ครบรอบ 63 ปี ปลดระวางประจำการเรือดำน้ำชุด ร.ล.มัจฉาณุ ปิดฉากเรือดำน้ำไทย
"ถ้ากรุงสยามมีเรือดำน้ำ จะเปนเครื่องป้องกันสำคัญมากหรือจะนับว่าเปนเครื่องป้องกันอย่างดีที่สุดก็ว่าได้" - กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ 2 มีนาคม 2462
วันที่ 30 พฤศจิกายน เป็นครบรอบวันสำคัญอีกวันหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของเรือดำน้ำไทย โดยเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2494 กองทัพเรือได้ปลดระวางประจำการเรือดำน้ำชุด ร.ล.มัจฉาณุ จำนวน 4 ลำ ได้แก่ ร.ล.มัจฉาณุ ร.ล.วิรุณ ร.ล.สินสมุทร และ ร.ล.พลายชุมพล นับเป็นการปิดฉากเรือดำน้ำไทยหลังจากประจำการรับใช้ชาติอยู่เป็นเวลาเกือบ 13 ปี
กองทัพเรือได้เริ่มความสนใจในการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการตั้งแต่ปี พ.ศ.2453 ในเอกสารโครงการจัดสร้างกำลังทางเรือ พ.ศ.2453 โดยนายพลเรือตรี พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นายพลเรือตรี พระยาราชวังสรรค์ และนายพลเรือตรี พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร ได้จัดทำขึ้นถวายสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ และได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้กำหนดให้มีเรือ ส. (สับมะรีน หรือเรือดำน้ำ) จำนวน 6 ลำ และต่อมาในปี พ.ศ.2458 นายเรือโท พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ ได้ทรงจัดทำเอกสารรายงานความคิดเห็นเรื่องเรือ ส. ระบุถึงข้อมูลแนวทางการจัดหาเรือดำน้ำ การใช้งาน และสิ่งสนับสนุนต่างๆ โดยละเอียด
จนกระทั่งเป็นเวลาอีก 20 ปีต่อมา ในปี พ.ศ.2478 กองทัพเรือจึงได้เริ่มการจัดหาเรือดำน้ำ โดยได้ตกลงสร้างเรือดำน้ำจำนวน 4 ลำ จากอู่ต่อเรือมิตซูบิชิโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย ร.ล.มัจฉาณุ ร.ล.วิรุณ ร.ล.สินสมุทร และ ร.ล.พลายชุมพล ซึ่งกองทัพเรือได้รับมอบเรือดำน้ำ 2 ลำแรก คือ ร.ล.มัจฉานุ และ ร.ล.วิรุณ เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ.2480 และต่อมากองทัพเรือจึงได้กำหนดให้วันที่ 4 กันยายนของทุกปีเป็น "วันเรือดำน้ำ"
เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ เดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2481 และกองทัพเรือได้ขึ้นระวางประจำการเรือทั้ง 4 ลำ ในวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2481 โดยในระหว่างสงครามอินโดจีน หลังจากยุทธนาวีที่เกาะช้างเมื่อปี พ.ศ.2484 เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ได้ทำการลาดตระเวนบริเวณหน้าฐานทัพเรือเรียมของอินโดจีนฝรั่งเศส สร้างความหวั่นเกรงให้กับฝ่ายฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก ต่อมาในระหว่างสงครามมหาเอเชียบูรพา โรงไฟฟ้าสามเสนและวัดเลียบได้ถูกทิ้งระเบิดจนไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ และกองทัพเรือได้รับการร้องขอให้นำเรือดำน้ำไปทำการจ่ายกระแสไฟฟ้า ทำให้รถรางในกรุงเทพสามารถวิ่งได้ตามปกติ
