จักพรรดิ์ราชวงศ์ต้าชิง (แมนจู )
จักพรรดิ์ราชวงศ์ต้าชิง (แมนจู )
ฮ่องเต้ ราชวงศ์ชิง พ.ศ. 2187-2454 (ค.ศ. 1644-1911) รวม 267 ปี
แผนที่ยุคราชวงศ์ชิง
ราชวงศ์ชิง ก่อตั้งโดยชาวแมนจู บางทีจึงอาจจะได้ยินคนเรียกว่า ราชวงศ์แมนจู คำว่าชิง เป็นคำของแมนจูครับ เรียกว่า อาณาจักรต้าชิง แต่ภาษาจีน เรียก ราชวงศ์ เชง : 大清帝國
ชาวแมนจูเดิมเป็น กลุ่มเร่ร่อนทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ต่อมาเมื่อราชวงศ์หมิง ของชาวฮั่นอ่อนแอ เกิดจลาจล และกลุ่มกบฏชาวนา ชาวแมนจูถือโอกาสรวบรวมกำลังพล โดยผู้นำตระกูลอ้ายซินเจวี๋ยโหล เข้าบุกปักกิ่ง
เริ่มแรกในพุทธสตวรรษที่ 22 นูรฮาชี เป็นขุนนางของ ราชวงศ์หมิง ครองดินแดนทางตะวันออกฉียงเหนือ และตั้งตนเป็น จักรพรรดิไท่จู และตั้งรัฐแมนจูขึ้นใน พ.ศ. 2152 สถาปนาเมือง เสิ่นหยาง เป็นเมืองหลวง
ผู้สืบต่อจาก จักรพรรดิไท่จู คือ หวงไท่จี๋ หรือจักรพรรดิไท่จง เมื่อลิงตันข่าน ข่านองค์สุดท้ายของมองโกลสิ้น ในปี 2177 บุตรของเขาได้มาสวามิภักดิ์กับกองทัพแมนจู ในปี 2179 จักรพรรดิไทจ่ง ก็เปลี่ยนชื่อรัฐเป็น อาณาจักรต้าชิง (แปลว่า บริสุทธิ์ ) และ ขยายอาณาเขตออกไป สามารถชนะ มองโกเลีย และเกาหลี และครอบครองพื้นที่ลุ่มแม่น้ำอาร์มู หรือมณฑลเฮยหลงเจียงในปัจจุบัน
เมื่อราชวงศ์หมิงอ่อนแอ หลี่จื้อเฉิง (กบฏชาวนา ) เข้าตีเมืองปักกิ่ง จนเหลือแค่ฐานที่มั่นของอู่ชานกุ๊ย เมื่อจวนตัว อู๋ซานกุ๊ยเลือกที่จะสวามิภักดิ์กับฝ่ายแมนจู ซึ่งเป็นยุค จักรพรรดิ ซุ่นจื้อ (ขณะนั้นอายุ 6 ชันษา ) เมื่อปี 2187 บางตำราก็ถือเอา จักรพรรดิซ่นจื้อ เป็นปฐมราชวงศ์ชิง เนื่องจากได้ประทับในวังต้องห้ามที่กรุงปักกิ่ง และ ราชวงศ์หมิงถึงกาลสิ้นสุดอย่างแท้จริง โดย พระเจ้าหมิงซือจง (明思宗) แห่งราชวงศ์หมิง ผูกพระศอปลงพระชนม์ตัวเอง ในปี 2187
สมเด็จพระจักรพรรดินู่เอ๋อร์ฮาชื่อ
(21 กุมภาพันธ์ 1559 – 30 กันยายน 1626) หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิชิงไท่จู่ เป็นปฐม จักรพรรดิราชวงศ์ชิง
พระราชประวัติ
จักรพรรดินู่เอ๋อร์ฮาซื่อ เป็นชาวหนี่เจิน ประสูติปีค.ศ.1559 เป็นบุตรของท่าเค้อซื่อซึ่งเป็นเจ้าเมืองเจี้ยนโจว หลังปู่และบิดาของพระองค์ถูกสังหารโดยทหารต้าหมิงพระองค์ก็ทรงรวบรวมกำลังโดยเริ่มจากเพียงชุดเกาะของตระกูล13ชุด ค.ศ.1588 นู่เอ๋อร์ฮาซื่อก็รวมเผ่าหนี่เจินในเขตเจี้ยนโจวได้สำเร็จ ค.ศ.1593 หนี่เจินเผ่าเย่เฮ่อได้ร่วมมือกับพันธมิตรยกทัพสามหมื่นนายบุกโจมตีเจี้ยนโจว แต่นู่เอ๋อร์ฮาซื่อก็สามารถเอาชนะได้และรวมเผ่าหนี่เจินได้ทั้งหมด ค.ศ.1616 นู่เอ๋อร์ฮาซื่อตั้งตนเองเป็นต้าข่านของอาณาจักรโฮ่วจิน ค.ศ.1625 ย้ายเมืองหลวงจากเฮ่อถูอาลามาที่เสิ่นหยาง และในปีค.ศ.1626 จักรพรรดินู่เอ๋อร์ฮาซื่อสิ้นพระชนม์
สมเด็จพระจักรพรรดิหวงไท่จี๋
