หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประวัติศาสตร์ได้จารึกความปราชัยย่อยยับของกองทัพจีนต่อญี่ปุ่น

โพสท์โดย I sea u

 

ภาพ วาดล้อเลียนกองทัพจีน ของนิตยสารพันช์ (29 กันยายน ค.ศ. 1894) ซึ่งสื่อถึงชัยชนะของกองทัพจากเกาะเล็กๆ อย่างญี่ปุ่น ที่สามารถโค่นยักษ์จีนในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง (1 สิงหาคม ค.ศ. 1894 - 17 เมษายน ค.ศ. 1895)

       เอเจนซี - ในโอกาสที่ปีนี้ เป็นปีครบรอบ 120 ปี สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง ซึ่งประวัติศาสตร์ได้จารึกความปราชัยย่อยยับของกองทัพจีนภายใต้การปกครองของ รัฐบาลราชวงศ์ชิง นอกจากรัฐบาลจะได้เตรียมจัดพิธีรำลึกฯ บรรดาเหล่าแม่ทัพนายกองยังได้ถือเป็นโอกาสแห่งการย้อนเรียนรู้บทเรียนในอดีต พร้อมทั้งประเมินวิเคราะห์ตัวเองอย่างจริงจัง
       
       เมื่อเร็วๆ นี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (People's Liberation Army) ซึ่งรวมถึงกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ต่างพร้อมใจออกมาพูดถึงข้อเท็จจริงของความพ่ายแพ้ในสงครามจีน-ญี่ปุ่นอย่าง ตรงไปตรงมา โดยมุ่งไปที่ความไร้เอกภาพของรัฐบาลชิงในยุคนั้น ซึ่งแตกเป็นก๊กเหล่า ฉ้อฉลและหวาดระแวงกันเอง
       
       โกลบอลไทม์ส รายงานอ้างความเห็นของ นายพลติง หยี่ผิง รองผู้บัญชาการทหารเรือ ที่กล่าวว่า รัฐบาลชิงสมควรถูกตำหนิในการเป็นต้นเหตุแห่งความพ่ายแพ้ในสงครามจีน-ญี่ปุ่น (ค.ศ. 1894 - 1895) ขณะที่นายพลหลิว หย่าโจว ที่ปรึกษาการทหาร จากมหาวิทยาลัยป้องกันประเทศ กล่าวกับพีแอลเอ เดลี่ และซินหวา ว่าความพ่ายแพ้ครั้งนั้นไม่ได้เกิดจากความอ่อนแอของกองทัพจีน แต่เป็นเพราะความล้มเหลวของรัฐบาลชิง ในการบริหารประเทศ ให้เท่าทันความเป็นไปของโลก โดยเฉพาะความทะเยอทะยานของกองทัพญี่ปุ่นในเวลานั้น ซึ่งเร่งระดมพัฒนายุทโธปกรณ์อีกทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาโดยตรงจากชาติ ตะวันตก เพื่อซุ่มกลับมาพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ยึดครองเอเชีย
       
       ด้านนายพลจิ่น ยี่หนัน ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยฯ มหาวิทยาลัยป้องกันประเทศ เขียนบทความวิเคราะห์ลงในซินหวาว่า ความพ่ายแพ้ในสมรภูมินี้ กองทัพเรือเป่ยหยางแห่งภาคเหนือ ต้องตกเป็นแพะรับบาปของรัฐบาลชิงมานานนับร้อยปี และหากได้รู้ข้อเท็จจริงของการตัดทอนกำลังกองทัพในยุครัฐบาลชิง ก็จะยอมรับว่าความอดสูครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
       
       เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ ศาสตราจารย์หนี่ เล่อเสวียง ผู้เชี่ยวชาญการทหาร และศึกษาประวัติศาสตร์สงครามจีน-ญี่ปุ่นมาตลอดหลายสิบปี ได้อ้างอิงเหตุการณ์ดังกล่าวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เกิดขึ้นในทะเลจีนตะวันออก โดยระบุว่า กองทัพจีนกำลังเผชิญแรงกดดันรอบใหม่ อันเป็นเวลาที่นายทหารของกองทัพฯ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องย้อนศึกษาบทเรียนของกองทัพเป่ยหยาง
       
