วด้วย หนุ่มๆเห็นว่านางควรเลิกทำตัวน่ารักแล้วเปลี่ยนมาเป็นผู้ใหญ่จะดีกว่า หรือผู้หญิงแต่งตัวจัดเต็ม ใส่บูทไปเชียงใหม่ ขนเฟอร์มุ้งมิ้ง

ที่น่าสนใจคือมีเพียง 5 คน ใน 24 คนเท่านั้น ที่ถูกระบุว่าขึ้นคานเพราะไม่สวย หรือไม่น่ารักพอเพียงอย่างเดียว (ใจร้ายเนอะ) แต่ที่เหลือมักจะมีเรื่องนิสัยและทัศนคติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าตัวเองไม่สวยก็ไม่ต้องน้อยใจแต่อย่างใด แต่ทางที่ดีคนเราควรจะดูแลตัวเองให้ดูดีไว้ก่อน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำเพราะให้ผู้ชายมาชอบ แต่การดูแลตัวเองก็เป็นสิ่งที่ดีกว่าอยู่แล้ว

น้องคนหนึ่งหน้าตาธรรมดาแต่งตัวดีมีการศึกษา มีเพื่อนผู้ชายของเธอสรุปว่าบุคลิกเธอดูตลกโปกฮามากเกินไปทำให้เหมาะจะเป็นเพื่อนมากกว่าแฟน "ไม่อยากได้แฟนเป็นตัวตลกอ่ะพี่ แค่มีอารมณ์ขันอย่างเดียวก็พอ" เมื่อถามว่าถ้าผู้หญิงคนนั้น สวย กว่านี้ แต่ตลกรั่วแบบเดียวกัน จะโอเคขึ้นมั้ย ผู้ชายตอบ "คือสวยมันได้เปรียบอยู่แล้วอ่ะ สวยแล้วรั่วมันก็ดูโก๊ะๆไง ก็น่ารักอ่ะ"

2. นิสัยและทัศนคติ
มาเป็นอันดับสอง ลองสรุปคร่าวๆก็มี
- หลงตัวเอง อันนี้คนสวยกับคนเก่งมักจะเป็น ผู้ชายส่วนใหญ่ที่ตอบคำถามบอกว่า ไม่มีผู้หญิงคนไหนสวยเกิน หรือเก่งเกินที่ผู้ขายจะจีบ มีแต่คนที่คิดว่าตัวเองดีเกินไปนั่นแหละ ปสก.ของจขกท.คือเพื่อนกลุ่มสวยและเก่งของเราแต่งงานกันไปหมดแล้วค่ะ แถมผู้ชายแต่ละคนนี่โปรไฟล์ระดับท็อป เพราะฉะนั้นเลิกคิดได้แล้วค่ะว่าตัวเองดีเกินไป ผู้ชายเลยกลัว ไม่ใช่นะคะ

ผู้หญิงบางคนชอบโพสเฟสบุ๊คเป็นเชิงว่า ชั้นโสด ชั้นสวย ชั้นไม่สน ผลคือ แทนที่จะทำให้ตัวเองดูมั่นเวอร์ กลายเป็นตรงกันข้าม เพื่อนสาวใกล้ชิดของพวกนางบอก "ไม่แปลกใจที่พวกนางยังขึ้นคานอยู่ คนที่เค้าไม่แคร์ชีวิตโสดจริงๆ เค้าไม่เสียเวลาเวิ่นเว้อเลยด้วยซ้ำ"

- ขึ้งอน ขี้หึง และเยอะตลอด นิสัยคนสวยอีกนั่นแหละค่ะ นิสัยพวกนี้บั่นทอนชีวิตคู่จริง มีพี่ผู้ชายคนนึงยังไม่ยอมขอแฟนแต่งงานซะที เพราะแฟนขี้งอนมากและคอยเช็คมือถือตลอด ท้ายสุดก็งอนจนเค้าขึ้เกียจง้อ ท้ายสุดก็ไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่งอน และไม่เช็คมือถือเลย อาซ้อเธอให้เหตุผลว่า "การงอนทำให้พี่เสียเวลาทำมาหากิน แทนที่จะไปทำอย่างอื่นต้องมารอว่าเมื่อไหร่เค้าจะมาง้อ ถ้าพี่โกรธพี่พูดและเคลียร์ตรงนั้นเลย ไม่มานั่งงอน" ซึ่งผู้ชายมองว่า ผู้หญิงที่ independent แบบนั้นดูน่าค้นหามากกว่า ส่วนนิสัยขี้หึงทำให้ผู้ชายเอียนถ้าต้องใช้ชีวิตที่เหลือกับผู้หญิงแบบนี้ค่ะ "เหมือนชีวิตจะมีดมนไปตลอด" เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเล่าถึงแฟนเก่าให้ฟัง

