หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความแตกต่างระหว่าง เด็กไฮเปอร์ และเด็กสมาธิสั้น

โพสท์โดย I sea u
5 วิธีสอนลูกรู้จักค่าของ
 

สัญญาณในเด็กเล็ก
 
เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะไม่สามารถทำอะไรให้เสร็จสมบูรณ์ได้ ต่อให้เป็นงานที่ง่ายที่สุดก็ตาม ปกติเด็กเล็กมักมีสมาธิสั้นกว่าเด็กโตอยู่แล้ว แต่เด็กที่เป็นโรคนี้จะเริ่มคิดถึงงานถัดไปก่อนที่จะเริ่มทำงานแรกเสียอีก พวกเขาจะไม่สามารถนั่งฟังนิทานเฉย ๆ หรือแม้แต่ช่วยพับผ้าได้
 
เด็กที่มีปัญหาสมาธิสั้นจะทำตามคำสั่งหรือประมวลข้อมูลได้ลำบากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เขาจะพูดตลอดเวลา เพียงเพื่อให้ได้พูด แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่ถามคำถาม “ทำไม” ตลอดเวลาจะเป็นโรคสมาธิสั้น เด็กที่เป็นโรคนี้จะพูดทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในสมอง และพูดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ
 
อีกอาการหนึ่งของเด็กที่เป็นโรคนี้คือ เขาจะเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น กระโดดบนเตียง กระโดดลงจากโต๊ะ ขยุกขยิก แกว่งแขน แกว่งเท้า เล่นกับอาหาร และไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ ได้ หมายเหตุ: นี่เป็นอาการทั่วไปของเด็กสมาธิสั้น ไม่ใช่เด็กที่กำลังตื่นเต้นเพราะจะได้ไปเที่ยวข้างนอกนะคะ
 
เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมักมีความคิดสร้างสรรค์และช่างจินตนาการ สมองของเขาจะวิ่งปรู้ดตลอดเวลา และอยากทำนู่นทำนี่ไปซะทุกอย่าง มักเป็นพวกที่คิดเรื่องราวประหลาด ๆ มาเล่าให้คุณฟังได้เสมอ ชอบวาดรูปสัตว์หน้าตาประหลาด และเมื่อเริ่มโตขึ้น เขาจะสามารถทำหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกันได้ เช่นฟังคุณพูดไปพร้อม ๆ กับการจดจ่ออยู่กับงานอื่น
 
การวินิจฉัยของแพทย์
 
ไม่ว่าลูกของคุณจะมีอาการชัดเจนแค่ไหน เราก็ไม่แนะนำให้คุณพยายามวินัจฉัยโรคด้วยตัวเอง มีเด็กอายุต่ำกว่า 7 ขวบหลายคนถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นโดยที่พวกเขาไม่ได้เป็น เนื่องจากการวินิจฉัยโรคนี้ต้องอาศัยเวลาสังเกตพฤติกรรมต่อเนื่อง เด็กในช่วงวัยนี้อาจดูไฮเปอร์ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะเป็นโรคสมาธิสั้นเสมอไป อาจแค่อยู่ในช่วงกำลังซน อยากรู้อยากเห็น แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อเด็กโตขึ้น

วิธีรักษาที่ดีที่สุด
 
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำเพื่อบรรเทาอาการโรคสมาธิสั้นได้ เช่น ทำให้บรรยากาศในบ้านสงบ งดกิจกรรมที่อึกทึก และอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
 
เพียงแค่ลองเปลี่ยนอาหารให้ลูก ก็อาจช่วยบรรเทาอาการได้มาก พยายามงดอาหารแปรรูปที่ใส่สีผสมอาหาร สารเคมี และอาหารขยะทั้งหลาย ร่างกายของเราถูกออกแบบมาเพื่อให้ย่อยผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนม การกินอาหารอย่างระวังจะช่วยบรรเทาอาการได้โดยไม่ต้องพึ่งยา
ลดสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ห้องที่มีสีสันสดใส การเปิดเพลงเสียงดัง วิดีโอเกมหรือรายการทีวีที่มีการเคลื่อนไหวเยอะ ๆ และอื่น ๆ จะยิ่งกระตุ้นประสาท และทำให้ลูกไม่สามารถจดจ่อได้ พยายามทำให้ทุกอย่างเงียบสงบ หากิจกรรมที่ลูกได้ลงมือทำด้วยตัวเองให้ลูกทำก็ช่วยได้เช่นกัน
ให้รางวัลเมื่อลูกทำงานเสร็จ เพื่อกระตุ้นให้ลูกจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งและปฏิบัติตัวดีจนกว่างานจะสำเร็จ
บางครั้งอาการของโรคอาจเกิดขึ้นกระทันหันจนเด็กไม่สามารถเรียนรู้และใช้ชีวิตได้ตามปกติ คุณอาจจำเป็นต้องให้ยา แต่ควรเลือกวิธีนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายหลังจากที่ได้ลองวิธีอื่น ๆ แล้ว
 
ที่มา http://th.theasianparent.com/
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: I sea u
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ปลูกบ้านไว้ เห็ดขึ้นเต็มบ้านมีคนไปเจอ 'แมววิลาศ' แมวมงคลโบราณจากสมุดข่อยด้วยพระราชธิดารัชกาลที่ 5 สตรีที่ถูกลืมศาลช็อค!! หลังได้ดูคลิปหลักฐาน ชายถ่ายคลิปตัดไข่คนไม่ควรกิน"แตงโม"ถ้าอยู่ในคน7กลุ่มนี้!!ฮือฮาทั้งโซเชียล พระเอกเกาหลีพูดชื่อเต็มกรุงเทพฯ ชัดมาก "Frankly Speaking พูดตรงๆ คงต้องรัก"ยังแรงไม่หยุด กระแส #แบนซีรี่ส์ท่านขุน ค่ายปล่อยเบลอ แอบเรียกนักเขียนไปคุยกางเกงยีนส์ Levi's ที่ถูกค้นพบในเหมืองร้างในนิวเม็กซิโก ทศวรรษ 1880รัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน ทุกอาชีพทั่วประเทศ เริ่ม 1 ตุลาคม 2567
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ฮือฮาทั้งโซเชียล พระเอกเกาหลีพูดชื่อเต็มกรุงเทพฯ ชัดมาก "Frankly Speaking พูดตรงๆ คงต้องรัก"ยังแรงไม่หยุด กระแส #แบนซีรี่ส์ท่านขุน ค่ายปล่อยเบลอ แอบเรียกนักเขียนไปคุยโพยโกงสอบอายุกว่า 600 ปี ?ขีปนาวุธที่เร็วที่สุดในโลก (28,000 กม./วินาที)ชื่อว่าอะไร
ตั้งกระทู้ใหม่