พาไปชม รูปภาพปริศนาน่าฉงน และ ขนลุก 20 อันดับของโลก
เริ่มต้นกันที่....อันดับที่ 20
ปั้งไฟพญานาค ประเทศไทย-ลาว
บั้งไฟพญานาค หรือชื่อที่เรียกกันในก่อนปี พ.ศ. 2529 ว่า บั้งไฟผี เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกลางแม่น้ำโขง เห็นได้จากทั้งฝั่งไทยและลาว ลักษณะเป็นลูกกลมเรืองแสงลอยขึ้นจากน้ำขึ้นไปในอากาศ จำนวนลูกไฟมีรายงานระหว่างหลายสิบถึงหลายพันลูกต่อคืนบั้งไฟพญานาคเกิดช่วงวันออกพรรษาของแต่ละปี บั้งไฟพญานาคยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้แน่ชัด แต่มีคำอธิบายสามแนวทาง คือ เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติตามตำนาน เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ และเป็นการกระทำของมนุษย์
อันดับที่ 19
ผีเฟร็ดดี้แจ็คสัน
ภาพถูกถ่ายในปี 1919 โดยเป็นภาพกลุ่มทหารเรือ ที่น่าขนลุกคือได้ปรากฏชายที่ชื่อ เฟรดดี้ แจ็คสัน มาโผล่ด้านหลังชายคนหนึ่งในรูป โดยที่เขาเพิ่งถูกฆ่าตายไปก่อนที่จะมีการบันทึกรูปใบนี้....
อันดับที่ 18
สัตว์ประหลาดล๊อดเนส
ภาพถ่ายที่มีชื่อเสียงที่สุดของเนสซี โดยโรเบิร์ต เคนเนท วิลสัน ศัลยแพทย์ชาวอังกฤษ ในวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 1934 โดยภาพนี้มีชื่อว่า "ภาพของศัลยแพทย์" (The Surgeon's Photo) ซึ่งมีผู้วิเคราะห์ว่าอาจเป็นแค่หางของนากที่กำลังดำน้ำ ซึ่งรูปนี้ได้รับการเปิดเผยในปี ค.ศ. 1998 จากคริสเตียน สเปอร์ลิง ชายวัย 90 ปี ว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างภาพนี้ ที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่หุ่นจำลองที่ติดกับเรือดำน้ำเด็กเล่น
อันดับที่ 17
ผีที่หอคอยแห่งลอนดอน
รูปนี้เกิดขึ้นที่ประตูแฮมป์ตันคอร์ทพาเลซในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอนโดยภาพนี้ติดอยู่บนโทรทัศน์วงจรปิดในวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2003 เชื่อว่าน่าจะเป็นวิญาณของผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งเคยถูกกักขังหรือถูกประหารในหอคอยแห่งลอนดอนแห่งนี้ในช่วง ศษตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา...
อันดับที่ 16
ผีในโบสถ์
รูปนี้ถ่ายโดยนาย K.F.Lord ในคริสตจักรยอร์กเชียร์ ปี 1963 แต่ภายหลังมีผู้สังเกตว่า มันน่าจะเป็นรูปถ่ายที่ถูกทำขึ้นมา เพราะรูปหน้าของผีมันดูโดดเด่นเกินไป
อันดับที่ 15
ลำแสงลึกลับบนดาวอังคาร
แสงลึกลับบนดาวอังคารซึ่งถูกถ่ายได้โดยนาซ่าได้สร้างปรากฏการณ์ตื่นเต้นแก่ผู้คนบนนิตรสาร พีเพิล ในวันที่ 8 เมษายน 2014 ซึ่งในรูปปรากฏแสงคล้ายเลเซอร์ยิงขึ้นมาจากพื้นผิวดาวอังคาร หลายคนเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นผู้ทำ แต่ก็มีผู้แย้งว่าน่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมากกว่า
อันดับที่ 14
