หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ลองมั้ย แบกเป้เข็นลูก 2 ขวบลุยญี่ปุ่น 13 วัน ตอนที่ 1

เนื้อหาโดย junce

ตั้งใจจะทำ page ให้น้ำใจแนะนำที่เที่ยวสำหรับเด็กวัยเดียวกัน
และเป็นบันทึกของลูกในอนาคต https://www.facebook.com/namjaipainai
และนี้คือ Trip ที่ใหญ่และยาวที่สุดแห่งปี 2014 ของน้ำใจคะ

ถึงคราวรีวิวการไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศของครอบครัวเราบ้าง ครั้งนี้เป็นประเทศที่สองที่เราท่องเที่ยวกับลูกน้อยน้ำใจ มาคราวนี้น้ำใจอายุสองขวบสิบเดือนแล้วค่า พอที่จะรู้เรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมาย และ กำลังช่างจดจำช่างซักถามเอาเรื่องเลยทีเดียว

กระทู้นี้ก็เอาไว้เป็นเมมโมรี่ให้ลูกอ่าน เอิ๊กๆๆๆๆ คิดไปไกลเลยทีเดียว แต่ที่สำคัญคือเอาไว้เป็นการแชร์ประสบการณ์พาลูกเที่ยวต่างประเทศวัยสองขวบกว่านี่ละคะ เผื่อมีพ่อแม่คนไหนอยากพาลูกไป แต่ใจก็กลัวลำบาก กลัวงอแง ไม่ต้องห่วงคะมีแน่นอน งัวฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เรื่องลำบากหรอ โอ้ยยยไม่ต้องสืบแหงละ แต่เรื่องความสนุก ความสุขจะได้เย้อออออ มีความสุขสุดๆคะ เพราะลูกจะทำอะไรตลกๆตลอดเวลา เป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคนนะคะ

การเดินทางของเราเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมถึง 21 ตุลาคมคะ
เริ่มแพลนการท่องเที่ยวล่วงหน้าเลยหนี่งเดือนเต็มๆ สามีผู้เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมเอ็กเซลล์ ก็ร่างแพลนการเดินทางทันที
และเมื่อเราตกลงที่จะเดินทางได้เราก็เลือกสายการบินเลยค่า เลือกเอาถูกที่สุด และเงื่อนไขคือต้องบินตรง ไม่แวะที่ไหนกลัวลูกเหนื่อย ด้วยช่วงเวลาที่เราเลือก เราก็ได้สายการบิน AirAsia X เข้าออกที่สนามบินคันไซซะดึกเลย ราคาก็เลยประหยัดมว๊ากกก แม้ว่าสายการบินนี้จะคิดราคาน้ำใจรวมด้วยเต็มราคาเหมือนผู้ใหญ่ก็ตาม สุทธิแล้วก็จ่ายคนละประมาณ 11,000 บาท รวมกันสามหน่อก็ สามหมื่นกว่าาาา ถูกชิมิๆ

เออ เมื่อมีลูกก็เกิดปัญหาเรื่องรถเข็นตามมา เอ๋ เอาไปหรือไม่เอาไปดี หรือจะซื้อที่โน้นดี เอาดีๆแล้วหิ้วกลับมาแต่ราคาเอาจริงก็พอๆกันนะคะ หรือจะซื้อถูกๆที่โน้นแล้วทิ้งไว้เลย ไปๆมาๆ สุดท้ายเลือกที่จะซื้อขนขึ้นเครื่องไปด้วยคะ เพราะรถเข็นที่เราเจอที่ Central พระราม 3 และตกลงหิ้วไปด้วยเป็นของ Combi รุ่น F2 น้ำหนักเบา 3.5 โล พับง่ายใช้แล้วเวิร์คดีคะ แต่ก็เล็กไปนิดนึงเหมือนกันสำหรับน้ำใจคะ เลยตัดสินใจหิวไปเลย

ปล.ราคาถูกก็ได้เวลาโหดหน่อยนะไฟล์ทขาออกเวลาประมาณ 5 โมงเย็นบ้านเรา ไปถึงสนามบินคันไซก็ เที่ยงคืนบ้านเขาละ
เตรียมตัวเลยจ้า น้ำใจพร้อมมาก เรียกใช้บริการ GRAB TAXI เลยคะ ช่วงนั้นก็เป็นช่วงฝนตก กว่าแท็กซี่เข้ามารับถึงที่ออกเดินทางไปดอนเมืองทันที

