ประเพณีทำขวัญข้าวในภาคอีสาน
ภาคอีสาน
ในแถบภาคอีสานซึ่งเป็นภาคที่มีพื้นที่ปลูกข้าวมากที่สุดในประเทศไทยนั้น นิยมเรียกพิธีทำขวัญข้าวว่า ขวัญเข่า ซึ่งจะเรียกในวันเพ็ญเดือน 11 ระยะที่ข้าวกำลังตั้งท้อง โดยจะถือเคล็ดให้ผู้เรียกขวัญจะเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว สำหรับอุปกรณ์ในการเรียกขวัญข้าวหลักๆ ก็จะมี กรวย ดอกไม้ ข้าวต้มมัด กล้วย แป้งผัดหน้า น้ำมันแต่งผม ขี้ผึ้งสีปาก หมาก พลู บุหรี่ ต้นอ้อย รวงข้าว ต้นข้าว ผู้เรียกขวัญจะปักต้นอ้อย ไม้ไผ่ที่มุมคันนาที่หัวนาทิศเหนือ แล้ววางอุปกรณ์ต่างๆ บนตะแกรงไม้ไผ่ แล้วจึงกล่าวคำเรียกขวัญแม่โพสพ
"จะสังเกตเห็นได้ว่าของที่นำมาทำขวัญข้าวนั้น ส่วนใหญ่ก็คือของพื้นบ้าน พื้นถิ่นที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นนั้น อย่างเช่นที่ภาคอีสานมีข้าวเหนียว สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนอีสานที่กินข้าวเหนียวในชีวิตประจำวัน แต่ที่ขาดไม่ได้คือหมาก พลู ที่จะต้องมีเหมือนกันทุกภาคในการทำพิธี"
ต่อมาเมื่อข้าวแก่ก็จะเริ่มทำพิธีเด็ดรวงเข่า (ข้าว) เอาวัน (เอาฤกษ์) เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ผู้ทำพิธีจะนั่งบนคันนาหันหน้าไปทิศตะวันออก กราบ 3 ครั้ง แล้วกล่าวคำทำพิธีเด็ดรวงข้าวเอาวันอันเชิญแม่โพสพเป็นมิ่งขวัญ โดยเด็ดรวงข้าวที่งามและรวงข้างที่ใหญ่ 7 รวง ใส่ผ้าพาดบ่ากลับมาบ้านนัยว่าเพื่อเป็นสิริมงคล
พอข้าวออกรวงและแก่พอจะทำการเก็บเกี่ยวแล้ว ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาของพิธีนำข้าวขึ้นลาน แต่ก่อนนำข้าวจากนามาสู่ลานนั้น จะต้องกล่าวคำอัญเชิญแม่โพสพขึ้นลาน สำหรับผู้นำข้าวขึ้นลานคือแม่บ้าน ซึ่งจะเป็นคนไปหาบข้าวแล้วนำมาวางด้านทิศเหนือของลาน
สุดท้ายคือพิธีเชิญขวัญข้าว จะทำเมื่อขนขึ้นยุ้งแล้ว แม่บ้านจะไปที่นาทำพิธีเชิญขวัญข้าว โดยเก็บข้าวที่ตกหล่นตามท้องนา เริ่มด้วยเอาดินเหนียวบริเวณนามาปั้นเป็นก้อน นำไปคลุกข้าวเปลือกที่ร่วงหล่นอยู่ แล้วกล่าวคำเรียกขวัญข้าว เสร็จแล้วจึงหยิบก้อนดินเรียก 'ขวัญข้าว' แล้วนำมาห่อผ้านำกลับบ้าน ไปวางไว้ที่มุมยุ้งตรงข้ามกับประตูยุ้งข้าวก็เป็นอันเสร็จพิธี
หัวใจหลักๆ คือ การระลึกถึงบุญคุณของแม่โพสพและยังสื่อถึงความหวังที่จะให้ผลผลิตของตนนั้นผลิดอกออกรวงอย่างแข็งแรง เติบใหญ่เป็นต้นข้าวที่จะสร้างรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งพิธีกรรมบูชาข้าว บูชาแผ่นดินเหล่านี้ ก็เป็นเฉกเช่นพิธีกรรมโบราณอื่นๆ ที่นับวันมีแต่จะค่อยๆ หมดไปจากสังคมไทย
ภาพชุดนี้อาจจะไม่ตรงกับข้อมูลนัก แต่แสดงออกถึงหัวใจหลักการทำขวัญข้าวครับ