ข้อคิดที่ผมได้จาก ตัวมอม สัตว์ในตำนาน เทพเจ้าแห่งฝนในคติล้านนา
วันนี้นำภาพที่ถ่ายเจ้าตัวมอมจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่ มาให้ดู หลายคนเคยเห็นเเต่อาจไม่ทราบประวัติจึงนำมาเล่าให้ฟังกันครับ
ตัวมอม เป็นสัตว์ในตำนาน เป็นพาหนะของเทพปัชชุนนะเทวบุตร ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งฝนในคติล้านนา ตัวมอมมีรูปร่างคล้ายแมวผสมสิงโต ดังนั้นบุคลิกของมอม จึงดูเหมือนจะน่ากลัวแต่บางครั้งก็ดูขี้เล่น แต่สล่าหรือช่างปั้นบางท่านก็ปั้นมอม ดูคล้ายตุ๊กแก บางกิริยากระเดียดไปทางค่างก็มี การปั้นได้ความรู้มาจากช่างจีน จึงมีลีลาของจีนผสม กลายเป็นเอกลักษณ์ของล้านนา
ส่วนในศิลปะลาวและอีสานนั้น เชื่อว่า มอมเป็นสิงห์จำพวกหนึ่ง ช่างนิยมปั้นให้มีลักษณะคล้ายสิงห์ลำตัวยาวประดับราวบันได หรือปั้นคล้ายสุนัขขนาดใหญ่มีแผงคอและแผงหลัง และชาวอีสานถือว่ามอมเป็นสัตว์มงคลที่ปรากฏอยู่ในลายสักร่างกายของคนสมัยโบราณด้วย
ล้านนามีวัฒนธรรม ทั้งฮินดู พุทธ ที่กล่าวถึง ป่าหิมพานต์ เชิงเขาพระสุเมรุ ที่เป็นศูนย์กลางจักรวาล มีสัตว์ลูกครึ่ง คนกับเทพ คนกับสัตว์ สัตว์กับเทวดา สัตว์กับสัตว์ เช่น กินรี เงือก คนครึ่งม้า ตัวมอม คนมีคาถาอาคม เช่น คนธรรพ นักสิทธิ์ ทั้งหมดมีฤทธิ์เหนือมนุษย์ แต่อยู่ในสวรรค์ไม่ได้
จึงมีการแสดงว่ามอมเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์และอาคมเหนือมนุษย์แต่ไม่สามารถอยู่ในบรรลุได้ ได้เพียงเป็นปฎิมากรรมเฝ้าศาสนสถาน ทั้งเหราคาบนาคห้าหัว มีความหมายทางนามธรรมถึงอุปาทาน คือความยึดติด ในสิ่งที่คิดว่าเป็นเรา ไม่ว่าร่างกาย ความรู้สึก ความรู้ความจำ ความคิดที่ปรุงแต่งทั้งจินตนาการและเหตุผลหากยึดโดยขาดสติดูเราก็ทุกข์
ฉะนั้น คนที่กิเลสมาก อาจไม่เข้าถึงดินแดนแห่งความสุขคือไม่อาจอยู่ในสวรรค์ ได้แค่โชว์อยู่ตามประตูสวรรค์เท่านั้นครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=690434804369503&set=a.104003516345971.8644.100002089698321&type=1&theater