(พฤศจิกายน 1592 – 21 กันยายน 1643)หรือจักรพรรดิชิงไท่จง
พระราชประวัติ
หวงไท่จี๋ประสูติปีค.ศ.1592 ทรงเป็นพระราชโอรสลำดับที่8ในจักรพรรดินู่เอ๋อร์ฮาซื่อกับจักรพรรดินีเซี่ยวซือเกา ในช่วงที่ยังเป็นองค์ชายพระองค์ได้คุมทัพธงขาวทั้งสองและมีผลงานโดดเด่นด้านการสงคราม ปีค.ศ.1626 จักรพรรดินู่เอ๋อร์ฮาซื่อสิ้นพระชนม์ หวงไท่จี๋ได้รับคัดเลือกให้สืบทอดตำแหน่งโดยมีองค์ชายไต้ซ่าน,องค์ชายเมิ่งกู่เอ่อไท่และองค์ชายอามินร่วมกันบริหารราชกิจ ต่อมาองค์ชายเมิ่งกู่เอ่อไท่และองค์ชายอามินกระทำความผิดจึงถูกปลดจากตำแหน่งผู้บริหารร่วมกับพระองค์ จนกระทั่งปีค.ศ.1629 องค์ชายไต้ซ่านทรงสละตำแหน่งผู้บริหารร่วม พระองค์จึงรวบอำนาจบริหารไว้แต่เพียงผู้เดียว ตลอดรัชสมัยของพระองค์ทรงสืบทอดปณิธานของนู่เอ๋อร์ฮาซื่อที่จะยึดจีนให้ได้ ทรงได้ปรับปรุงทั้งการเมืองและการทหาร ทำสงครามกับราชวงศ์หมิงโดยตลอด ในปีค.ศ.1643 หวงไท่จี๋เสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน
สมเด็จพระจักรพรรดิซุ่นจื้อ (จักรพรรดิองค์ที่ 3 ของราชวงศ์ชิง แต่ในบางครั้งจะนับพระองค์เป็น ปฐมจักรพรรดิ ของราชวงศ์ชิง ด้วยทรงเป็นจักรพรรดิพระองค์แรกที่ได้ประทับในพระราชวังต้องห้ามที่กรุงปักกิ่ง และราชวงศ์หมิงถึงกาลสิ้นสุดอย่างแท้จริง
จักรพรรดิซุ่นจื้อครองราชย์ถึงปีที่ 18 (ค.ศ. 1661) ก็สวรรคตไปด้วยพระชนมายุเพียง 24 พรรษา ทว่าการสวรรคตของพระองค์กลับเป็นปริศนาถูกกล่าวขานไว้หลายรูปแบบ โดยบ้างระบุว่าพระองค์เสียพระทัยกับการสูญเสียพระสนมและพระโอรส ทำให้ร่างกายและจิตใจได้รับความกระทบกระเทือน และสิ้นพระชนม์ด้วยโรคฝีดาษ (ไข้ทรพิษ)ในปี พ.ศ. 2204 (ค.ศ. 1661) ในขณะที่บันทึกของชาวบ้านกลับระบุว่า พระองค์ทรงมีความฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า สุดท้ายเมื่อสูญเสียพระสนมอันเป็นที่รัก จึงได้ออกผนวช ณ เขาอู่ไถ (五台山) และต่อมาพระโอรสลำดับที่ 3 ของพระองค์ ที่ประสูติแต่ พระมเหสีคัง คือ องค์ชายเสวียนเยว่ (玄燁) พระชนมายุเพียง 8 พรรษา ได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้คังซีตามพระพินัยกรรมของซุ่นจื้อในนาม จักรพรรดิคังซี ซึ่งต่อมาทรงเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ชิง และพระนางเสี้ยวจวงก็เป็นผู้อุปการะพระองค์มาโดยตลอด และได้เลื่อนพระอิสริยยศเป็นไท่หวงไทเฮา
จักรพรรดิคังซี หรือพระนามเต็ม อ้ายซินเจฺว๋หลัวเสฺวียนเย่ จักรพรรดิองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์ชิง