       หลิว หย่าโจว กล่าวถึงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์โดยระบุว่า สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง (1 สิงหาคม ค.ศ. 1894 - 17 เมษายน ค.ศ. 1895) เป็นการสู้รบกันระหว่างราชวงศ์ชิงของจีน กับจักรพรรดิเมจิแห่งญี่ปุ่น เพื่อครอบครองคาบสมุทรเกาหลี สงครามครั้งนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของราชวงศ์ชิง และความแข็งแกร่งของญี่ปุ่นที่เริ่มแผ่อิทธิพลมายังแผ่นดินใหญ่ของเอเชีย ตะวันออก
       
       ในเวลานั้น จีนมีกองทัพเรือเป่ยหยาง ซึ่งบัญชาโดยแม่ทัพใหญ่ผู้เก่งกาจและรักชาติอย่าง นายพลหลี่ หงจาง แต่ด้วยมีชาติกำเนิดเป็นชาวฮั่น ทำให้นายพลหลี่ มีคู่อริไม่น้อยในรัฐบาลชิง โดยเฉพาะกับที่ปรึกษาจักรพรรดิ์ อย่าง หวัง ท่งเหอ ซึ่งเป็นชาวแมนจู และดำรงตำแหน่งสำคัญมากมายในรัฐบาลชิง
       
       หวัง ท่งเหอ มีอิทธิพลขนาดสามารถสั่งตัดลดงบประมาณการพัฒนาความก้าวหน้าของกองทัพเรือจีน ซึ่งในสายตาของเขา เห็นว่าความแข็งแกร่งของกองทัพเรือซึ่งมีแม่ทัพอย่าง หลี่ หงจาง เป็นเสมือนหอกข้างแคร่ใหญ่ที่ต้องบั่นทิ้ง
       
       เหลียง ฉีเชา ผู้นำคนสำคัญอีกคนในปลายยุคชิง เคยเขียนบันทึกไว้ว่า แม่ทัพหลี่ฯ เป็นวีรบุรุษของชาติในยามบ้านเมืองถูกภัยรุกราน แต่เขาเพียงลำพัง ไม่อาจยืนหยัดต่อกรกับแสนยานุภาพอันยิ่งใหญ่ของกองทัพญี่ปุ่นในเวลานั้น
       
       ศาสตราจารย์หนี่ กล่าวว่า ความพ่ายแพ้ต่อญี่ปุ่น เป็นเหตุให้จีนจำต้องยอมรับสนธิสัญญาชิโมะโนะเซะกิ (下関条約) หรือ สนธิสัญญาหม่ากวัน (马关条约) ในภาษาจีน อันเป็นสนธิสัญญาระหว่างจักรวรรดิญี่ปุ่นและประเทศจีน โดยราชวงศ์ชิง เมื่อวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 1895 (พ.ศ. 2438) ที่ระบุให้จีนต้องชำระค่าปฏิกรรมสงครามแก่ญี่ปุ่นทั้งที่เป็นเงินและดินแดนฯ สูญเสียอธิปไตยเหนือดินแดนเผิงหู ไต้หวัน ตลอดจนหมู่เกาะเล็กเกาะน้อยในทะเลจีนตะวันออก รวมทั้งหมู่เกาะเตียวอี๋ว์
       
       นายพลติง หยี่ผิง ได้กล่าวยกย่องวีรกรรมกล้าหาญของเหล่านายทหารแห่งกองทัพภาคเหนือเป่ยหยาง ซึ่งเป็นกองทัพเดียวที่ยืนหยัดต่อกรกับแสนยานุภาพอันทันสมัยของกองทัพ จักรวรรดินิยมญี่ปุ่น และว่าในเวลานั้นจีนมีกองทัพเรือใหญ่ถึง 3 กอง แต่มีเพียงกองทัพภาคเหนือที่ได้รับคำสั่งให้สู้รบกับญี่ปุ่น ขณะที่กองเรือหนันหยาง และกวางตุ้ง ไม่ได้ร่วมรบแต่อย่างใด โดยเหตุว่าถูกรัฐบาลสั่งให้ประจำชายฝั่งตะวันออกและมณฑลทางใต้ อาทิ เจ้อเจียง ฝูเจี้ยน และกวางตุ้ง
       
       นายพลหลิว หย่าโจว ที่ปรึกษาการทหารฯ กล่าวว่าชัยชนะของญี่ปุ่น คือความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ นำไปสู่การปกครองบริหารประเทศที่ทันสมัย ทันสถานการณ์ความเป็นไปของโลกยุคล่าจักรวรรดิ์ ขณะที่จีน แม้จะได้ผ่านสงครามใหญ่กับมหาอำนาจตะวันตกจากสงครามฝิ่นทั้งสองครั้ง (ค.ศ.1839 และ ค.ศ.1860) แต่ไม่ได้เรียนรู้จากตะวันตกเหมือนที่ญี่ปุ่นเรียนรู้ฯ
       