เหตุเกิดที่หุบเขาฟอลคอน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณหุบเขาฟอลคอน ประเทศแคนาดาในวันที่ 20 พฤษภาคม 1967 โดยนายสเตฟาน มิชาลัค เขาได้อ้างว่าพบเห็นวัตถุลึกลับรูปซิการ์ได้ร่อนลงในบริเวณสวนของเขา เมื่อเขาเข้าไปใกล้ก็เห็นประตูมันเปิดออก หลังจากที่เขาพยายามที่จะทำให้การติดต่อในภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ แต่ก็ไม่มีการตอบสนอง เขาอ้างว่ามีการเผาไหม้มือของเขาในขณะที่พยายามที่จะเข้าไปใกล้ๆ ทั้งนี้ยังพบรอยไหม้รูปตารางที่เผาไหม้บนตัวของเขา
อันดับที่ 13
มาดอนน่า นักบุญจิโอวานนิโน่ และ จานผี
ภาพวาดนี้เรียกว่า "มาดอนน่ากับนักบุญจิโอวานนิโน่" มันถูกวาดในศตวรรษที่ 15 โดยโดเมนิโก้ เจอลานดิโอ (1449-1494) ด้านบนไหล่ขวาของแมรี่ปรากฏรูปคล้ายวัตุทรงกลมลอยอยู่บนฟ้า และมีรูปคนกำลังเงยหน้าขึ้นไปมองมัน หลายคนคาดว่าน่าจะเป็น จานบินยูเอฟโอ
อันดับที่ 12
ลิงยักษ์
ในปี 2000 รูปนี้ถูกถ่ายโดยผู้หญิงที่ไม่ระบุชื่อและจัดส่งไปให้กรมนายอำเภอ ซาราโซตาเคาน์ตี้ รัฐฟลอริดา โดยรูปถ่ายที่ได้รับมาพร้อมกับจดหมายจากหญิงที่เธออ้างว่าได้ถ่ายภาพลิงในสนามหลังบ้านของเธอ ผู้หญิงที่เขียนว่าเมื่อสามคืนที่แล้ว ได้มีลิงบุกรุกเข้าสนามหลังบ้านของเธอเธอจึงรีบถ่ายรูปเอาไว้ เธอเชื่อว่าลิงเป็นลิงอุรังอุตัง แต่หลายๆคนกลับเชื่อว่ามันคือ สัตว์ประหลาดนามว่า บิ้กฟุต ในตำนาน...
อันดับที่ 11
ผู้หญิงปริศนาในตึก 9/11
ในทั้งสองรูปถ่ายของช่องโหว่ที่เกิดจากเครื่องบินชนหอคอยใต้ของ WTC ในเหตุการณ์ 9/11 คุณจะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนขอบของหลุมกำลังโบกมือ ชื่อของเธอคือ เอ็ดน่า คลินตัน และความลึกลับก็คือ หลายคนบอกว่าภาพเหล่านี้เป็นสิ่งบ่งบอกว่าเธอเป็นผู้รอดชีวิตแต่มีข้อน่าสงสัยว่า ในสภาวะแบบนั้นเธอรอดมาได้อย่างไร...
ที่ อันดับที่ 10
เลดี้ปริศนาในวันลอบสังหาร
ระหว่างที่มีการวิเคราะห์วีดีโอเหตุการณ์ลอบสังหารจอห์น เอฟ เคนนาดี ในปี 1963 ก็เกิดเรื่องน่าสนใจและเรื่องลึกลับขึ้น เมื่อมีภาพหนึ่งจับภาพฝูงคนที่อยู่ใกล้ๆ รถที่เคนนาดี้โดนยิง มีผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อกันหนาวและผ้าพันคอสีน้ำตาลชมพูอยู่บนหัวของเธอ (ผ้าพันคอกลายเป็นสาเหตุเรียกชื่อเธอ ซึ่งการการใช้ผ้าคลุมคลุมที่หัวจะเหมือนการแต่งกายของหญิงรัสเซีย grandmothers เรียก ว่า babushkas) ซึ่งลักษณะท่าทางของเธอเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจับกล้อง(หรือวีดีโอ)บันทึกภาพ เหตุการณ์ที่จอห์น เอฟ เคนนาดี้โ ดนยิงที่หัวแบบจะๆ และคาดว่าภาพที่เธอจับนั้นจะเป็นภาพวินาทีสังหารเคนนาดี้ที่ชัดมากกว่าของใคร ทั้งหมด แต่แล้วเธอก็หายตัวไปอย่างลึกลับท่ามกลางฝูงชนที่หนีออกจากสถานที่เกิดเหตุ มีพยายบอกว่าเธอหนีไปทางตะวันออก พวกผู้เกี่ยวข้องและ FBI พยายามสืบและตามหาตัวเธอเพื่อขอหลักฐานนี้มาประกอบคดี หากจนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครพบตัวเธอเลย และหลักฐานที่เธอได้นั้นไม่รู้ว่าจะสำคัญพอที่จะพลิกคดีจนเขย่าโลกได้หรือ ไม่?