จักรพรรดิคังซี สวรรคตในปี พ.ศ. 2265 (ค.ศ. 1722) ครองราชย์ยาวนานถึง 61 ปี เป็นจักรพรรดิที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาตร์จีน ในยุคสมัยของพระองค์มีเรื่องการเกิดขึ้นต่าง ๆ มากมาย เป็นที่เลื่องลือจนถึงปัจจุบัน มีวรรณกรรมต่าง ๆ มากมายที่บอกเล่าถึงยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็น นิยาย ละครโทรทัศน์ หรือ ภาพยนตร์ ที่มีการจัดสร้างหลายต่อหลายครั้งแม้ในปัจจุบัน เรื่องที่มีชื่อเสียงมากคือ นิยายกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์ของ กิมย้ง เรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ
สมเด็จพระจักรพรรดิยงเจิ้ง ทรงพระราชสมภพเมื่อ13 ธันวาคม พ.ศ. 2221 (คังซีปีที่ 17) เป็นพระโอรสลำดับที่ 4 ในจักรพรรดิคังซี
เป็นองค์ชายที่ 4 ของจักรพรรดิ์คังซี เป็นเรื่องเล่ากันต่อมาว่าพระองค์ชิงราชบัลลังก์จากองค์ชาย 14 โดยแก้ไขลายพระหัตถ์ของพระบิดา ทำให้รัชสมัยของพระองค์มีเรื่องราวแย่งชิงกันระหว่างพี่น้องจนพระองค์ได้ชื่อว่า เป็น " จักรพรรดิบัลลังก์เลือด " หรือ " จักรพรรดิทรราช "
คือ การเปลี่ยนแปลงวิธีการแต่งตั้งองค์รัชทายาท จากการแต่งตั้งโดยเปิดเผยอันเป็นสิ่งปฏิบัติมาแต่อดีต เป็นทรงแต่งตั้งโดยเป็นความลับ โดยจารึกพระนามขององค์รัชทายาทใช้หลังป้ายแผ่นหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกว่า เจิ้งต้ากวางหมิง (正大光明) ซึ่งเก็บลับไว้ในหีบ ซึ่งธรรมเนียมนี้จักรพรรดิองค์ต่อ ๆ มาก็ได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาด้วย
พระองค์สิ้นพระชนม์อย่างกระทันหัน ในปี พ.ศ. 2278 (ค.ศ. 1735) เล่ากันว่าพระองค์ทรงโปรดที่จะเสวยยาอายุวัฒนะ และผลจากการเสวยยาทำให้พระองค์มีพระชนม์ชีพสั้น
จักรพรรดิเฉียนหลง 278 -2338 (1735-1795) รวม 60 ปี
ชื่อเดิม เจ้าชายหงลี่ องค์ชายที่4 ในจักรพรรดิหย่งเจิ้น และเป็นหลานโปรดของ จักรพรรดิคังซี เพราะมีความเฉลียวฉลาดตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงครองราชย์เมื่ออายุ 25 ปี
จักรพรรดิเฉียนหลงได้สร้างความเจริญมากมายให้กับประเทศจีน โดยเฉพาะการจัดทำสารานุกรม ซื่อคู่เฉวียนซู ขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2316 (ค.ศ. 1773) - พ.ศ. 2325 (ค.ศ. 1782) ถือเป็นมรดกโลกที่สำคัญชิ้นหนึ่ง
จักรพรรดิเฉียนหลงมีคนสนิทที่ทรงใกล้ชิดอยู่คนหนึ่ง ชื่อ เหอเซิน ที่มักคอยเอาอกเอาใจอยู่ตลอด และมักชวนจักรพรรดิเฉียนหลงเสเพลอยู่เสมอ ๆ จักรพรรดิเฉียนหลงทรงโปรดเหอเซินมาก ทำให้เหอเซินเหิมเกริม กระทำการทุจริตต่าง ๆ นานา ยิ่งโดยเฉพาะในปลายรัชสมัยมีการจับจ่ายใช้เงินทองจำนวนมากเพื่อความสำราญของคนในพระราชวัง ทำให้ราชวงศ์ชิงอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
จักรพรรดิเฉียนหลงทรงมีพระโอรสที่ปรีชาสามารถมากคือเจ้าชายหย่งฉี พระโอรสองค์ที่ 5 ซึ่งประสูติแต่ฮองเฮาองค์ที่ 2 เจ้าชายหย่งฉีเป็นผู้ที่ปรีชาสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ เป็นความหวังว่าจะได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ แต่กลับสิ้นพระชนม์เสียก่อนตั้งแต่ยังหนุ่ม
