กำจัด 10 จุดอ่อน แก้ไขปัญหากู้ซื้อบ้าน ไม่ผ่าน
ผล กระทบจากปัญหาการเมืองและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้รายได้หรือกำลังซื้อบาง ส่วนลดลง ขณะเดียวกันสถาบันการเงินก็มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเกือบๆร้อยละ 80 ของ GDP สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือมีตัวเลขการปฏิเสธให้สินเชื่อเพื่อการอยู่อาศัย เพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยแต่ละโครงการจะอยู่ที่ 10-15% (จากยอดจอง) แต่บางแห่งอาจสูงถึง 20-25% เลยทีเดียว
ซึ่งเหตุผลหลักที่ แบงก์ปฏิเสธการให้สินเชื่อก็เนื่องมาจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ลด ลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการมีภาระผ่อนรถยนต์คันแรก, การมีบัตรเครดิตหลายใบ, การผ่อนชำระสินค้ากับบัตรต่างๆ ตลอดจนรายได้ที่ลดลงในบางอาชีพอันเป็นผลมาจากการชุมนุมทางการเมืองและภาวะ เศรษฐกิจ เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงในการยื่นขอกู้ ซื้อบ้านแล้วไม่ผ่าน จึงมีคำแนะนำให้กำจัด 10 จุดอ่อน ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินดังนี้
1.บัตรเครดิตหลายใบมีไว้ทำไม ไม่รู้หรือว่ามีผลทำให้กำลังซื้อบ้านลดลง ในการพิจารณาวงเงินที่จะให้สินเชื่อซื้อบ้าน แบงก์จะนำวงเงินจากบัตรเครดิตทุกใบที่มีอยู่คิดรวมเป็นภาระหนี้สิน (แม้จะยังไม่ได้รูดจ่ายก็ตาม) ส่งผลให้กู้ได้น้อยลงหรือกู้ไม่ผ่านในที่สุด หากภาระหนี้สินที่มีทั้งหมดเกินกว่า 40% ของรายได้รวมทั้งหมด
2.ผ่อนสินค้าผ่านบัตรต่างๆ ต้องรีบเคลียร์ให้หมด ปัจจุบันนอกเหนือจากบัตรเครดิตแล้วยังมีบัตรสำหรับผ่อนชำระสินค้าอื่นๆ ซึ่งควรรีบเคลียร์ให้หมด มิฉะนั้นก็จะถูกนำมาพิจารณาเวลาให้สินเชื่อด้วยเช่นกัน
3.จะยื่นกู้ซื้อบ้านควรเช็คเครดิตบูโรก่อน บางคนมีหนี้หรือค้างชำระหนี้โดยไม่รู้ตัว เมื่อยื่นขอกู้แบงก์จะตรวจสอบข้อมูลมานังเครดิตบูโรซึ่งเครดิตบูโรจะเก็บรวบ รวมข้อมูลการชำระสินเชื่อหรือบัตรเครดิต อันประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคลและประวัติการชำระสินเชื่อ ทั้งวงเงินยอดค้างและประวัติการผิดนัดชำระหนี้ในแต่ละสิ้นเดือนย้านหลังไม่ เกิน 36 เดือน
หากผู้ขอสินเชื่อมีประวัติการชำระสินเชื่อที่ไม่ดี มีการค้างชำระหรือผิดนัดชำระ หรือแม้กระทั่งไม่เคยมีประวัติสินเชื่อกับสถาบันการเงินใดเลย โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็จะมีน้อยลง หรือถึงขั้นไม่อนุมัติสินเชื่อให้ก็เป็นได้
4.ผ่อนรถยนต์คันแรกอยู่ต้องคิดให้ดีก่อนจะกู้ซื้อบ้าน สาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่แบงก์ปฏิเสธการให้สินเชื่อก็เนื่องจากผู้กู้มีภาระ ติดผ่อนชำระรถยนต์จากโครงการรถคันแรก ดังนั้นก่อนจะซื้อบ้านต้องคิดให้ดีหรือลองทำ Pre-approve กับสถาบันการเงิน เพื่อดูความสามารถในการชำระหนี้ว่ายังผ่อนบ้านเพิ่มได้อีกหรือไม่
5.อย่าค้ำประกันใครง่ายๆ เพราะสถาบันการเงินจะนำมาพิจารณารวมเป็นภาระหนี้ของคุณด้วย ทำให้ความสามารถในการกู้ลดลง เช่นเดียวกับบัตรเครดิตหรือบัตรผ่อนสินค้าอื่นๆ