ทำไมหญิงคนนี้ถึงไม่ปรากฏตัว? ทำไมเธอถึงไม่มอบหลักฐานนี้ให้ทางการ? มีข้อสันนิษฐานว่าเธออาจถูกเก็บโดยผู้สมคบคิดเพราะเธอมีหลักฐานพลิกโลก ในปี 1970 มีคนอ้างว่าเป็นเลดี้ Babushka ที่ชื่อ Lolita Davidovich หากแต่ต่อมาเธอก็รับสารภาพว่าโกหก จนบัดนี้ปริศนานี้ก็ไม่ได้ไขแต่อย่างใด.....
อันดับที่ 9
นักท่องกาลเวลา
รูปนี้ถ่ายได้ในปี 1941 โดยเป็นภาพเหตุการณ์ที่ได้ถ่ายหลังตอนที่มีการรายงานน้ำท่วมสะพาน South Folk ในประเทศแคนาดา ในภาพปรากฏชายด้านขวาที่ถือกล้องถ่ายรูปซึ่งดูทันสมัยมาก (อาจเป็นกล้องในยุคปัจจุบัน) ซึ่งต่างกับชายอีกคนในด้านซ้ายที่ถือกล้องธรรมดาในสมัยนั้น เชื่อว่า ชายคนที่ถือกล้องทันสมัยอาจจะมาจากเวลาอนาคต ซึ่งนอกจากนี้ยังมีภาพอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น หญิงที่ใช้มือถือ ในยุคที่ยังไม่มีมือถือในหนัง ชาร์ลี แชปปลิ้น เป็นต้น
อันดับที่ 8
ลำแสงลึกลับแห่งเฮสดาเลน
หุบเขาเฮสดาเลนแห่งนี้อยู่ในนอร์เวย์ มีความยาวประมาณ 12 กิโลเมตรมีประชากรอยู่น้อยมาก จนเมื่อกระทั่งช่วงปี 1980 ได้ปรากฏเหตุการณ์ประหลาด คือ มีแสงสว่างวาปคล้ายลูกไฟเกิดขึ้นบริเวณเหนือหุบเขาโดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง โดยที่เกิดถี่มากประมาณ สัปดาห์ละ 20 ครั้งจนทำให้มีผู้คนที่รู้ข่าวต่างก็เดินทางมาชมปรากฏการณ์ประหลาดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่หลังจากนั้นมันก็เริ่มปรากฏน้อยลงเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันมันก็ยังเกิดขึ้นอยู่
อันดับที่ 7
การปะทะกันที่ แอล.เอ
ภาพที่ตีพิมพ์ใน Los Angeles Times เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 1942 ได้รับการอ้างถึงโดยนักวิเคราะห์ว่ามันคือรูปที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด พวกเขายืนยันว่าภาพที่เห็นได้อย่างชัดเจนนั้น เผยให้เห็นถึงลำแสงตรวจการณ์ที่กำลังถูกส่องมุ่งเน้นไปที่ยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวลำหนึ่งกลางอากาศ แต่ภาพได้มีการปรับเปลี่ยนอย่างมากจากการตกแต่งภาพก่อนที่จะมีการเผยแพร่การออกมา เหตุผลก็เพื่อปรับความคมชัดของรูปขาวดำ นักเขียนลาร์รีแห่ง Los Angeles Times ตั้งข้อสังเกตว่าภาพน่าจะเป็นภาพหลอกลวงที่ทำขึ้นมา หลังจากนั้นภาพนี้ก้ถูกเสนอให้เป็นภาพบันทึกทางประวัติศาสตร์ภาพหนึ่งบนหน้าหนังสือพิมพ์
อันดับที่ 6
นิ้วโป้งปริศนา
ในรูปคือ เด็กชายสี่คนกำลังแอ็คท่าถ่ายรูป แต่สิ่งหนึ่งซึ่งดูผิดปรกติในรูปนี้คือ ระหว่างเด็กชายสองคนด้านขวามือ ปรากฏมีมือปริศนากำลังยกนิ้วหัวแม่มือออกมาตรงนั้น โดยที่ทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ในขณะที่ถ่ายรูป มีเพียงพวกเขาทั้งสี่คนเพียงเท่านั้น บรื้อ
อันดับที่ 5
นักบินอวกาศแห่งโซล่าเฟิร์ธ
ภาพที่ถ่ายในปี 1964 โดยฝีมือของจิม เทอป์เพลตันที่ถ่ายลูกสาวห้าขวบของเขาในพื้นที่บะระห์ ซึ่งมองเห็นโซลเวย์เฟิร์ธ คัมเบอร์แลนด์ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างสก็อตและอังกฤษโดยเขาถ่ายรูปสาวของเขาสามใบในลักษณะนั่งบนพื้นหญ้า และเมื่อภาพออกมาเขาก็ตกใจเมื่อภาพมีสิ่งแปลกปลอมอะไรบางอย่างเหมือนนักบินอวกาศตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหลังศีรษะลูกสาวของเขา โดยนักบินอวกาศสวมชุดสีขาวแล้วหมวกแปลกๆ เหมือนหมวกกันน็อกอยู่บนหัว ทั้งที่เขายืนยันว่าตอนที่ถ่ายรูปดังกล่าวบริเวณโดยรอบไม่มีคนอื่นอยู่ใกล้เลย....