อย่างไรก็ดี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ทำให้ไม่สามารถสนับสนุนอะไหล่ให้กับเรือดำน้ำทั้ง 4 ลำของไทยได้ นอกจากนี้หลังจากเหตุการณ์กบฎแมนฮัตตัน เมื่อปี 29 มิถุนายน พ.ศ.2494 ทำให้กองทัพเรือถูกปรับลดโครงสร้างและถูกจำกัดงบประมาณเป็นอย่างมาก โดยกระทรวงกลาโหมได้ลงคำสั่งยุบหมวดเรือดำน้ำเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2494 และกองทัพเรือได้ปลดระวางประจำการเรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ในที่สุดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2494 นับเป็นการปิดฉากเรือดำน้ำไทยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ภายหลังจากปลดระวางประจำการ ตัวเรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ได้ถูกขายให้กับบริษัทปูนซีเมนต์ คงเหลือแต่หอบังคับการ อาวุธปืน และกล้องตาเรือ โดยกองทัพเรือได้สร้างสะพานเดินเรือจำลองเพื่อเป็นอนุสรณ์ ณ พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ หน้าโรงเรียนนายเรือ และที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า จังวัดสมุทรปราการ
รายละเอียดของเรือดำน้ำมีดังนี้
กองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัท มิตซูบิชิ ประเทศญี่ปุ่น ต่อเรือดำน้ำ ขนาด 370 ตัน จำนวน 4 ลำ ลำละ 820,000 บาท โดยได้รับ พระราชทานชื่อว่า เรือหลวงมัจฉานุ เรือหลวงวิรุณ เรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพล หลังสงครามมหาเอเชียบูรพา เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำของกองทัพเรือประสบปัญหาขาดแคลนอะไหล่ ทำให้ต้องปลดระวางในปี 2492 รวมเวลาเข้าประจำการได้ 12 ปี นับแต่นั้นมากองทัพเรือไทยก็ยังไม่มีเรือดำน้ำเข้าประการอีกเล
เรือดำน้ำ ทั้งสี่ลำ ประจำในกองทัพเรือไทย เป็นประเภทเรือดำน้ำรักษาฝั่ง ขนาดเล็ก (ระวางขับน้ำต่ำกว่า 500 ตัน) ประกอบขึ้นที่อู่ต่อเรือบริษัทมิตซูบิชิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกันจำนวน 4 ลำ พร้อมกับ เรือหลวงวิรุณ เรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพล เป็นชื่อพระราชทาน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2480
เรือหลวงมัจฉาณุ (HTMS Matchanu) หมายเลขเรือ 1 เป็นชื่อพระราชทาน มาจากชื่อตัวละครในวรรณคดีไทยซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ในการดำน้ำ คือ มัจฉานุ จากเรื่องรามเกียรติ์ มี เรือเอกซุ้ย นพคุณ เป็นผู้บังคับการเรือ วางกระดูกงูเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2479 ปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2479
เรือหลวงวิรุณ (HTMS Wirun) หมายเลขเรือ 2 เป็นชื่อพระราชทาน มาจากชื่อตัวละครในวรรณคดีไทยซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ในการดำน้ำ คือ วิรุณจำบัง จากเรื่องรามเกียรติ์ มี เรือเอก พร เดชดำรง เป็นผู้บังคับการเรือ. วางกระดูกงูเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2479 ปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2479
เรือหลวงสินสมุทร (HTMS Sinsamut) หมายเลขเรือ 3 เป็นชื่อพระราชทาน มาจากชื่อตัวละครในวรรณคดีไทยซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ในการดำน้ำ คือ สินสมุทร จากเรื่องพระอภัยมณี มี เรือเอก สนอง ธนาคม เป็นผู้บังคับการเรือ วางกระดูกงูเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2479 ปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2480
เรือหลวงพลายชุมพล (HTMS Phlai-chumphon) หมายเลขเรือ 4 เป็นชื่อพระราชทานมาจากชื่อตัวละครในวรรณคดีไทยซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ในการดำน้ำ คือ พลายชุมพล จากเรื่องขุนช้างขุนแผน มี เรือเอก สาคร จันทประสิทธิ์ เป็นผู้บังคับการเรือ วางกระดูกงูเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2479 ปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2480