ในปี พ.ศ. 2338 (ค.ศ. 1795) ปีที่ 60 ที่ทรงครองราชย์จักรพรรดิเฉียนหลงได้สละราชสมบัติให้พระโอรส ด้วยไม่ทรงปรารถนาจะครองราชย์ยาวนานเกินกว่าจักรพรรดิคังซีผู้ทรงเป็นพระอัยกา อย่างไรก็ตามแม้จะสละราชบัลลังค์แล้วแต่อำนาจที่แท้จริงยังคงอยู่กับพระองค์ โดยทรงขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น พระบิดาหลวง หรือ จักรพรรดิสูงสุด (ไท่ซั่งหวง, 太上皇帝) พระองค์สวรรคตเมื่อปี 2342
จักรพรรดิเจี่ยชิ่งพ.ศ. 2339–พ.ศ. 2363 (ค.ศ. 1796- 1820) รวมระยะเวลาที่ได้ทรงครองราชย์ 24 ปี
พระโอรสองค์ที่ 15 ของ จักรพรรดิฉียนหลง ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อมีพระชนม์ 37 พรรษา ปี พ.ศ. 2342 (ค.ศ. 1799) จักรพรรดิเฉียนหลงได้สวรรคต พระองค์จึงได้อำนาจในการปกครองอย่างแท้จริง
สิ่งแรกที่ทำคือทรงได้กำจัดเหอเซิน ที่เป็นขุนนางกังฉิน โกงกินชาติ ซึ่งเป็นคนสนิทของจักรพรรพิเฉียนหลง ทรงรวบรวมขุนนางและบรรดาผู้ที่จงรักภักดีเพื่อกำจัดเหอเซิน โดยบุคคลสำคัญผู้หนึ่งที่มีบทบาทในการครั้งนี้คือ อ๋องเฉิน ซึ่งเป็นพระเชษฐา (พี่ชาย ) ของพระองค์และเป็นพระโอรสลำดับที่ 11
ตลอดรัชสมัย ทรงพบกับการก่อกบฏและเรื่องทางความมั่นคงมากมาย เช่น กบฏพรรคบัวขาว, กบฏโจรสลัดไต้หวัน กบฏพรรคเที่ยงธรรม เป็นต้น ซึ่งกบฏเหล่านี้ส่วนใหญ่ เป็นกบฏชาวฮั่นที่รวบรวมคนไว้เพื่อโค่นล้มราชวงศ์ชิงกอบกู้ราชวงศ์หมิงนั่นเอง จากการปราบกบฏนี่เอง ทำให้พระองค์เกิดความไม่ไว้พระทัยในตัวขุนนางและบรรดาคนใกล้ชิดหลายคน และแม้แต่อ๋องเฉินด้วย ทำให้อ๋องเฉินลาออกจากราชการไป
พระองค์ทรงใช้ทั้งนโยบายที่ผ่อนปรนและแข็งกร้าวสลับกันไป เช่น การห้ามชาวแมนจูแต่งงานกับชาวฮั่นเด็ดขาด หรือ การห้ามชาวคริสต์เผยแพร่ศาสนาเด็ดขาด รวมทั้งการห้ามราษฎรสูบฝิ่นด้วย เป็นต้น ซึ่งสิ่งทั้งหมดเหล่านี้จะส่งผลต่อความมั่นคงตามมาในภายหลัง
ในปลายรัชสมัย ทรงมีพระพลานามัยอ่อนแอ ด้วยทรงสูงพระชันษาประกอบกับการกลัดกลุ้มพระทัยอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับราชภารกิจ ทรงสวรรคตในปี พ.ศ. 2363 (ค.ศ. 1820) พระชนมายุ 61 พรรษา
จักรพรรดิเต้ากวง ปี พ.ศ. 2363 -พ.ศ. 2393 (ค.ศ. 1820-1850) ระยะเวลา 30 ปี
มีพระนามว่า เหมี่ยนหนิง เป็นองค์ชายรองในจักรพรรดิเจี่ยชิ่ง ประสูติจากมเหสีที่มีชื่อว่า พระนางเสี้ยวซู (孝淑皇后) แต่พระมารดาได้สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่พระองค์ยังเยาว์วัย จักรพรรดิเจี่ยชิงพระราชบิดาจึงได้สถาปนาเจ้าจอมองค์ใหม่ขึ้นเป็น พระนางเสี้ยวเหอ (孝和皇后) ซึ่งเป็นบุตรสาวของขุนนางพวกเดียวกับเหอเซิน ที่ทรงไม่ไว้วางพระทัย แต่ทรงทำไปด้วยด้วยเหตุผลทางการเมือง นั่นทำให้จักรพรรดิเต้ากวงเมื่อยังทรงพระเยาว์ก็ไม่โปรดในตัวพระนางด้วยเช่นกัน แม้จะมีศักดิ์เป็นพระมารดาเลี้ยงก็ตาม แต่ภายหลังจึงได้ยอมรับพระนาง
