“ความเป็นมืออาชีพ” ของสาวอาบอบนวด ตอนที่ 2
การให้บริการแบบไหนที่แขกต้องการ
เนื่องจากมีสถานบริการจำนวนมาก และมีผู้ประกอบอาชีพหญิงบริการอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน ทั้งในสถานบริการที่ถูกกฎหมาย ทำอย่างอิสระ ฯลฯ สถานบริการและผู้ทำอาชีพขายบริการจึงจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเพื่อดึงดูดลูกค้า
อินเทอร์เน็ตเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อาชีพนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เว็บบอร์ดรีวิวอาบอบนวด เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมจากนักเที่ยวอย่างมาก นอกจากที่เหล่าผู้ใช้บริการจะมา "รีวิว" การให้บริการของหมอนวดและสถานบริการแล้ว พื้นที่แห่งนี้ยังเป็นเหมือนสมาคมของผู้ชื่นชอบการไปอาบอบนวด มาแลกเปลี่ยนข้อมูลและความเห็นกัน และแน่นอนว่า ฝ่ายผู้ให้บริการเองก็สามารถมาอ่านความเห็นเหล่านี้เพื่อนำไปพัฒนาการบริการของตัวเองด้วยเช่นกัน
แม้หญิงบริการจะอยากได้แขกที่สะอาด และไม่รุ่มร่ามกับเธอนัก แต่เธอก็ไม่สามารถเลือกแขกได้ตลอด เมื่อมองจากฝั่งแขก เว็บบอร์ดเป็นพื้นที่ที่แขกใช้สะท้อนความต้องการและความเห็นต่อการบริการของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ผ่านคะแนนของการรีวิวแต่ละครั้ง หากสาวคนไหนได้คะแนนจากการรีวิวต่ำ ก็เป็นไปได้ว่า จะมีแขกไปใช้บริการน้อยลง หากแต่ถ้าหมอนวดคนไหนได้คะแนนสูง ก็จะเกิดเป็นกระแสปากต่อปาก ทำให้มีแขกคนอื่นๆ เข้าไปเรียกใช้บริการเป็นจำนวนมาก เว็บบอร์ดเหล่านี้จึงมีความสำคัญต่อธุรกิจอาบอบนวดอย่างยิ่ง
“ส่งการบ้าน” คือ แสลงของเว็บบอร์ดอาบอบนวด ซึ่งหมายถึงการมาเขียนรีวิวหลังใช้บริการถึงความพอใจว่า การใช้บริการครั้งนี้นั้น “เงินหล่น” ซึ่งหมายถึง การบริการครั้งนี้ไม่มีคุณภาพ รู้สึกผิดหวังกับการบริการของผู้ให้บริการ ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปจึงเปรียบได้ว่า ทำเงินหล่นหายไป และ “เงินทอน” ซึ่งหมายถึง การบริการที่ดีมากจนแขกประทับใจ ทั้งยังมีการบริการที่เรียกว่า “กรุ๊งกริ๊ง” ซึ่งหมายถึง ได้รับการบริการต่ำกว่าคาดหวัง แต่ไม่ถึงกับ “เงินหล่น”
ในการรีวิวแต่ละครั้ง ผู้รีวิวจะเล่าประสบการณ์ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปในสถานให้บริการจนถึงเสร็จกิจ การรีวิวมักจะเน้นไปที่รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ ขนาดหน้าอกของสาวผู้ให้บริการ ไปจนถึงสีสันของอวัยวะเพศ นอกจากนี้ยังมีเรื่องลีลาในการให้บริการ การเอาใจใส่ในการบริการ และแน่นอนจำนวนเงินที่จ่ายไป พร้อมให้ความเห็นว่า พอใจหรือไม่ และจะกลับไปใช้บริการกับสาวคนนี้อีกหรือไม่
