ทำไม ข้างๆพีระมิดต้องมีสฟิงซ์ ?
ถ้าใตรเคยไปเที่ยวที่เมืองกีซา ใกล้ๆกรุงไคโร ก็คงต้องตะลึงกับพีระมิด 3 องค์ที่ตระหง่านอยู่บนทะเลทรายนอกกรุงไคโร พีระมิดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานของฟาโรห์แห่งอียิปต์ บริเวณใกล้เคียงจะมีรูปสลักของสฟิงซ์อยู่ใกล้ๆ กับพีระมิดและความลึกลับของสฟิงซ์นี้ก็เป็นสิ่งที่สร้างความฉงนสนเท่ห์ แก่นักโบราณคดีมานานกว่า 5,000 ปี
พีระมิดสร้างขึ้นเพื่อเป็น สุสานของฟาโรห์ แล้วรูปสลักสฟิงซ์ล่ะมีไว้เพื่ออะไร?
สฟิงซ์คือ รูปสลักจากภูเขาหินที่มีหัวและหน้าอกเป็นผู้ชายและมีลำตัวเป็นสิงโต เชื่อกันว่าเป็นสิ่งซึ่งจะป้องกันวิญญาณและความชั่วร้ายที่อยู่รอบๆพีระมิดได้ สฟิงซ์ที่ใหญ่ที่สุดคือ สฟิงซ์ในเมืองกิซา ซึ่งมีขนาดความยาว 70 เมตร และสูง 20 เมตร
เชื่อกันว่าสร้างขึ้นเมื่อ 5,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ใบหน้าเป็นพระพักตร์จำลองของกษัตริย์เชฟเรน (Chephren) ในราชวงศ์อียิปต์ที่ 4 นอกจากสฟิซ์ใหญ่ในเมืองกิซาแล้ว ยังมีสฟิงซ์อีกมากมาย ในประเทศอียิปต์ที่เป็นรูปหน้าของกษัตริย์องค์ต่างๆ ของอียิปต์ เพราะชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่ากษัตริย์เป็นทายาของเทพเจ้า ซึ่งเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ เมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์ก็ต้องการกลับไปเป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์อีกครั้ง และเชื่อว่าจะกลับไปมีพลังอำนาจเช่นสิงโต ดังนั้นรูปสลักจึงมีลักษณะเป็นครึ่งคนครึ่งสิงโต
มีสฟิงซ์อยู่แห่งหนึ่งที่มีรูปหน้าเป็นผู้หญิง ซึ่งสร้างขึ้นให้กับราชินีฮัตเชปซุตที่เคยครองบัลลังก์และปกครองอียิปต์ แต่รูปสลักนั้นสลักให้มีเคราด้วย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งเยี่ยงชายของพระนาง
Sphinx of Hatshepsut