น้ำใจเหม่อมองฟ้า ชอบเครื่องบินมากคะ หนแรกๆที่พาลูกขึ้นก็กลัวว่าลูกจะกลัวมั้ย ไม่กลัวคะชอบนั่งมากๆ

นั่งรอเวลาขึ้นเครื่อง ไม่วิ่งซนมากเท่าไหร่เพราะชอบมองเครื่องขึ้นลง

ใกล้จะได้ขึ้นแล้วววววว แต่หนูไม่เหงาคะเพื่อนหนูเยอะ ฮะๆๆๆๆ เนียนกะลูกคนอื่นเขาเฉย เหมือนมาด้วยกัน

นั่งเครื่องเลือกที่นั่งเอาติดหน้าต่างน้ำใจจะได้นั่งดูวิว แถวที่เรานั่งก็เลือกแถวที่ถัดจาก Hot Seat ใกล้ทางออก แล้วก็สั่งอาหารเสริมบนเครื่องด้วย เผื่อหิว
อาหารบนเครื่องโอเคเลยคะต้องจ่ายเพิ่ม เป็นไก่เทอริยากิ กับข้าวเหนียวไก่ย่างสักอย่าง แต่ที่อร่อยคือเค้กค่าาาาาา อิๆๆๆ เค้กกล้วยอ่า เวิร์คคะ
ผ่านไปน้ำใจก็มีงัวเงีย เปลี่ยนท่านั่งไปมาหลายท่า ผ่านไปหกชั่วโมงถึงญี่ปุ่นแล้วววววววว ง่วงมากเลยค่า แม่ก็รีบพ่อก็รีบจะได้ทันรถบัสเข้าเมืองเที่ยวเที่ยงคืนสี่สิบห้า ลงสนามบินรีบจับลูกใส่รถเข็น มองหาที่จอดรถ แต่หลงไปหนึ่งชั้นลงมาอีกที พลาดไปแค่สองวินาที รถออกไปต่อหน้าต่อตา ตรงเวลาไปไหนนนนนนนน ต้องรอรอบหน้าเลยค่าตีหนึ่งกว่าโน้นนนนนนน เลยเทิร์นกลับไปสนามบินเข้า Lawson หาอะไรกินเป็นสถานที่แตกแบงค์เยนที่แลกมาก่อนเลย


สนามบินเงียบมาก มีคนนอนที่สนามบินก็หลายคน หลังจากเข็นรถเที่ยวสนามบินก็ถึงเวลารสบัสมาพอดี จ่ายค่าตั๋วราคา 1550 เยน เด็กแบบน้ำใจไม่ต้องจ่ายค่าเพราะไม่ถึงหกขวบ สามารถดูราคาได้ที่เว็บนี้คะ
http://www.kate.co.jp/pc/e_time_table/e_osaka_sta_tt.html#from
เอาน้ำใจนั่งตัก ส่วนสัมภาระเขาจะเอาหมายเลขติดให้ใส่ใต้ท้องรถ นั่งรถผ่านไปประมาณ 50 นาที ขึ้นทางด่วนไม่ค่อยมีวิวได้ดู ถึงอีกทีก็เข้าเมืองเลยค่าเส้นทางวนไปวนมากว่าจะถึงที่ ลงรถเขาจะเอาสัมภาระลงให้เราก็เอาเลขที่เขาให้ไปยื่น ตอนนี้น้ำใจเริ่มงอแงนิดๆเพราะง่วงมาก แม่เลยต้องรีบยื่นหมายเลขเอารถเข็นก่อนเลย เรามาลงที่โรงแรม New Hankyu Umeda

ที่จอดรถก็จะมีลุงๆแท็กซี่ยืนคอยกันหลายคนเลยทีเดียว คนอื่นก็เรียกแท็กซี่กันใหญ่ด้วยความที่บ้านเรามาทริปประหยัดแบบประหยัดจริงๆนะ ถ้าไม่จำเป็นแท็กซี่จะไม่แตะเลยค่า แพงเหลือเกิน ดูตามแผนที่โรงแรมที่เราเลือกก็อยู่ไม่ไกลเหมือนจะลอดใต้สถานีได้ด้วยต่างหากอย่างงี้ไม่ยากๆๆ พอไปถึง หึๆๆๆๆๆ อยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ประตูสถานีปิดจ้าาาาาาาา ไงละที่นี้เปิดมือถือเดินดูทิศเลยคะ จะเดินไปทางไหนดี ไปๆมาๆเลยต้องเดินอ้อมโลก ครึ่งชั่วโมงกว่า กว่าจะถึง โฮเต็ล คินคิ นี่เลยคะโรงแรมคืนแรกของเรา