เรือหลวงมัจฉาณุ และเรือหลวงวิรุณ ประกอบแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2480 ทางบริษัทมิตซูบิชิได้จัดพิธีส่งมอบให้เป็นกรรมสิทธิของกองทัพเรือไทย และนำลูกเรือเข้าประจำเรือ
เรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพล ประกอบแล้วเสร็จสมบูรณ์ บริษัทมิตซูบิชิได้ทำพิธีส่งมอบเป็นกรรมสิทธิของกองทัพเรือไทย และนำลูกเรือเข้าประจำเรือ เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2481
เรือดำน้ำของไทยทั้งสี่ลำ เดินทางออกจากเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2481 ถึงกรุงเทพเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เข้าประจำการเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ได้ออกปฏิบัติการในสงครามอินโดจีนกับฝรั่งเศส และสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อครั้งกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส เรือดำน้ำทั้ง 4 ลำ ได้ออกไปลาดตระเวนอยู่หน้าฐานทัพเรือเรียม (กัมพูชา) ใช้เวลาดำอยู่ใต้น้ำทั้งสิ้นลำละ 12 ชั่วโมงขึ้นไป นับเป็นการดำที่นานที่สุด
เรือหลวงมัจฉาณุปลดประจำการเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 พร้อมกันทั้ง 4 ลำ เนื่องจากขาดแคลนชิ้นส่วนอะไหล่ หลังจากญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงครามโลก และไม่ได้รับอนุญาตให้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ และโรงงานแบตเตอรีของไทยที่ตั้งขึ้นก็ไม่สามารถผลิตแบตเตอรีสำหรับใช้ประจำเรือได้ ประกอบกับเหตุการณ์กบฏแมนฮัตตัน เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2494 ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ในกองทัพเรือ มีคำสั่งยุบหมวดเรือดำน้ำ โอนย้ายไปรวมกับหมวดเรือตรวจฝั่งที่ตั้งขึ้นใหม่




สมรรถนะของเรือดำน้ำของราชนาวีไทย
ระวางขับน้ำ
• บนผิวน้ำ 374.50 ตัน
• ขณะดำ 430 ตัน
ความยาว • 51 เมตร
ความกว้าง • 4.10 เมตร
ความสูง • 11.65 เมตร
กินน้ำลึก • 3.60 เมตร
เครื่องยนต์ • เครื่องยนต์ดีเซล 8 สูบ กำลัง 1,100 แรงม้า จำนวน 2 เครื่อง • เครื่องยนต์มอเตอร์ไฟฟ้า 540 แรงม้า (ใช้เดินใต้น้ำ)
ความเร็ว • ผิวน้ำ 15.70 นอต • ใต้น้ำ 8.10 นอต • มัธยัสต์ 10 นอต
รัศมีทำการ 4,770 ไมล์ทะเล (8,830 กิโลเมตร)
กำลังพลประจำการ • ทหารประจำเรือ 33 นาย เป็นนายทหาร 5 นาย พันจ่า จ่า 28 นาย
ระบบอาวุธ • ตอร์ปิโดขนาด 45 ซม. แบบ เอ.เค. เรียงทางตั้งที่หัวเรือ 4 ท่อ • ปินใหญ่ขนาด 8 ซม. 1 กระบอก • ปืนกลลูวิสต่อสู้อากาศยานขนาด 7.7 มม. 1 กระบอก
ที่มา
http://rach1968.blogspot.com/2014/09/blog-post_5.html
http://goo.gl/OyFpRh
http://goo.gl/sc3CBC
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
วิธีป้องกันตะขาบในบ้าน ลดเสี่ยงโดนกัด
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
นิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิต
วิธีป้องกันตะขาบในบ้าน ลดเสี่ยงโดนกัด
เลขเด็ด "แพนแพนพารวย" งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68..สูตรหวยเด็ด รวยก่อนใคร!
ไวรัลอีกครั้ง! “I Promise I Will Comeback” รีรันคืนจอ