ในรัชสมัยจักรพรรดิเต้ากวง ได้ทรงหาทางกำจัดขุนนางกังฉินและบรรดาขุนนางที่ไม่เอาการเอางาน จึงทำให้เหล่าขุนนางลับหลังจะนินทาพระองค์อยู่เสมอ ๆ และทำให้ขุนนางแบ่งแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่ายต่างก็สนับสนุนพระโอรสอันเกิดจากพระมารดาที่เป็นชนเผ่าเดียวกับตน แต่พระองค์ก็ได้หาทางบริหารประเทศอย่างเต็มที่ ในรัชสมัยของพระองค์ประเทศเป็นปึกแผ่น ดูเหมือนเข้มแข็ง แต่ภายในอ่อนแออันเกิดจากการฉ้อราษฎร์บังหลวง เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดคือ สงครามฝิ่นกับอังกฤษในปี พ.ศ. 2382 (ค.ศ. 1839) และ พ.ศ. 2383 (ค.ศ. 1840) ยุคล่าอาณานิคม ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และนำมาสู่การสูญเสียเกาะฮ่องกงและการล่มสลายของราชวงศ์ชิงในภายหลัง ในรัชสมัยนี้พระองค์ได้ออกนโยบายให้ทุกคนในวังประหยัด โดยมีพระองค์เป็นแบบอย่าง
ได้สวรรคตในปี พ.ศ. 2393 (ค.ศ. 1850) เมื่อมีพระชนม์มายุ
จักรพรรดิเสียนเฟิง พ.ศ. 2393 – 2404 (ค.ศ. 1850- 1861) รวม 11 ปี
ปี มีนามเดิมว่า อ้ายซินเจวี๋ยหลัว อี้จู่ หรือองค์ชาย อี้จู่ ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2374 (ค.ศ. 1831) ขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนม์ 19 พรรษา เป็นราชโอรสองศ์ที่ 4 ของจักรพรรดิเต้ากวง
ซึ่งในระหว่างที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ใหม่ ๆ พระราชประเพณีจีนห้ามจักรพรรดิองค์ใหม่มีมหเสีหรือพระสนม และต้องไว้ทุกข์เป็นเวลานานถึง 27 เดือน เมื่อผ่านช่วงไว้ทุกข์ไปแล้ว จึงมีการเลือกพระสนม และได้ พระมหเสีองค์แรกของจักรพรรดิเสียงฟง คือ พระนางหนิวฮู่ลู่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพระนางหวางไท่โฮ่ว
ในสมัยพระองศ์เกิดสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 ซึ่งส่งผลให้เกาะฮ่องกงตกเป็นของจักรวรรดิอังกฤษโดยสมบูรณ์ และมาเก๊าตกเป็นของโปรตุเกส และกบฏไท่ผิง โดย หง ซิ่วฉวน ซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศและราชวงศ์
จักรพรรดิเสียนฟง มีพระมหเสีองค์รองอีกหนึ่งพระองค์ ที่ต่อมามีบทบาทอย่างมากในประวัติศาสตร์ภายหลัง คือ พระนางซูสีไทเฮา
พระองค์สวรรคตในปีพ.ศ. 2404(ค.ศ. 1861) ด้วยพระชนมายุเพียง 30 พรรษา ด้วยพระโรคที่รุมเร้าจากทรงกลัดกลุ้มในปัญหาของบ้านเมือง
จักรพรรดิถงจื้อ 2404 -2418 ( 1861-1875) รวม 14 ปี
มีพระนามเดิมว่า อ้ายซินเจวี๋ยหลัว หรือ องค์ชายไจ้ฉุน เป็นราชโอรสองศ์เดียวในจักรพรรดิเสียนเฟิงกับซูสีไทเฮา ว่ากันว่าเมื่อพระองค์เติบโต พระองค์ได้ระบายอารมณ์กับเหล่าขันทีและมักจะเข้าซ่องเสมอ ทำให้พระองค์เสียชีวิตด้วยโรคซิฟิลิส