เรื่องความกว้างไม่ต้องหวังมากนะคะโรงแรมที่ญี่ปุ่นนี่ พอมีพื้นที่บ้างก็โอเคแล้วคะ เพราะด้วยเหตุผลนี้ก็เลยซื้อถุงนอนสำหรับน้ำใจหิ้วมาด้วย สรุปไม่ได้ใช้เลยค่าตลอดทริป ไม่ต้องเอามาก็ได้เปลืองพื้นที่ใส่ขนมของฝาก หุๆๆๆๆ

โรงแรม KINKI โอเคเลยนะ ราคาไม่แพง ห้องสะอาดที่สำคัญพนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเลยทีเดียว แล้วก็ Helpful มาก ที่โรงแรมจะมีสบู่ยาสีฟันแปรงสีฟันให้ที่ชั้นล่างหน้าฟร้อนรีเซฟชั่นเลยคะหยิบไปได้เลย แต่โรงแรมนี้จะอยู่ในย่านที่เป็นยังไงดีละ อารมณ์เหมือนสีลมบ้านเราประมาณนั้นอ่ะ มีคนเมานั่งๆ นอนๆ ข้างถนนเต็มไปหมดเพราะเหมือนถึงเวลาผับปิด แต่เรามีเด็กมาด้วยก็ไม่อะไรมากนะคะ น้ำใจมาถึงก็ตื่นเหมือนไม่ง่วงเลยค่า แต่ก็รีบเอาน้ำใจถอดเสื้อผ้าอาบน้ำนอนเลยคะ ดึกมากแล้วนี่เข้าวันใหม่ละ รีบนอนเอาแรงตื่นมาจะได้เที่ยวต่อ โชคดีที่น้ำใจเป็นเด็กอึดถึงไหนถึงกันเลยคะ
จองไป 3 คืน ราคาประมาณ​ 7300 บาทเป็นห้อง Double (ไม่ใช่ Semi Double) ถือว่าหรู๋ละ
http://hotelkinki.com/en/

เย้ๆๆๆ เช้าแล้วค่า ตื่นมาอีกทีก็สิบโมงเลยนี่เข้าเวลาตามบ้านเขาเลยนะคะ บ้านเราก็แปดโมงได้ รีบพาน้ำใจออกไปหาซื้อของกินง่ายๆกันหิวแล้วค่อยไปหาของอร่อยๆกิน วันแรกเลยแพลนเรามุ่งไปที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Kaiyukan อย่างอื่นเป็นทริปเสริมคะ

พร้อมออกเดินทางกันค่าวันแรกมาแล้วๆ

หาอะไรกินกันที่สถานีUmeda ก่อนเลยคะลงไปใต้ดินมีอะไรกินเยอะแยะเลย แต่เราต้องหาที่เด็กกินโอเค สบายๆ ส่วนใหญ่เป็นร้านที่ต้องยืนกินแต่น่ากินอ่าาาา จนมาเจอร้านนี้ละที่มีเก้าอี้นั่งเก็บรถเข็นพับได้สบายๆเหมาะกับบ้านเราละ




อิ่มท้องก็มีพลังแล้วละ พร้อมเดินทางต่อขึ้นไปบนสถานีก็ไปยื่นงงๆ ก้งๆกันสามคนพ่อแม่ลูก ยังไงละแล้วยังไงต่อ หาป้าย tourist information ดิ่งเลยไปซื้อ Osaka Amazing Pass มาก่อน สองวัน 3000 เยน เข้าไปเช็ครายละเอียดที่นี่เลยคะ
http://www.osaka-info.jp/osp/en/index.html
กลับมางงที่จุดขายตั๋วที่สถานีต่อ พยายามกดเครื่องหาภาษาอังกฤษก็ไม่เจอ จนต้องนายสถานีต้องเข้ามาหา ลุงแกก็พยามย้ามมมม พยายาม.... สื่อสารไปมาพยายาม เปิด แฟ้ม เหมือนเซลขายของคะ ให้ดูตั๋วนุ้นนี้เอาแบบไหน จนเราบอกว่าจะไป Aquarium ลุงแกก็อ่อๆ I have I have, Aquarium one day pass, all subway and Aquarium very discount. เอาเป็นว่าเก็ท พยายามจะขาย One Day Pass ของ Aquarium, ตรงกับความต้องการพอดี เพราะตั้งใจจะเริ่มใช้ Amazing Pass ในวันที่สองอยู่แล้ว ลุงแกก็พาเดินไปห้องสถานี แนะนำให้ซื้อตั๋วเลย เป็นค่าขึ้นรถแล้วก็เข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ฟรี!!! ได้ยินงี้ก็เอาสิคะ หน้าตาตั๋วเป็นอย่างงี้คะ