-วีนแตก ปรี๊ดง่าย เพื่อนสนิทเราหลายคนโดนสรุปว่า วีนง่ายเกิน ไม่ว่าจะกับบริกร ยาม เพื่อนแฟน บางคนลามไปถึงแม่แฟน และตัวแฟนเอง โอกาสโดนชิ่งมีสูงค่ะ

- เคี่ยว อยากได้คนรวย แสดงออกทุกอย่างว่าต้องการให้ผู้ชายเลี้ยงดูและชอบช็อปปิ้ง ชอบลากผู้ชายไปซื้อของให้และใช้ของแพงๆให้ดู และผู้ชายที่คบกันก็ดูออก เลยไม่มาขอ เพราะรอแต่งกับคนรวยด้วยกัน หรือรอราคาตก (อันนี้ลอกคำพูดเค้ามาเลย)

- เอาแต่ใจตัวเอง ชั้นต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด ผู้หญิงระดับเซเล็บคนหนึ่งให้คำตอบว่าที่ตัวเองยังไม่แต่งงานเพราะยังไม่เจอคนที่ดีพอ ในขณะที่เพื่อนผู้ชายและเพื่อนสาวของเธอบอกเป็นเสียงเดียวว่า "นิสัยแบบนี้ใครจะไปเอา จริงๆนะ ที่บ้านตามใจจนเป็นแบบนี้ ผู้ชายที่ระดับเดียวกันไม่เลือกเพราะมีที่สวยกว่าและดีกว่าอีกเยอะ ที่เหลือก็เป็นพวกนิสัยไม่ดี หลอกเอาเงินมากกว่า"

- ดูถูกความสัมพันธ์และความสำเร็จของคนอื่น อันนี้เป็นนิสัยหลักๆเลย เพราะหลายคนที่ขึ้นคานแบบไม่เคยมีแฟนเลยยยยย ตลอดชีพ เป็นคนแบบนี้ เวลาเห็นคนได้ดีแทนที่จะดีใจด้วยกลับไปขุดข้อเสียเค้ามาเพื่อดิสเครดิตเค้า เช่น "งานแต่งไม่ได้เรื่องเพราะชุดเจ้าสาวสะเหร่อมาก อาหารไม่อร่อย พิธีรีตรองเยอะมาก เชิญแขกมาเยอะเกินไม่เป็นส่วนตัว ไม่เก๋ ไม่เดิร์น เป็นชั้น ชั้นจะจัดแบบนี้ๆๆๆๆๆๆ" สังเกตดูคนกลุ่มนี้มักจะไม่ได้แต่ง หรือตำหนิผู้ชายที่เพื่อนคบโดยไม่จำเป็น คุณป้าวัยเกือบ 60 ปีคนหนึ่ง และวัย 80 ปี 2 คน  มีลูกหลานลงความเห็นว่าขึ้นคานเพราะเป็นพวกช่างติ และ "ชั้นทำดีกว่า" เนี่ยแหละค่ะ

อย่างไรก็ดี นิสัยหลายๆข้อที่ว่านั้นก็ใช่ว่าผู้หญิงแต่งงานแล้วเค้าไม่เป็นกันนะคะ บางคนเป็นแบบสุดๆยังได้แต่งเลย แต่ถ้าใครยังขึ้นคาน แล้วรู้ตัวว่ามีนิสัยแบบนี้อยู่ ควรรีบแก้ไข ไม่ได้ให้แก้เพื่อหาแฟนอย่างเดียว แต่เพื่อคนรอบข้างด้วย เพราะระหว่างที่ทำการสำรวจนี้ จขกท รับรู้ได้ถึงความอึดอัดของหลายๆคนรอบข้างพวกนางเลย

3. เป็นคนดีเกินไป
ข้อนี้มาเป็นอันดับ 3 ถ้าใครได้อ่าน Why men marry bitches? คงพอเข้าใจ ทำไมผู้ชายเลือกแต่งงานกับผู้หญิงร้ายๆ
ผู้หญิงในการสำรวจถึง 15 คน ใน 50 คน เข้าข่ายกลุ่มนี้ค่ะ

ส่วนหนึ่งมีแฟนที่คบกันนานมากพอที่สมควรแต่งได้แล้ว แต่แฟนไม่ขอแต่งงาน ฝ่ายผู้หญิงก็รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ มีพี่สาวเพื่อนคนหนึ่งเป็นซีสต์ในรังไข่ หมอตัดรังไข่ไปแล้วข้างนึง นางขอเก็บไว้ข้างนึง เผื่อมีลูกกับแฟนที่คบถึง 5-6 ปี แต่รอแล้วรอเล่าผู้ชายก็ไม่ขอซักกะที เพราะเหตุผลต่างๆนานา

