การจัดงานศพที่ใหญ่โตถวายพระอรหันต์ ได้อานิสงส์เท่าตอนอุปัฏฐากยามมีชีวิต หรือไม่
ผมเคยถามท่านว่ายทวนน้ำว่า เวลาพระอรหันต์มรณภาพไปแล้วมีการจัดงานศพให้ท่านอย่างยิ่งใหญ่ คนจัดจะได้อานิสงส์เหมือน ๆ กับอานิสงส์ที่ทำกับท่านตอนมีชีวิตอยู่หรือไม่ ?
ท่านว่ายทวนน้ำตอบว่า
"อริยะจริง ๆ คือตัวความบริสุทธิ์ของจิตที่อาศัยร่างกายของคน ๆ นั้นอยู่ พระอรหันต์เวลาตายแล้วร่างกายของท่านไม่ต่างอะไรกับท่อนไม้ ตัวอริยะหรือจิตที่บริสุทธิ์นั้นไม่ได้อาศัยท่อนไม้นั้นแล้ว เปรียบเหมือนกับร่างกายคือรถยนต์ ตัวจิตบริสุทธิ์คือคนขับ คนขับเขาขับรถไปถึงที่หมายจนลุกออกจากรถไปแล้ว แต่เรามัวแต่มาเติมน้ำมันให้รถอยู่มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร
การจัดงานศพให้ยิ่งใหญ่เป็นเพียงการจัดงานอย่างสมเกียรติให้ท่านตามประเพณีของโลกเท่านั้น ไม่ได้ถือว่าเป็นการอุปัฏฐากแต่อย่างใดเพราะตัวอริยะจริง ๆ ออกจากร่างกายไปแล้ว การอุปัฏฐากต้องทำตอนที่จิตบริสุทธิ์ยังคงอาศัยร่างกายนั้นอยู่
การอุปัฏฐากที่ถูกต้องนั้นต้องเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้ท่าน เช่น ให้ข้าวให้น้ำ ให้ที่อยู่อาศัยแต่ไม่จำเป็นต้องทำให้หรูหราหรือใหญ่โตอะไร คนให้อย่าเอาความต้องการของตนเองเป็นตัวตั้ง ถามท่านสักนิดว่าท่านขาดเหลืออะไร หรือต้องการให้เราช่วยอะไรก็ขอให้ท่านบอก
แต่คนส่วนใหญ่มักใช้พระอริยะเป็นที่สนองความบ้าบุญของตนเอง ตัวเองอยากได้อะไร อยากเกิดมามีอะไรก็เอาสิ่งนั้นมาให้อริยะเพื่อหวังว่าตนเองจะได้สิ่งนั้นกลับคืนมาเป็นร้อยเป็นพันเท่า อยากมีเสื้อผ้าสวยใส่ก็เอาจีวรไปถวายจนล้นโกดัง เป็นการสร้างภาระหน้าที่และความลำบากใจให้แก่พระอริยะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากความบ้าบุญของคนที่เอาของมาให้นั่นแหละ ระวังจะเป็นการไปสร้างภาระหน้าที่ให้พระอริยะโดยไม่รู้ตัว"
ทิมมี่คิดว่าก็เหมือนกับการปรนนิบัติดูแลคุณพ่อคุณแม่ของเราให้ท่านอยู่มีมีความสุขทั้งกายและใจ ย่อมดีกว่าเราไปเคาะเรียกให้มารับส่วนบุญกุศลยามตายครับ