นั่งรถไฟจาก Umeda มาลงที่สถานี Osakago เดินประมาณ 5 นาทีก็มาถึงละคะไม่ยาก พอเข้าใจระบบปุ๊บ Subway เด็กๆมากบอกเลย ระหว่างทางก่อนจะไปถึงก็ผ่านหัวมุมทางแยกที่สวยมาก ถนนที่นี่กว้างงงงงงงงงง กว้างจริงจังอะ รถจักรยานก็ขี่ข้างบนได้ ถนนดูใหม่ สะอาด สวย ชอบอ่ะ ไฟที่ตกแต่งตึกสไตล์ยุโรปก็เก๋ แวะพักถ่ายรูปก่อน ลมดี อากาศดี เห็นชิงช้าด้วย




ข้ามมาที่ห้างก่อนจะถึงก็เอาสักหน่อย แวะส่วนที่เหมือนจะเป็น Mall เล็กๆ ไอติมเย็นๆ ล่ออยู่ น้ำใจวิ่งไปแวะ เห้ย อร่อยยยย




จะถึงแล้วค่าาาาาาาาา

ย๊างงงงงงงช้าก่อนถ่ายรูปก่อนนะ ส่วนนี้ติดกับส่วนที่เรียกว่า Osaka Bay หรือ Port นี้ละ อิๆๆๆ
วิวสวยมากแต่วันที่มาเมฆยังเยอะอยู่เลยไม่ใสเท่าไหร่ แต่ก็ประทับใจมากๆ นี้แค่วันแรกนะเนี้ย



ออกมารับลมชมวิวติดท่าเรืออย่างงี้ๆ อยากอยู่นานๆ จังเลย แต่ไม่มีเวลาละ



มาเข้าพิพิธภัณฑ์ข้างในกันเลยคะ น้ำใจพร้อมแล้วววว

อ่อ ที่นี่ฝากรถเข็นข้างนอกได้นะคะ มีล็อคเกอร์เก็บของได้ด้วย แต่ว่าล็อคเกอร์ต้องหยอดเหรียญเอานะคะ ถ้าจำไม่ผิดจะมีสองราคา 300 กับ 600 เยนคะ ต้องลองเช็คราคาดูอีกทีนะคะ


น้ำใจตื่นเต้นมากค่าาาาาา ต้องชมติดหน้าจอติดกระจก

ตกแต่งสวยงาม สัตว์ที่นี่ดูดี สุขภาพแข็งแรง อ้วนท้วมสมบูรณ์ดีจริงๆ


โซนนี้น้ำใจก็ชอบคะ ให้ลองห้อยต่องแต่งเป็นลิง

ออกมาก็มืดซะแล้วหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า ที่ร้านจะมีของเล่นให้เด็กๆเลือกหนึ่งชิ้นระหว่างนั่งกินอาหารคะ กินกันที่ห้างใกล้ๆกับพิพิธภัณพ์นั่นเลยคะ กินกันราคาประหยัด จำชื่อร้านไม่ได้ขอโทษด้วยนะคะ

กินเสร็จก็ถ่ายรูปอีกกกก

ตึกนี่มันสวยจริงๆนะเอาอีกรูป

วันนี้ใช้เวลาช้าไปหน่อยกลับมาก็สองทุ่มละ ได้ไปที่เดียวและชมวิวข้างทาง กลับเข้าโรงแรมเลยคะ แวะแฟมิลี่มาร์ทใกล้ๆซื้อขนมนมเนยไว้ตอนเช้าก่อน น้ำใจเสนอโดรายากิค่าาาาาา นี่

เป็น Video นิดหน่อยที่ ถ่ายมาจาก Aquarium นะคะ บรรยากาศเล็กน้อยคะ ลองชมกันได้ค้า
ไปอาบน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวมาเล่าวันที่ 2 ต่อคะ ตารางจะเข้มข้นกว่านี้คะ



 

>>>>>>> วันที่ 2 <<<<<<<<<


วันต่อมาตื่นประมาณ สิบโมงรีบอาบน้ำกินข้าวเช้าที่ซื้อตุนไว (ประหยัด) เริ่มเข้าใจ Subway ของ Osaka
เลยใช้ Amazing pass แล้วก็นั่งตรงมาเลย ลงที่ Tenmabashi พอลงมาเจอแต่ตึกคะ
อมยิ้ม19อมยิ้ม19
งงแป็บ เปิดโทรศัพย์ดู Google Map ก็เดินมาจนเจอ รั่วปราสาทและป้อมปราการ น้ำใจก็รีบวิ่งไปเกาะรั้วดูเลยคะ