ผู้หญิงอีกคนหนึ่งมีแฟนที่คบมา 3-4 ปี อายุก็พอจะแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวได้แล้ว แต่ไม่ยอมแต่ง ถามยังไงก็บ่ายเบี่ยง จนจับได้ว่าผู้ชายไปขายขนมจีบผู้หญิงคนอื่น เลยกลายเป็นเลิกกันไป ท้ายสุดผู้ชายไปขอผู้หญิงอีกคนแต่งงานทั้งที่เพิ่งคบกันได้แค่ 6 เดือน พอไปทำความรู้จักคนหลังเค้าบอกว่า "เค้าไม่รอ และเค้าจะไม่ทน ถ้าผู้ชายไม่คิดจริงจังกับเค้า"

จขกท มองว่าการเป็นคนดีต้องมีขึดจำกัดนะคะ บางคนยอมคบกับคนแย่ๆ ไม่ให้เกียรติตัวเองมาตั้งนาน แล้วก็ไม่ได้ลงเอยซะที

4. ไม่เจอใครซะที เจอก็ไม่ใช่
กลุ่มนี้เป็นพวกหน้าที่การงานไม่เอื้อต่อการเจอคนใหม่ๆที่เหมาะกับตนเอง มีผู้หญิงทั้งสวยทั้งเก่งเจ้าของกิจการคนหนึ่งบอกว่า "ผู้ชายที่อยู่รอบๆมีแต่ลูกน้องกับลูกค้า" หรือบางคนเงินเดือนสูงก็จริง แต่งานเป็นอุปสรรคกับการเจอคนที่จะแต่งงานด้วย

5. ปัญหาครอบครัว
กลุ่มนี้น่าสงสารที่สุด เพราะบ้านเราเน้นความกตัญญู มี 3 คนในกลุ่มตัวอย่างของเราเข้าข่ายนี้ แต่จะเป็นกลุ่มสูงวัยมากกว่า เราว่าเพราะคนรุ่นหลังเป็นตัวของตัวเองจัดมาก เลยไม่ค่อยมีใครเข้าข่ายนี้ พี่คนหนึ่งเล่าว่า "พ่อไม่ชอบใครที่พี่คบเลย ซึ่งพี่ก็ไม่ขัดใจพ่อ" แต่ก็มีอีกเคสที่น่าเห็นใจฝ่ายชาย ดูอย่างพี่อีกคนหนึ่งบอกว่า "พี่รักพ่อแม่มากนะ ถ้าใครจะคบกับพี่ต้องดูแลทุกคนในบ้านพี่ให้ได้ ต้องทำให้ได้เหมือนที่พี่ดู ต้องเสียสละ ตามใจทุกคน แล้วก็ต้องแต่งเข้าบ้านพี่ด้วยเพราะพี่จะไม่ทิ้งพ่อแม่ไปไหน" มีอีกคนจะแต่งงานอยู่แล้วไปดูดวง ที่บ้านบอกแต่งไม่ได้ ยังไงก็ไม่ให้แต่ง เลยกลายเป็นไม่แต่งไป

6. เลิกกับแฟน ตอนที่สายเกินไปจะเริ่มต้นใหม่ (แก่เกินนั่นเอง)
กลุ่มนี้ถือว่าขึ้นคานอย่างมีศักดิ์ศรี ดีกว่าแต่งไปแล้วทุกระทม แต่มาเลิกกันตอนช่วง 30 - 40 นี่ กลายเป็นเริ่มต้นใหม่ยาก แถมจะไปเริ่มกับผู้ชายที่ผ่านการหย่าร้างมาก็ดันไปเจอข้อ 5 ครอบครัวรับไม่ได้ หรือโดนดีดไปข้อ 1 คือแก่เกิน บางทีหน้าที่การงานเริ่มไกลผู้ชายโสดขึ้นเรื่อยๆเลยหลุดไปข้อ 4 ซะ

น่าแปลกคือมีส่วนน้อยที่เข้าข่ายข้อนี้ค่ะ มีเพื่อนคนหนึ่งสวยมากมาย แต่แฟนดันเลิกตอนอายุ 29 เพื่อไปแต่งกับคนที่สวยเหมือนกันแต่เด็กกว่า เก่งกว่า  นางต้องไปเริ่มต้นใหม่กับคนที่ไม่ได้ชอบเท่าคนก่อน แต่ดีที่ไม่ทำให้ต้องเสียใจ หรือมีทางเลือกมากเหมือนคนเก่า ผลคือนางทำใจไม่ได้ว่าท้ายสุดต้องเลิกกับคนก่อนนู้น ตอนนี้นางยังรอวันเยียวยาแผลใจอยู่เลยไม่ได้ลงเอยกับคนใหม่ซักกะที

ที่จริงมีรายละเอียดมากกว่านี้นะคะ แต่เลือกนำมาลงคร่าวๆ เดี๋ยวจะยาวเกิน ขออภัยถ้าทำให้รู้สึกไม่ดีบ้าง พยายามคัดแต่เนื้อๆ ค่ะ