มิยะโมะโตะ มุซะชิ ตำนานแห่งสุดยอดซามูไร

     สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมได้อ่านเรื่องราวของนักรบในสมัยอดีต (ยุคที่ยังไม่มีปืน สู้กันด้วยดาบ) ซึ่งขอบอกก่อนเลยว่าสนุกมากๆครับประวัติศาสตร์ของการสู้รบต่างๆและนักสู้แต่ละคนก็จะมีวิชาประจำตัว แต่ละวิชาก็จะมีชื่อเรียกเท่ๆ ให้ได้เรียกกัน (อย่างกับการ์ตูนญี่ปุ่น บังไค อะไรประมาณนี้แหละครับ ฮ่าๆ) แต่ผมก็ต้องมาสะดุดกับนักสู้คนหนึ่ง เขาคนนี้มีนามว่า มิยะโมะโตะ มูซะชิ หรือก็คือ ซามูไรไร้พ่าย ซามูไรดาบคู่ ผู้ไม่เคยแพ้ให้กับใคร ซึ่งตัวเขานั้นไม่ได้มีแค่ฝีมือในการต่อสู้ที่เยี่ยมยอดเท่านั้นนะครับ แต่เขายังมีความรู้ทางด้าน ยุทศาสตร์ ศิลปะการวาดรูป การทำสมาธิ และศาสนา ด้วยหล่ะครับ ซึ่งถือว่าเป็นนักสู้ที่ครบเครื่องจริงๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเข้าสู่เรื่องราวที่แท้จริงเกี่ยวกับสุดยอดนักสู้ท่านนี้กันเลยดีกว่าครับ ฮึบๆ

     มิยะโมะโตะ มุซะชิ  เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2127 ที่เมืองฮะริมะ เป็นซามูไร ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากคนหนึ่ง ว่ากันว่าเขาไม่เคยดวลแพ้ใครโดยการดวลที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาคือการดวลกับ ซะซะกิ โคะจิโร(คนนี้ก็ถือว่าเป็นสุดยอดซามูไรไร้พ่ายอีกหนึ่งคน แต่ก็ต้องจบชีวิตด้วยน้ำมือของ มุซะชิ อยู่ดีครับผม)

     มูซาชิ ซามูไรดาบคู่ ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงๆ มีชีวิตอยู่ในราว ค.ศ. 1584-1645 จากประวัติการต่อสู้กว่า 60 ครั้ง ไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียวนั่นไม่ใช่โชคช่วยแต่เป็นเพราะฝึกฝนมาอย่างดีทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะการฝึกจิตเพื่อเอาชนะศัตรูภายในตนเองจนกระทั่ง สามารถทำให้จิตใจสงบนิ่งได้แม้จะอยู่ในสถาณการไหนก็ตาม ซึ่งเป็นขอ้ได้เปรียบอย่างมากในการต่อสู้แบบ1-1

     มูซาชิยังเป็นคนเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า คัมภีร์ห้าห่วง ถือได้ว่าเป็นหนังสือสุดยอดกลยุทธ์การรบ ที่ทั่วโลกยอมรับว่า เป็นผลงานอัจฉริยะ มูซาชิ มิได้มีแค่ชัยชนะในสมรภูมิเท่านั้น หากเป็นทั้งการแสวงหาทางด้านจิตวิญญาณ-ความหมายแห่งชีวิตและความเป็นเลิศในเชิงดาบไปพร้อม ๆ กัน

พบพระทากุอัน

     แต่ในวัยเด็กของมูซาชินั้นช่างแตกต่างจากตอนโตมากจริงๆ เขาไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่พ่อของเขาก็เป็นซามูไร แต่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก จึงทำให้เขามีนิสัยมุทะลุดุดันชอบเอาชนะ สามารถเอาชีวิตแลกกับเป้าหมายได้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่พอมูซาชิได้พบพระนิกายเซนรูปหนึ่งมีนามว่า ทากุอัน ซึ่งก็ได้เทศนาและสอนคำสอนต่างๆให้มูซาชิ จึงทำให้มูซาชิเห็นหนทางที่แท้จริง จึงเลิกนิสัยมุทะลุดุดัน แต่เปลี่ยนเป็น อ่อนโยน มีสติ และมีคุณธรรมมากขึ้น

รูปที่มูซาชิวาด

     และอย่างที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า มูซาชิไม่ได้เก่งแค่เพลงดาบ แต่ยังสามารถแต่งกลอน เขียนหนังสือ วาดรูป แกะสลัก และทำอะไรละเอียดละอ่อนได้อีกมากมาย ซึ่งถือว่าสุดยอดจริงๆ เพราะมูซาชิเชื่อว่าการทำแบบนี้จะทำให้คนเราอ่อนโยน มีสมาธิและนิ่งมากขึ้น

     และแม้ในยามที่มูซาชิจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่น แต่มูซาชิก็ใช้ชีวิตแตกต่างจากซามูไรท่านอื่นอยู่มากก็คือ กินอยู่แบบเรียบง่าย เป็นนักดาบไร้สังกัด ไม่แก่งแย่งตำแหน่งกับผู้ใด และชอบช่วยเหลือคนลำบาก จึงทำให้เป็นที่รักของคนในหมู่บ้านและผู้พบเห็นเสมอ

     และมาถึงตอนสำคัญที่ทำให้มูซาชิมีชื่อเลื่องลือและเป็นตำนานอย่างแท้จริง ก็คือตอนที่มูซาชิต้องดวลดาบกับซาซากิ โคยิโร่ ซึ่งเป็นซามูไรที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกคนหนึ่ง และมีฐานะเป็นทั้งเจ้าสำนักและอัศวินชั้นสูง ทั้งสองจะต้องประลองฝีมือกันโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันต่อหน้าบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ซึ่งมานั่งดูเป็นสักขีพยานสถานที่นัดพบครั้งนั้นอยู่บนเกาะเล็ก ๆ

     ขณะที่ผู้คนจากทั่วสารทิศได้หลั่งไหลกันมาดูการดวลกันของสองสุดยอดซามูไรด้วยความตื่นเต้น มูซาชิกลับใช้เวลาก่อนดวลนั่งวาดรูปแบบชิวๆ จากนั้นก็ขึ้นเรือไปสู่จุดนัดหมาย และใช้เวลาบนเรือถากพายหักด้ามหนึ่งเพื่อใช้เป็นอาวุธ ปะทะกันได้ไม่ถึงอึดใจ เขาก็ใช้ดาบไม้นั้นสังหารคู่ต่อสู้ลงไปและในขณะที่ทุกคนยังไม่หายตื่นเต้นกับฉากดวลระหว่างนักดาบชั้นครู มูซาชิก็โดดกลับลงเรืออย่างเงียบ ๆ ไม่มีท่าทีแยแสกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งปวง (ให้คิดภาพตอนที่พระเอกฆ่าผู้ร้ายแล้วระเบิดรังของแก๊งดูนะครับ)

มิยะโมะโตะ มุซะชิ เสียชีวิตอย่างสงบในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2188 ในเมืองฮิโกะ ด้วยวัย 61 ปี