ในทุกเว็บบอร์ด ยังมีการให้คะแนนกับการใช้บริการแต่ละครั้ง โดยแบ่งเป็นประเภทความพึงพอใจดังต่อไปนี้ : “GF” , “เนื้อตัว” , “หน้าตา” และ “การบริการ”
GF ย่อมากจาก Girlfriend Factor คือ ความรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขเหมือนได้อยู่กับแฟน
โดยในเว็บบอร์ด “สังคมราตรีของคนเชียงใหม่” ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า “คือความรู้สึกพอใจและมีความสุขเหมือนได้อยู่กับแฟนนะครับ ส่วนมากจะหมายถึงการที่น้องมีมนุษยสัมพันธ์ดี หยอกล้อ เป็นกันเองทำให้ไม่เกร็งไม่เหมือนอยู่กับคนแปลกหน้านะครับเป็นความสามารถเฉพาะบุคคลของหมอนวดนะครับ” และ เป็นการให้คะแนนโดยดูจาก “การเอาอกเอาใจใส่แขก มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี คะแนนในส่วนนี้ถ้าอยู่ในเรทที่สูงมากๆ คุณคาดหวังไว้ได้เลยว่า น้องเค้าจะดูแลคุณได้เหมือนว่าคุณอยู่กับแฟน ยังไงอย่างนั้นครับ”
ในส่วนของรูปร่างหน้าตาภายนอกของหญิงผู้ให้บริการ ดูจะมีความสำคัญถึงครึ่งหนึ่งของความพึงพอใจในการใช้บริการเลยทีเดียว เห็นได้จากเป็นสองในสี่ข้อของการให้คะแนน โดยหญิงบริการที่มีผิวขาวเนียนมักได้คะแนนมากกว่า ขนาดของหน้าอกและสีของปทุมถันก็เป็นอย่างหนึ่งที่เหล่าชายนักเที่ยวต่างให้ความสำคัญ ดังจะเห็นได้จากศัพท์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อบรรยาย ลักษณะของหน้าอก เช่น “หลอดไฟ” “ไฟหน้า” “ซีนอน” เป็นต้น นอกจากหน้าอกแล้ว อวัยวะเพศก็ยังเป็นส่วนที่ถูกประเมินอย่างมาก เช่น มีสีขาวชมพูหรือไม่ และเรียบเนียน หรือมีขนปกคลุม
คะแนนด้าน “การบริการ” มักให้ตามความทุ่มเทของหญิงบริการที่ทำเพื่อให้แขกพึงพอใจในด้านกามรมณ์ ซึ่งมาจากการให้ร่วมเพศหลายครั้ง การบริการโดยใช้ลิ้นและปาก โดยที่ถ้าหากหญิงบริการยอมอมอวัยวะเพศของแขกโดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย หรือที่เรียกว่า “อมสด” ก็จะได้คะแนนมากกว่า หรือไปในขั้นที่สูงกว่า เช่น การให้ร่วมเพศทางทวารหนัก ซึ่งถูกเรียกในหมู่ชายนักเที่ยวว่า “อ๊อฟโรด” และยังมีการให้บริการโดยใช้ปากใต้น้ำให้แขกในอ่างอาบน้ำ หรือ “ดำน้ำ” ที่ซึ่งถูกมองว่า เป็นการบริการที่ยาก และต้องใช้ความ “อึด” ของหญิงบริการเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างการ “ส่งการบ้าน” ของแขกสามคน หลังจากไปใช้บริการที่อาบ อบ นวด สามแห่งในกรุงเทพมหานคร ในเว็บบอร์ด Top 10 Thai Night
แขกคนที่หนึ่งให้คะแนนหมอนวด ดังนี้
“บริการ 10
GF 10
หน้าตา 8
เนื้อตัว 7 (ไม่ขาวไม่เนียน)”
แขกคนนี้ระบุว่า ชอบการให้บริการของหมอนวดคนนี้ เพราะเต็มที่กับการบริการมาก ยอมให้แขกมีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง และไม่ถือตัวเรื่องความสะอาด เพราะยอมใช้ปากดูดอวัยวะเพศแขกตั้งแต่ยังไม่ได้อาบน้ำ แขกยังกล่าวอีกว่า หมอนวดคนนี้บริการแขกแบบทุ่มเทและไม่ถือตัว “เหมือนแฟน” ทำให้แขกประทับใจและอยากมาใช้บริการในครั้งต่อไป แต่แขกก็ติดว่า หน้าอกเล็กของหมอนวดเล็กไปหน่อย และผิวพรรณไม่ขาวเนียน