เดินไกลอยู่นะคะ แต่วันนี้อากาศดีมากคะเดินกันมีความสุขเลย แต่มาถึงก็เหนื่อยแฮก เลยแวะซื้อของทานเล่นและเครื่องดืม
และเจ้าน้ำใจก็เอาอีกแล้ว วิ่งเข้าไปดูไอติม ต้องซื้อให้กินแถมกินไม่แบ่งใครอีก ดูในคลิปได้เลยร้ายจริงๆ

ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้




ทางเข้าสวยงามสุดยอดเลยคะ สะอาดสะอ้าน ปลื้มมมมมมากกกกกกกก เดินเข้ามาจะเจอร้านค้าจำนวนหนึ่ง
และจะมีพวกบริการถ่ายรูปเยอะมากเลย ให้เช้าชุดเช่าดาบ ถ่ายรูป พอดีวันนี้เราจะทำเวลาเลยไม่ได้สนใจตรงนั้นคะ
เดินเข้ามาอีก สิบนาทีก็โอเจอแล้วสวยจริงๆ ปราสาทโอซาก้าาาาาาาาาาาา



ดูๆ ดูมันยิ้ม เต็มใจมากกกกกก เจ้าน้ำใจร้องไห้

ภายในปราสาทชั้นต่างๆ จะเป็นเป็นการแสดงทั้งเรื่องเมืองเก่า ชุดเกราะ ห้องต่างๆของ โชกุน (รึเปล่า)
และต้องขึ้นมาชั้นบนสุดคะ เพื่อที่จะดูวิวบนประสาท จริงๆ ก็ไม่ตื่นเต้นไรมากนะคะ แนะนำว่าถ้าไม่ได้มีตั๋ว Amazing Pass
ไม่ได้มีเวลามาก และไม่อยากเดินเหนื่อย แนะนำว่าไม่ต้องขึ้นมาก็ได้คะ แค่ดูข้างล่างก็สวยแล้วววววววว
ตึกสูงๆ ที่ชมวิวสูงๆ มีอีกเยอะะะะะ ในเมืองสวยกว่านี้อีก









เดาว่านี้น่าจะเป็นเจ้าของปราสาท


ลงมาเอาอีกละน้ำใจ ไปจิ้มหน้าตุ๊กตาเค้า จะเข้าไปเอาไอติม คราวนี้คุณพ่อใจแข็งคะ ลากเดินต่อ
ซื้อให้ก็งกไม่แบ่งพ่อแม่กิน ไม่มีทางแล้วละ น้ำใจๆ หึหึหึ

พอออกมาจากปราสาทก็ลอง ค้นหาที่กินข้าว และดูหายากเลยตัดสินใจไปหาเอา แถวๆ วัด Shi Tenoji จุดหมายต่อไปของวันนี้กันเลยดีกว่า

เดวไปต่อกันเลยคะ


ว่าแล้วก็นั่งรถไฟมาลงที่ สถานี Shitenojimae ลงมาก็เอาอีกแล้วเจอแต่ตึก เอาจริงๆ สถานีญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในเมืองออกมาก็เจอตึกทั้งนั้นคะ
เปิด Google Map อีก ลืมบอกไปว่า เราเช่าตัว Samurai Wifi มาอ่ะคะไม่งั้นไม่ได้หลงงงงงงง ตายยยยย เดินเข้ามาใยซอยถนนเล็กๆมีตึกแถวข้างๆน่ารักๆ ก็เจอร้านราเมงเล็กๆร้านนึง หิวกันแล้วก็เลยไม่เลือกคะเข้าไปเลย เป้น ราเมงหอยลายยย รถชาติก็โอเคนะคะ เช็คราคาแล้วก็ไม่แพงก็พักกันทีนี้เลย







ว่าแล้วก็เดินเข้าไปในซอยเล็กๆ นี้ต่อ แล้วก็งงๆเล้กน้อยเห็นเหมือนเป็นวัดใหญ่ๆ มีเหมือนจัดงานศพอยู่เดินตุ่มๆเข้าไปกลัวโดนไล่ออกมา
แล้วก็ต้องแอบถามเค้า เค้าก็ใจดีนะคะ เดินมาชี้ทางเดินทะลุไปให้ จนโอ้วววว เห็นแล้ววว หอคอยสูงๆ แต่เห้ยไม่มีคนเลยยย มีแต่ครอบครัวเราเข้ามาดูจริงๆ โชคดีๆมากๆ น้ำใจวิ่งเล่นเพลินเลย