เมื่อภาพถ่ายถูกเผยแพร่ปรากฏว่ารัฐบาลที่มีอำนาจสูงสุดของประเทศพยายามขอร้องจิมว่ารูปถ่ายนี้เป็นของปลอมหากแต่เขาปฏิเสธ และภาพดังกล่าวได้ให้นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญการถ่ายภาพมาปรากฏว่ามันเป็นภาพถ่ายมนุษย์ต่างดาวของจริง ปัจจุบันภาพดังกล่าวยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นของจริงหรือปลอมและเป็นภาพถ่ายมนุษย์ต่างดาวที่ดีที่สุดในเวลานี้เลยทีเดียว....
อันดับที่ 4
ดวงไฟแห่งฟินิกซ์
ดวงไฟฟินิกซ์ ถือว่าเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับยูเอฟโอที่มีชื่อเสียงมาก เนื่องจากมีพยานมากมายพบเห็นยูเอฟโอพร้อม ๆ กัน และมีการถ่ายวีดีโอเทปจำนวนมาก แถมยังปรากฏในสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นด้วยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในช่วยใกล้ค่ำของวันที่ 13 มีนาคม 1997 เมื่อมีพยานหลายพันคนเห็นวัตถุประหลาดลึกลับบินได้ ขนาดใหญ่พอ ๆ กับเครื่องบินโบอิ้ง 747 ลอยอยู่เหนือท้องฟ้าในเมือง มีรูปร่างคล้ายตัววี(V) มีดวงไฟสีแดงหรือสีส้ม 5 ดวง ส่องสว่างอยู่ใต้ยาน มันบินอย่างช้า ๆ เงียบเชียบ ผ่านหลายเมืองในรัฐอาริโซน่า สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะหายไปที่เมืองฟินิกซ์ ซึ่งเป็นจุดที่เป็นพื้นที่กองทัพอากาศ รวมระยะเวลาปรากฏยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง (ตั้งแต่ 19.30 น. ถึง 22.30 น.)
หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้คนมากมายสอบถามเรื่องราวดัวกล่าวทางสื่อทุกแขนง ซึ่งทางฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาแถลงการณ์กล่าวอ้างว่า วัตถุลึกลับพร้อมกับแสงสีอำพันซึ่งลอยอยู่บนท้องฟ้าดังกล่าวนั้นเป็นเพียงเครื่องบินรบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมการบินของกองทัพเท่านั้น
แน่นอนนอนว่าประชาชนรวมถึงนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่เชื่อ ด้วยลักษณะการปรากฏตัว รูปร่าง การบิน และเหตุผลอื่น ๆ ที่ขัดกับธรรมชาติของยานพาหนะบนโลก แต่กระนั้นก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้คืออะไร และยังคงเป็นที่ถกเถียงกันสืบมา......
อันดับที่ 3
คดีฆาตรกรรมสยองของเมือง Hinterkaifeck
ในวันที่ 22 มีนาคม 1922 ได้เกิดการฆาตกรรมหกศพในเมือง Hinterkaifeck ของประเทศเยอรมัน มันคือคดีที่แปลกอย่างไม่น่าเชื่อและยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ กว่า 100 คนที่ถูกสัมภาษณ์ในคดีฆาตกรรม แต่ไม่มีใครเคยถูกจับกุมในข้อหา ไม่มีใครที่แสดงออกถึงแรงจูงใจในการยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือ ซึ่งก่อนที่จะเกิดคดี 6 เดือนก่อนหน้านี้มีแม่บ้านที่บ้านหลังเกิดเหตุได้หนีออกไปโดยบอกว่าบ้านถูกผีสิง ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดการฆาตกรรม....
มีความเชื่อกันว่าคนร้ายยังคงอยู่ที่ฟาร์มหลายวัน แถมยังคงดูแลวัวให้ และรับประทานอาหารในห้องครัวอย่างใจเย็น เพราะมีพยานที่เป็นเพื่อนบ้านเห็นควันจากปล่องไฟในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทุกคนถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมด้วยของมีคม คาดว่าน่าจะเป็นจอบ หรือเสียม ศพบางรายถูกหั่นเป็นชิ้นๆ แต่นำไปวางเรียงกันอย่างสวยงามที่พื้นอย่างน่าสยดสยอง ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าหนึ่งในเหยื่อที่ฆาตรกรได้ฆ่าเขาแล้วนำมาวางไว้ในโรงนา ก่อนที่เขาก็เดินเข้าไปในบ้านแล้วใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกกว่านานนับสัปดาห์.....