       หลิว กล่าวว่า ในช่วงฟื้นฟูของรัฐบาลเมจินั้น (ค.ศ. 1860) ญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด เป็นชาติอุตสาหกรรมเจริญทัดเทียมกับมหาอำนาจตะวันตก แต่จีนกลับเรียนรู้อย่างผิวเผิน มิหนำซ้ำรัฐบาลชิง ยังลังเลที่จะประยุกต์ความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมที่กำลังเกิดขึ้นในโลก รัฐบาลชิงในเวลานั้นมีแต่ความอ่อนแอ แตกแยกเป็นก๊กเหล่า ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมือง พยายามตัดกำลังความแข็งแกร่งของกองทัพฯ ด้วยความหวาดระแวงกันเอง จนที่สุดก็ไม่อาจป้องกันประเทศจากผู้รุกรานฯ ชาติเกาะเล็กๆ อย่างญี่ปุ่น
       
       อย่างไรก็ดี ความทะเยอทะยานของจักรวรรดิ์ญี่ปุ่นที่พัฒนาเป็นลัทธิทหารนิยม คิดไกลถึงขั้นยึดครองเอเชีย รุกรานจีน เกาหลี สู้รบกับรัสเซีย (ค.ศ. 1904 - 1905) กลับแพ้ภัยตัวเองเมื่อส่งฝูงบินรบไปถล่มเพิร์ล ฮาร์เบอร์ของสหรัฐอเมริกา และถลำลึกพาตัวเองสู่หายนะในสงครามโลกครั้งที่สอง
       
       สำหรับจีนนั้น กล่าวได้ว่า ความอดสูปราชัยในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการตื่นตัวปฏิรูปประเทศ โดยประชาชนได้ลุกขึ้นก่อการปฏิวัติใหญ่ในปี ค.ศ. 1911 โค่นล้มรัฐบาลชิงซึ่งเสื่อมถอยถึงที่สุดได้สำเร็จ เป็นจุดเริ่มต้นของจีนใหม่ และแม้เวลาจะผ่านมาแล้ว 120 ปี แต่สงครามครั้งนี้ ก็ยังคงเป็นบทเรียนอันทันสมัยสำหรับจีนในการเผชิญโลกทุกวันนี้

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: I sea u
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทยผัวช็อก!! หลังเมียคลอดลูกออกมา ลูกมีผิวดำ7 เคล็ดลับง่ายๆ ดูแลน้องชายให้สะอาด มั่นใจ กลิ่นดี จนใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้!เพื่อนบ้านแฉ หมอดูฮวงจุ้ย พ่อขับแท็กซี่ ได้วิชาจากลูกค้านั่งรถเป็นซินแสสะเทือนใจ! เด็กถูกสุนัขกัดกลางถนน ไม่มีใครช่วยGen Z ไฟแรง สูงทะเยอทะยาน อยากโตไว ไม่รอแล้วนะ!เก็บตก! งาน Top9 MGI Queen’s Celebration 2024 งานแฟชั่นโชว์สุดอลังการฉลองความสำเร็จ Miss Grand Internationalผู้เสียหายเดินหน้า แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ย” ขณะนี้มีมูลค่าความเสียหาย มากกว่า 70 ล้าน ตร.ยัน เข้าข่ายฉ้อโกงน้ำมันตับปลา ยาอายุวัฒนะจากท้องทะเลลึก สู่ช้อนชาในโรงเรียนอังกฤษเจอแก๊สรั่วแบบนี้ ปิดวาล์วตรงไหนดีชม ยอยักษ์ กับวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ที่ทะเลน้อย พัทลุง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
Gen Z ไฟแรง สูงทะเยอทะยาน อยากโตไว ไม่รอแล้วนะ!เเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทยเก็บตก! งาน Top9 MGI Queen’s Celebration 2024 งานแฟชั่นโชว์สุดอลังการฉลองความสำเร็จ Miss Grand Internationalน้ำมันตับปลา ยาอายุวัฒนะจากท้องทะเลลึก สู่ช้อนชาในโรงเรียนอังกฤษ
ตั้งกระทู้ใหม่