วิ่งวุ่นเลยคุณพ่อต้องคอยวิ่งตามแต่มีจังหวะนึง เห้ยยยยยยยยย ตรงหินขาวๆ ที่เค้าห้ามเข้าเพราะเค้าวางเกลี่ยเป็นเส้นๆอย่างสวย
เจ้าน้ำใจมันลงไปหยิบเล่นแล้วววววววววววววว รีบเลยๆ คุณพ่อรีบวิ่งลงไปอุ้มออกมากลัวใครเห็น ตกใจแทบแย่กลัวโดนว่าคะ
เพี้ยนทุบคอมเพี้ยนทุบคอม

เค้าเรียงไว้สวยขนาดนี้


ดูรอยสิคะที่เดินออกไป แย่เลย



จูงเลยคะ รีบจูงออกไปเลยคะ ออกมาแล้วก็เจอสิ่งที่น่ารักมากๆ ของวัดในญี่ปุ่น บ่อน้ำน่ารักๆ ไว้ให้ล้างมือ
ห้ามกินนะคะจะมีป้ายบอกไว้เลยว่าเดี๋ยวนี้เค้าไม่ให้ดืมกันแล้ววววว




แล้วเราก็จากไปโดยต่อไปตั้งใจจะเดินไปละเพราะ หอคอย Tenoji Tower ที่ดูใน แผนทีไม่ไกล แล้วเห็นว่าระหว่างทางมีวัดที่แวะได้เรื่อยๆ
ก็เลยตกลงใจเข็นลูกไปกันคะ

เดินไปเดินมาเห้ยมันไม่ไกลนะคะ คุณสามี เดินกันแฮกเหมือนกัน
ระหว่างทางเดินไป หอคอยก็เจอวัดนี้สารภาพคะว่าไม่รุ้ว่าวัดอะไรจริงๆ เห้นทางเข้าสวยมากเลยเข้าไปดู
ไม่ใหญ่มากแต่ก็สวยดีคะ แล้วน้ำใจได้เจอของโปรดด้วย ได้มาดูปลา คุณแม่ก็ถือโอกาสเข้าห้องน้ำคะ






พาน้ำใจไปไหว้พระเสร็จก็พาไปดูปลาคะ น้ำใจถ้าเจอปลานี้อยู่ไดเป็นชัวโมงเลยคะ จะจดจ่อมากๆเลย








ดูอยู่นานเลย คุณพ่อคุณแม่ผลัดกันเข้าห้องน้ำเรียบร้อยคะ พักเรียบร้อยเดินทางไป หอคอยต่อ!!!!!






เดินมาถึงจนได้ ทางเข้าคล้ายๆเป็นตลาดนัด ร้านค้ามากมายนะคะ มีร้านอาหารร้านขายของที่ระลึกร้านของเล่น
มีร้านยอดมนุยษ์ คินนิคุแมนอะไรไม่รุ้ ต้องรุ่นคุณสามีถึงจะรู้จักค้าาาา หนูไม่รุ้จักกกกกกกกก
เดินมาเหนื่อยเลยแวะร้านผลไม้ สั่งน้ำปั่นมากินกันแล้วก็เดินไปดูทีหอ เพราะเคยอ่านมู้ในพันทิพบอกว่าบางทีคนขึ้นเยอะคิวยาวมาก




ทางเข้าอยู่ข้างใต้คะ เดินลงบันไดไปเพื่อขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน ปรากฏว่าไม่มีคนเล้ยยยยย วันนี้มันวันดีจริ๊งงงงค้าาาาาา แฮปปี้
ประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจ




ขึ้นมาถึงก็อีกแล้ววววว คุณสามีกรี๊ดใหญ่ เค้าจัดนิทรรศการ คินนิคุแมนอยู่ รีบเข้าไปถ่ายรูปใหญ่เลยคะ โชว์แก่



หลังจากปล่อยแก่เสร็จก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนกันค้า




เหมือนเค้าวาง เทพเจ้าตัวจิ๋วไว้แต่ละทิศของเมืองคะ วิวสวยมาเลย พระอาทิตย์กำลังตกรออีกนิดก็มืดเห็นไฟเยอะแยะเลย





อยู่ข้างบนกันนานพอสมควรเลยคะเพราะคนไม่เยอะและวิวก็สวยมากๆเลย มีเครื่องเล่นเสียเงินเยอะเลยทั้งทำเหรียญที่ระลึก
ทั้งกล้องส่อง ต่างๆนาๆ ต้องพยายามดึงน้ำใจไว้เพราะวัยนี้เด็กกำลังอยากลองไปหมดคะ









