เรื่องที่คุณอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับวัน D-Day
10. สถานการณ์หนักหน่วงที่สุด
กองทัพที่เจอศึกหนักที่สุดก็คือกองทัพอเมริกาที่หาดโอมาฮา ซึ่งก็คือกองพลทหารราบที่ 1 ได้รับการสนับสนุนจากรถถังเพียง 5 คันเท่านั้น และต้องมาเจอกับกองทัพเยอรมันที่มีประสบการณ์โชกโชนจากกองพลที่ 352 ถึงจะได้รับการยิงสนับสนุนจากเรือระดมยิง ก่อนการยกพลขึ้นบกอย่างหนักหน่วง แต่กำลังของเยอรมันส่วนใหญ่ ก็แทบไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขนาดที่ว่าเกือบจะถอนตัวเลยทีเดียว แต่ก็สามารถยึดหาดได้สำเร็จ
9. ศึก 2 ด้านของนาซี
8. อะไรคือ D-DAY
7. ความเสียหาย
ทหารสหพันธมิตรสูญเสียทหารมากกว่า 10,000 นาย โดยเสียจาก “หาด โกลด์ จูโน ” และ “สวอร์ด” เสียชีวิตสูญหายกว่า 3,000 นาย และทางด้านหาด “ยูท่าห์” เสียชีวิตและสูญหายไม่ถึง 300 นาย ถือว่าการป้องกันทางด้านนี้ไม่หนาแน่นหนัก ส่วนที่เจอศึกหนักที่สุดเป็น “หาดโอมาฮา” ศึกส่วนนี้กองทัพสหรัฐสูญเสียทหารไปมากกว่า 2,000 นาย และส่วนนี้ยังเป็นส่วนที่ทหารเยอรมันมีการวางกำลังแข็งแกร่งที่สุด โดยความเสียหายถือว่าต่ำกว่าที่ประเมินไว้มาก
6. การป้องกันของเยอรมัน
5. เหตุที่ D-DAY สำเร็จ
เนื่องจากในขณะนั้นกองทัพเยอรมันหรือ “นาซี” ขนอาวุธยุทโธปกรณ์ดีๆ ไปรบกับพี่หมีขาว (รัสเซีย)หมดแล้ว แถมในขณะนั้นก็เสียกำลังทหารไปไม่น้อย เหมือนพญาอินทรีปีกหักก็มิปาน ทางฝั่งนี้ก็เลยไม่มีอาวุธดีๆ เท่าไหร่นัก จึงไม่ยากที่กองทัพของพันธมิตรจะยึดได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่ แถมยังปลดปล่อยปารีส และจบสงครามในเวลาต่อมาอีกด้วย
4. รหัส
3. ใหญ่ที่สุด
2. กองกำลัง
1. กำหนดการจริง
หลายๆ คนอาจจะไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วกำหนดการเดิมของการเริ่ม “D-DAY” คือ ช่วงหน้าร้อนของปี 1942 หรืออีกนัยหนึ่งก็คือก่อนหน้าวัน D-day ที่เกิดขึ้นจริงๆ ถึง 2 ปี โดยเกิดจากความคิดของ ผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขณะนั้น นั้นก็คือ “นายพลดไวท์ ดี ไอเซนฮาวร์” ซึ่ง ประธานาธิบดีรูสเวลท์ ก็เห็นด้วยเป็นมั่นเหมาะ แต่ก็มีตัวปัญหาในขณะนั้นก็คือ นายกรัฐมนตรีเชอร์ชิลล์ ของอังกฤษ ทำให้แผนการล่าช้าไปถึง 2 ปี ผมว่าหากเริ่มแผนเร็วสงครามก็คงจบเร็วกว่านี้มากและการสูญเสียอาจจะน้อยกว่านี้แน่นอน
โพสท์โดย: I sea u