แขกคนที่สองเล่าว่า เขาชื่นชอบความสวยของหมอนวดเพราะหมอนวด “ขาว บาง คล้ายลูกคุณหนู” ทั้งยังพูดคุยเป็นกันเอง อวัยวะเพศสวย อีกทั้งชื่นชอบเสียงครางและการตอบสนองของร่างกายที่แขกคนนี้บอกว่า มั่นใจว่า การตอบสนองดังกล่าวของหมอนวดคนนี้เป็นไปตามธรรมชาติ ที่เกิดจากการมีอารมณ์ร่วมจริงๆ ไม่ใช่การแสร้งทำทั้งยังมีช่องคลอดที่แน่นทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ร่วมเพศกับสาวแรกรุ่นอีกด้วย
แขกคนที่สามชื่นชอบความสวยของสาวที่ให้บริการ เพราะเธอมีหน้าท้องแบนสวย หัวนมสีชมพูและไม่แข็ง ทั้งยังมีรูปร่างที่ดีมาก ทำให้แขกเกิดอารมณ์ทางเพศมากขึ้น แขกยังชื่นชมอีกว่า เธอเป็นคนที่ยอมให้แขกสัมผัสและเลียได้ทั่วร่างกายโดยไม่มีบ่น
จากตัวอย่างทั้งสามข้างต้น จะเห็นได้ว่า การดูแลรูปร่างและหน้าตา การทำให้ผิวพรรณเรียบเนียนเป็นสิ่งสำคัญในอาชีพหญิงบริการ หากสาวใดปล่อยตัวอาจทำให้แขกหดหายไปง่ายๆ นอกจากนี้ การตอบสนองต่อแขกให้เห็นว่ามีอารมณ์ร่วมเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่ต้องทำให้แขกรู้สึกว่า เธอนั้นมีความรู้สึกเสียวซ่านไปพร้อมกับแขกจริงๆ
อย่างไรก็ตามจากการสัมภาษณ์หญิงบริการ ต่างก็ตอบตรงกันว่า การเสแสร้งแสดงความรู้สึก เช่น การแสร้งว่ามีอารมณ์ร่วมกับแขก เป็นสิ่งที่จำเป็นและแสดงความเป็นมืออาชีพของเธอ
ฟ้า มองว่า การแสร้งความรู้สึกร่วมระหว่างมีการสอดใส่เป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะทำให้แขกประทับใจ กลับมาใช้บริการกับเธออีกครั้ง “พี่ต้องแสร้งอยู่แล้ว ว่าพี่มีอารมณ์ร่วมกับแขก ไม่ใช่แขกเข้าไปถึง นอนกระดึ๊บๆ ให้แขกเอาลูกเดียว"
ขณะเดียวกัน โป๊ยเซียน มีการมองประเด็นที่แตกต่างจากฟ้า คือ เธอมองการกระทำของเธอที่มีต่อแขกเป็นการแสร้งการจินตนาการ ให้แขกรู้สึกว่าเธอรู้ใจ เข้าใจ ใส่ใจแขก “พี่ไม่คิดว่าเป็นแฟน แต่พี่เป็นกันเองกับแขก เราไม่ได้คิดลึกซึ้ง พี่ต้องแสร้งจินตนาการจากการกระทำกับแขก”
การทุ่มเทตามใจแขกก็เป็นสิ่งที่สำคัญ จะเห็นได้ว่า หญิงใดที่ยิ่งทุ่มเท ไม่ห่วงเรื่องสุขอนามัย เช่นการ “อมสด” ก็จะยิ่งได้คะแนนสูง เพราะทำให้แขกมีอารมณ์ร่วมได้มากกว่าตอนที่ใส่ถุงยางอนามัย
อย่างไรก็ตาม อาชีพบริการทางเพศนั้นเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูง ทั้งโรคหนองในแท้-เทียม , ซิฟิลิส , เชื้อเอชพีวี, เชื้อเอชไอวี ไม่ใช่แค่จากการร่วมเพศทางช่องคลอดโดยไม่สวมถุงยางอนามัย แต่ยังรวมถึงการกลืนกิน หรือการมีเพศสัมพันธ์ทางปากอีกด้วย การ “ทุ่มเท” ในการให้บริการกับแขกจึงมีขีดจำกัด เป็นกฎเหล็กของสาวเหล่านี้ ที่จะทำให้ตัวเองห่างไกลจากโรค และประกอบอาชีพหญิงบริการต่อไปได้อีกยาวนาน