ที่น่าสนใจคือลงมาชั้นล่างก็จะบังคับเราผ่านร้านของฝาก ที่เหมือนจะรวมขิงพิเศษๆของยี้ห้อขนมเจ้าดังอย่าง Glico ไว้เพียบ
ต้องดูเจ้าตัวเล็กให้ดีเลย จะหยิบทุกอย่างเลยทีเดียว มีเก้าอี้ป็อกกี้เรียงไว้ริมหน้าต่างตรง Cafe ให้นั่งทานเล่นชมวิวกันได้

หลังจากนั้น คุณแม่ก็บังคับคุณสามี ให้พาไปที่ Namba เพราะเห็นใครๆก็ไปถ่ายรุปที่ Dontonburi กันทั้งนั้น
สามีก็บอกว่าไม่ต้องรีบเพราะยังไงหลังจากเที่ยวครบตามแผน ยังมีเวลากลับมาช็อปปิ้ง โอซาก้าอีก 2 วัน
แต่ไม่เอาอ่ะกลัวพลาด สามีเลยตามใจคะให้แวะมาทานข้าวที่ Namba แล้วก็พบกับความอลังการ สมคำเล่าลือจริงๆ
ผู้คนผลุกผล่าน แสงสีอลังกาลตระกาลตา แต่ พอคนเยอะก็หาร้านทานยาก ต่อคิวนานเริ่มหงุดหงิด สามีเลยให้ซื้อมาโกะยากิมารองท้องก่อน
แล้วค่อยตัดสินใจกันอีกที









ต่อคิวซื้อร้านนี้เลยแล้วก็ทานกันตรงถนน เริ่มเหนื่อยเริ่มหงุดหงิด คุณลูกก็หงุดหงิดเหนื่อย คุณพ่อไม่อยากมีเรื่องคะ
เลยตัดสินใจเอ้า ซื้อชุดซูชิร้านปูชื่อดังกลับไปกินที่โรงแรมแล้วพักผ่อนก่อนค่อยว่ากันละกัน

ดูหน้าน้ำใจซิ บอกบุญไม่รับจริงๆ ไม่เอาไม่พูด








เราก็เลยลา Dontonburi กันไปก่อนเอาแค่แวะมาชิมบรรยากาศ เล็ก กลับโรงแรมพักผ่อนดูอาการก่อนคะ

แถมวิดีโอค้า เจ้าน้ำใจเจอปูยักษ์ที่ Namba แล้วก็ทำมือแบบนี้ตลอดทางเลย



พักกันได้ซํกพัก คุณสามีก็บิ้วคะ ว่าแผนตอนกลางคืนจริงๆ มีอีกสองทีที่ Osaka Amazing Pass ไปได้ Free คือที่ Osaka Skytree ตึกสูงใหญ่ที่ไว้ขึ้นไปชมวิว ปิดประมาณ 4 ทุ่ม และ HEP 5 Ferris View ที่ขึ้นได้จน 5 ทุ่ม เวลาตอนนี้คือ 3 ทุ่มครึ่ง สามีบอกเดินไปจากโรงแรม สิบนาทีก็ถึง Osaka Skytree โหยเดินจริงๆ นานคะแทบจะต้องวิ่งแต่ก็ทันคะ ได้ขึ้นมาดู Osaka ยามค่ำคืนคุ้มค่าคะ นี้นะรุปจาก Osaka Skytree




ต้องขึ้นลิฟต์ไปบนชั้นสูงๆ แล้วก็ลงมาขึ้นบันไดเลื่อนต่อ มันช่างหวาดเสียวคะ ดูตามรุปเลยคะ เสียวดีคะประสบการณ์ใหม่จริงๆ


เห็นวิวฝั่งที่เป็นแม่น้ำ สวยงามประทับใจมากๆคะ ลมเย็นๆ ต้องระวังน้ำใจวิ่งเล่น แต่จริงๆเค้าเซฟมากคะไม่มีทางตกได้เลย

ข้างบนจะมืดมากๆ แต่จะตกแต่งแบบเรืองแสงแล้วส่องด้วยแบล็คไลท์ ยิ่งทำให้หวาดเสียวขึ้นไปอีก อิอิอิ