อันดับที่ 2
ร่างที่ห้อยหัว
ในขณะที่ครอบครัวคูเปอร์กำลังย้ายบ้านใหม่เข้าไปในรัฐเท็กซัส มีภาพๆหนึ่งได้ถูกบันทึกเอาไว้ในขณะที่พวกเขากำลังนั่งรวมกลุ่มกันเพื่อเก็บภาพบรรยากาศดีๆเอาไว้ ก็ปรากฏในรูปๆหนึ่งที่มุมซ้าย กลับพบว่ามีร่างลึกลับกำลังห้อยหัวลงมาจากเพดานติดเข้ามาในรูป โดยที่ในขณะที่ถ่ายรูปนี้มีเพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่นั่งอยู่ที่ตรงนั้น บรื้อ!!!!!!!!!
ปล. สำหรับท่านที่สนใจเกี่ยวกับภาพนี้เป็นพิเศษ ให้ใช้ คีย์เวิร์ด "Falling body Photo" เซิสหาอ่านได้ใน Google เองนะครับ ผมขอผ่านก่อน หุหุ
และมาถึง อันดับที่ 1................
แบล็กไนท์ ดาวเทียมลี้ลับแห่งห้วงจักรวาล
ในปีค.ศ. 1957 องค์การอวกาศสหภาพโซเวียตส่งดาวเทียวดวงแรกของมวลมนุษยชาติ Sputnik1 ขึ้นโคจรรอบโลกเป็นครั้งเเรกโดยสิ่งที่พบคือมีวัตถุที่โคจรรอบโลกอยู่ก่อนแล้ว!
เรื่องราวลึกลับนี้เกิดขึ้นในยุคบุกเบิกอวกาศที่ทั้งโซเวียตและสหรัฐแข่งขันกันเรื่องลึกลับนี้มีชื่อเรียกว่า "Black Knight Satellite" หรือแปลเป็นไทยคือ"ดาวเทียมอัศวินดำ"มีบันทึกการพบเจอวัตถุลึกลับนี้มากมายแต่ที่น่าเชื่อถือเเละโด่งดังที่สุดเกิดขึ้น3ครั้ง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.1899 Nicolas Tesla หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์เอกของโลกผู้ค้นพบไฟฟ้ากระเเสสลับ สามารถจับสัญญาณประหลาดที่ไม่สามารถระบุได้ โดยทั้งชีวิตของเค้าเชื่อว่าเป็นการส่งสัญญาณของสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาสูงจากต่างดาวนี่เป็นครั้งเเรกที่มีการบันทึกการเจอเจ้าสิ่งนี้
จากนั้นในปี ค.ศ.1957 ที่องค์การอวกาศของโซเวียตได้ส่งดาวเทียม Sputnik1 ขึ้นสู่วงโคจรได้มีจับสัญญาณของวัตถุประหลาดได้เเละส่งกลับมายังสถานีอวกาศที่โลกพบว่าเป็นสัญญาณรูปแบบเดียวกับของ Tesla ที่พบในปี ค.ศ.1899 เหตุการณ์ช็อคโลกที่ชัดเจนที่สุดในการพบเจอวัตถุประหลาดที่เรียกว่า Black Knight Satellite เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1998 ปฎิบัติการณ์ STS-88 ของ NASA สามารถจับภาพวัตถุประหลาดได้ระหว่างปฎิบัติการณ์บนดาวเทียมในขณะที่โคจรอยู่เเถบขั้วโลกพร้อมส่งสัญญาณลักษณะเดียวกันอีกครั้งเป็นวัตถุลักษณะเหลี่ยมไม่เหมือน UFO
หลังจากนั้นนักดาราศาสตร์ชื่อดังชาวอังกฤษ Duncan Lunan สามารถถอดหรัสข้อความที่วัตถุประหลาดส่งออกมาโดยเขาบอกว่าเป็นเเผนกราฟที่ตั้งของกลุ่มดาวนายพราน จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าวัตถุดังกล่าวคืออะไรมาจากที่ไหนเเละพยายามสื่อสารอะไรให้พวกเรากันแน่!!!!
โห.... โลกใบนี้มันช่างน่าฉงนดีแท้ๆๆๆ!!