การลดความเสี่ยงโรคเหล่านี้คือ การงดมีเพศสัมพันธ์ หรือมีคู่นอนน้อยคน และสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม ด้วยอาชีพขายบริการ การป้องกันตัวจากโรคติดต่อที่เป็นไปได้คือ การสวมถุงยางอนามัยนั่นเอง
โป๊ยเซียน กล่าวว่าด้วยทักษะการตามใจแขกทำให้เธอสามารถสร้างรายได้จากอาชีพหมอนวดเป็นกอบเป็นกำ แต่เธอก็จะไม่มีวันตามใจแขก ในการไม่ใส่ถุงยางอนามัย แขกบางรายถึงกับใช้กำลังบังคับเธอให้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงยางอนามัย ซึ่งเธอก็ต้องใช้ไหวพริบ เอาตัวรอดออกมา “มีแขกที่มีความคิดไม่สวมถุงยางอนามัย เพราะขอเอาสด พี่พยายามปฏิเสธแขกด้วยวิธีการต่างๆ แต่แขกไม่ยอม จับแขนพี่กดลงที่เตียง แต่พี่อาศัยจังหวะที่แขกเผลอด้วยการถีบแขกตกเตียงแล้ววิ่งออกจากห้อง เพราะพี่คิดเสมอว่า พี่ต้องรักษาตัวเองให้ปลอดภัย เพราะพี่ค่อนข้างจะอายุมากแล้ว อาการของโรคจะชัดเจนมากกว่าหมอนวดที่ยังสาว ยังมีเหตุการณ์เสนอเงินเพิ่มเพื่อขอเอาสด แต่พี่ก็พูดให้แขกคิดว่า ต่อให้พี่ให้หนูเป็นแสน หนูก็ไม่เอา คิดว่าเงินซื้อหนูได้หรอ พี่ไปหาคนอื่นเถอะ”
พิกุล หญิงบริการลูกสองที่ตั้งมั่นว่า แม้เธอจะทำอาชีพขายบริการที่มีความเสี่ยง แต่เธอก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้มีอายุยืนยาวที่สุดเพื่อเลี้ยงดูลูก กล่าวว่า เธอให้ความสำคัญกับการใส่ถุงยางอนามัยตั้งแต่ในช่วงลูบไล้และเธอไม่กังวล หากกฎเหล็กในการใส่ถุงยางอนามัยของเธออาจทำให้แขกไม่พึงพอใจ “แขกพี่จะต้องสวมถุงยางอนามัยตั้งแต่พี่ลูบไล้อวัยวะเพศแขกจนแข็ง เพราะพี่มองว่า เป็นการป้องกันผู้ชายใจเร็ว มีเหมือนกันที่แขกของพี่พูดเลี่ยงบอกว่าแพ้ถุง พี่ก็จะพูดกับแขกไปเลยว่า ‘พี่แพ้ถุงพี่ไปเอากับเมียที่บ้านพี่เถอะค่ะ’ พี่คิดเสมอว่า พี่ไม่เกรงใจแขกและไม่กลัวว่าแขกจะไม่มาขึ้นเธอซ้ำ เนื่องจาก พี่มองว่า การสวมถุงยางอนามัย เป็นเสมือนกฎเหล็กในอาชีพของพี่”
ฟ้าเล่าว่า เมื่อเจอแขกขอมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สวมถุงยางอนามัย เธอจะใช้วาทศิลป์ในการเกลี้ยกล่อมแขก “มีมาเหมือนกัน ที่แขกมาแบบขอพี่ไม่สวมถุง แต่พี่ต้องพูดให้แขกคิด ปฏิเสธแบบมีชั้นเชิง ณ สถานการณ์นั้น ช่วงเวลานั้น อธิบายอย่างมีเหตุผล เช่น พี่ไม่กลัวว่าหนูจะติดอะไรมาเหรอ ทำงานทุกวัน มากหน้าหลายตา ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับพี่แค่คนเดียว”
จะเห็นได้ว่า การป้องกันตัวเองจากโรคติดต่อ มีความสัมพันธ์อย่างยิ่งกับทักษะในการต่อรองแขกอย่างยิ่ง หมอนวดที่ยิ่งมีทักษะในการเจรจาต่อรองกับแขกสูง ยิ่งปลอดภัยจากโรคมากขึ้น
ภาพประกอบจาก คาราบาวซีรีย์ ตอนนางงามตู้กระจก