อยู่ได้ไม่นานก็ต้องรีบลงมาคะ เพราะต้องทำเวลาไปให้ทัน HEP5 อยู่ชั้นบนของห้าง เลยต้องแบกลูกวิ่งคะ
ตอนแรกนึกว่าไม่ทันแล้ว ขึ้นลิฟต์ไปพนักงานรีบโบก คนญี่ปุ่นนี้ตรงเวลามากๆ เค้าเลยเร่งให้เรารีบไปขึ้นคะ

ตอนแรกก็กลัวว่าน้ำใจจะกลัวคะ ก็เลยต้องพยายามหลอกล่อด้วยการให้ดูการ์ตูนจะได้ไม่รู้ว่าอยู่สูงแล้ว





แต่ปรากฏว่าไม่กลัวคะ ลุกขึ้นชมวิว ปีน กระโดดไปกระโดดมา จนแม่ต้องขู่ว่าห้ามไปแตะประตูนะตกลงไปแน่ๆเลย เลยยอมยืนห่างประตูคะ
วิวจะเห็น Osaka Uemeda Station ประมาณนี้คะ ไม่สูงมากเท่า Osaka Skytree แต่ก็เสียวไปอีกแบบคะ


เป็นอันว่าวันนี้คุ้มคะ ลากยาวจนเกือบเที่ยงคืน ใช้ Osaka Amazing Pass ได้ตามเป้าหมาย ยังเหลือพรุ่งนี้อีกวัน
แต่จะใช้แค่เพียงครึ่งวันคะแล้ว ก็จะออกไป โตเกียวแล้ว ติมตามกันต่อตอนหน้านะคะ
คืนนี้ พาน้ำใจนอนก่อนคะ อิอิอิอิ


แผนที่คุณสามีทำไว้ก็ประมาณนี้คะ แต่ก็เปลี่ยนแปลงมากเลยพอไปถึงเพราะเรา flexible มากคะ จริงๆที่ใช้งบน้อยหน่อยได้เพราะไปพักที่ Apartment เพื่อที่โตเกียวตั้ง 4-5 วันนะคะ แล้วตอนนั้นพายุใหญ่เข้าทางใต้ เราเลยเปลี่ยนแปลนกระทันหันตั้งแต่วันแรก ที่อยู่ที่ญึ่ปุน เลยหนีไปโตเกียวก่อนแล้วค่อยกลับมาเกียวโต ใน plan นี้ไม่ได้รวมค่าช็ปปิ้งนะคะ รวมๆ ก็ประมาณ แสนนึงคะ



ติดตามน้ำใจลุยญี่ปุ่นได้อีก 10 วันที่เหลือได้ในตอนต่อไปนะคะ มีทั้ง โตเกียว เกียวโต นารา คะ

ชอบจะแนะนนำติชม หรือติดตามนำเที่ยวอื่น และ ทริป ญี่ปุ่นนี้ตอนอื่นๆ อีก 10 วันที่นี้เลยจ้า
http://www.facebook.com/namjaipainai

เนื้อหาโดย: junce
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
junce's profile


โพสท์โดย: junce
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
VOTED: vho, ซาอิ, ข้าวโพดคั่ว, โซจัง ซามูไรขาหื่น, lilu, inoi, Chatchapong, junce
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ผู้บริหารมาม่าไขปริศนา ยอดขายพุ่งเพราะเศรษฐกิจแย่ หรือแค่คิดไปเอง?"แอฟ ทักษอร และ นนกุล คู่รักสุดอบอุ่น รับบทช่างภาพคู่ เฝ้ากองเชียร์ น้องปีใหม่ โชว์ความสามารถบนเวที6 วิธีเติมพลังใจในวันศุกร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับวันหยุดสุดสัปดาห์ทบ.มีคำสั่งให้ พล.ท.ณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ถูกย้ายจากตำแหน่ง หลังเกิดกรณีซ้อมที่รุนแรงดวงรายสัปดาห์ วันที่ 25 พ.ย. - 1 ธ.ค. 2567 by อ.กิ่ง นาคราชบ้านในฝันก็ต้องปล่อย! 'กวินท์-ปุ้มปุ้ย' เปิดใจขายบ้าน 19.5 ล้าน ทั้งที่รักมากดวงประจำสัปดาห์ 25 พ.ย.-1 ธ.ค. 67 by ภูริดา พยากรณ์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
'ไทเลอร์ ติณณภพ' ลูกชาย 'ธานินทร์' ดาวเด่นยุค 80 สู่พระเอกยุคใหม่"วิธีใช้รีโมทแอร์ในโหมดต่าง ๆ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าหมอเหรียญทองกำลังมองหาสถานที่เช่าสำหรับตั้งซูเปอร์คลินิก เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีบัตรทองจากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
ตั้งกระทู้ใหม่