วิธีเลือกทำเลบ้านจัดสรร
สิ่ง แรกที่เราต้องคำนึงเมื่อตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย นั่นคือ “ทำเล” ซึ่งแต่ละคนก็อาจมีวิธีคิดหรือตัดสินใจ ด้วยเหตุผลและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่น อยากอยู่ใกล้บ้านพ่อแม่, ใกล้ที่ทำงาน, ใกล้โรงเรียนลูก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ แต่หากตัดเงื่อนไขเหล่านั้นออกและพิจารณาถึงลักษณะทางกายภาพของทำเลที่ดีที่ เหมาะกับการอยู่อาศัยก็พอมีหลักการพิจารณาอยู่ 5-6 ข้อ ดังนี้
- คมนาคมสะดวก
- ถนนกว้าง
- ไม่มีมลภาวะ
- ปลอดจากภัยน้ำท่วม
- แนวโน้มเจริญเติบโต
คมนาคมสะดวก : ในที่นี้หมายถึงสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ง่ายและสะดวก เช่น มีทางเลือกในการเดินทางได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนใหญ่ ทางลัด หรือนอกจากถนนแล้วก็ยังสามารถใช้ทางด่วนก็ได้ ที่สำคัญนอกจากจะใช้รถส่วนตัวแล้วก็ยังสามารถใช้บริการรถเมล์ รถตู้หรือแท็กซี่ได้สะดวก เพราะปัจจุบันทำเลชานเมืองหลายแห่งขยายตัวเร็วมาก ถนนสร้างเสร็จใหม่ๆ กว้างขวางมาก แต่ยังไม่มีรถเมล์วิ่งถือว่ายังไม่ใช่ทำเลที่ดีนัก
ถนนกว้าง : หมายความทั้งถนนหน้าโครงการหรือถนนที่จะเข้าไปที่โครงการและถนนในโครงการ ถ้าถนนกว้างการขับรถก็สะดวกสบาย ยิ่งถนนหน้าบ้านกว้าง เวลาแขกไปใครมาก็สามารถจอดรถหน้าบ้านได้ ทั้งนี้การเลือกซื้อโครงการจากแปลนอาจดูไม่ออกว่าถนนกว้าง 9 เมตรกับ 12 เมตรว่าแตกต่างกันอย่างไร หรือบางที 9 เมตรดูว่ากว้างแล้ว แต่เวลาสร้างบ้านจริงๆ เข้าอยู่กันจริงๆ อาจคับแคบไปก็ได้ ฉะนั้นถ้าเลือกได้ก็เลือกแปลงที่ติดถนนเมนกว้างๆ จะดีกว่า
ไม่มีมลภาวะ : เพราะมลภาวะต่างๆ จะเป็นตัวบั่นทอนความสุขสบายในการอยู่อาศัย จึงต้องเลือกอยู่ห่างๆ สิ่งเหล่านี้ เช่น ที่ทิ้งขยะ โรงงาน หรือแม้แต่สนามบิน
ปลอดจากภัยน้ำท่วม : แนวโน้มภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้นทุกขณะ รวมถึงภัยน้ำท่วม ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงทำเลที่มีประวัติน้ำท่วมซ้ำซาก หรือฝนตกทีไรน้ำท่วมขังทุกครั้ง เพราะถึงแม้โครงการจะถมดินสูงกว่าถนน ถึงแม้บ้านจะรอดจากน้ำท่วม แต่การเดินทางก็ไม่สะดวกอยู่ดี
แนวโน้มเจริญ : ตัววัดความเจริญหรือปัจจัยที่ส่งผลให้ทำเลนั้นๆ เจริญหรือมีศักยภาพสูงขึ้น เช่น การตัดถนนใหม่ การขยายถนน หรือถ้ามีแนวรถไฟฟ้าผ่านก็ยิ่งดี รวมไปถึงการมีห้างสรรพสินค้า หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นแล้ว ยังมีผลโดยตรงก็ราคาที่ดิน ราคาบ้านในทำเลนั้นๆ ด้วย