แต่ในยุคสมัยของพระองค์ บุคคลที่มีอำนาจมากที่สุด คือ พระนางซูสีไทเฮา และฉืออันไทเฮา ซึ่งเป็นการว่าราชการหลังม่าน พระองค์เพียงแต่พูดตามคำของพระนางเท่านั้น
ลองอ่านรายละเอียดในเอนทรีที่แล้ว สตรีที่โลกไม่ลืม ซูสีไทเฮา ราชินีหลังม่าน เหนือมังกร
จักรพรรดิกวางซวี (กวางสู้ หรือ กวางสู) 2418-2451 ( 1875-1908) รวม33 ปี
พระนามเดิมว่า อ้ายซินเจวี๋ยหลัว ไจ้เถียน เป็นบุตรของเจ้าชายจุนที่ 1 ซึ่งเป็นอนุชาของจักรพรรดิเสียนเฟิง พระราชมารดาคือน้องสาวของซูสีไทเฮา ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ การขึ้นครองราชย์ของพระองศ์เป็นการผิดกฎมณเฑียรบาล เพราะจักรพรรดิถงจื้อก่อนสิ้นพระชนม์ได้แต่งตั้งเจ้าชายไซ่ชูพระญาติรุ่นหลังให้เป็นรัชทายาท แต่ในเมื่อพระนางซูสีไท่เฮาต้องการให้กวางสูขึ้นครองราชย์ก็ไม่มีใครกล้าขัด
ในรัชสมัยของพระองค์อำนาจยังคงอยู่ในมือของพระนางซูสีไทเฮา
บทบาทที่สำคัญของพระองค์คือการปฏิรูป 100 วัน แต่ไม่สำเร็จ และถูกพระนางซูสีไทเฮาจับขังในพระราชวังฤดูร้อน จนกระทั่งสิ้นพระชนม์
ลองอ่านรายละเอียดในเอนทรีที่แล้ว สตรีที่โลกไม่ลืม ซูสีไทเฮา ราชินีหลังม่าน เหนือมังกร
จักรพรรดิซวนถง (ปูยี ) 2451-2455 ( 1908-1912 ) รวม 4 ปี
มีพระนามเต็มว่า อ้ายซิน เจี๋ยหลอ ปูยี ( พระราชสมภพ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2449 สวรรคต 17 ตุลาคม พ.ศ. 2510 เป็นบุตรขององค์ชายชุน หลานของพระนางซูสีไทเฮา และขึ้นครองราชย์เมื่ออายุ 2 ปี และขึ้นครองราชยืได้ไม่นาน พระนางซูสีไทเฮาก็สวรรคต และพระองค์ เป็นจักรพรรดิ์องค์สุดท้าย (末代皇帝) ของประเทศจีน
ปูยีดำรงตำแหน่งจักรพรรดิของประเทศจีนระหว่าง ค.ศ. 1908 - ค.ศ. 1912 และอภิเษกกับจักรพรรดินีว่านหยง (婉容皇后) หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2467 (ค.ศ. 1924) ปูยีถูกขับออกจากพระราชวังต้องห้ามและดำรงชีวิตดุจสามัญชน
เรื่องอื่นๆ อ่านเอา
องค์ชาย ราชวงชิง
https://board.postjung.com/741243.html
ตำแหน่ง นางใน องค์หญิง มเหสี จีน
https://board.postjung.com/741609.html
การขัดเลือก นางใน และนางกำนัล
https://board.postjung.com/741616.html
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
สถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 30 ธันวาคม
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
บุกจับแล้ว 4 เมียนมา ยึดโดรน 10 ลำมูลค่า 7.5 ล้าน บินป่วนสุวรรณภูมิ
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
เลขเด่นงวดต้นปี: เจาะลึกคำชะโนดและสำนักดัง 2/1/69
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..รีบส่องด่วน ก่อนเกลี้ยงแผง!!


















