หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วิถีซาไก

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

หมู่บ้านซาไก 
อยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านแหร ห่างจากตัวจังหวัดยะลาไปทางเบตงประมาณ 80 กิโลเมตร ด้านขวามือ มีทางเข้าไปยังหมู่บ้านที่อาศัยของชนเผ่าซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม "เงาะซาไก” เดิมดำรงชีวิตอยู่ด้วยการหาของป่า มีความชำนาญในด้านสมุนไพรและเป่าลูกดอกล่าสัตว์ บ้านเรือนของซาไกเดิมสร้างด้วยไม้ไผ่ มุงหลังคาจาก ต่อมา กรมประชาสงเคราะห์ได้พัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้ โดยรวบรวมชาวซาไกมาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกัน และให้มีอาชีพทำสวนยางและได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีขอใช้คำว่า "ศรีธารโต” ให้ทุกคนใช้เป็นนามสกุล ปัจจุบันมีชนเผ่าซาไกที่ยังคงอาศัยอยู่บ้าง แต่บางส่วนได้แยกย้ายไปทำงานที่อื่น 


ภาษาซาไก 
ภาษาเป็นเครื่องมือที่ใช้สื่อความหมายของมนุษย์ก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ บอกถึงความเป็นมาของวัฒนธรรม มีผู้สนใจศึกษาเรื่อง ภาษาซาไกอยู่หลายท่าน พบว่า ลักษณะของคำที่ซาไกใช้อยู่บางคำยืมไปจากภาษามลายู โดยนำไปดัดแปลงเสียง คงไว้บ้าง ลักษณะของคำภาษาซาไก มีลักษณะคำพูดโดยมากจะออกเสียงเลียนธรรมชาติ กล่าวคือคำพูดยืมไปจากภาษามลายู มีการนำไปดัดแปลงเสียง บ้างก็คงไว้ลักษณะเสียงออกจากลำคอ ลักษณะบางคำก็มีเสียงขึ้นจมูก ดังเช่นภาษาซาไกกลุ่มกันซิว 

 


ยาสมุนไพร 
ยาสมุนไพรของชาเผ่าซาไก ปัจจุบันได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวาง รู้จักกันดีในกลุ่มที่นิยมยาสมุนไพร ดูจากการจจำหน่ายสมุนไพรของซาไกเลี้ยงครอบครัว ปัจจุบันตัวยาสมุนไพรหายากขึ้น เพราะป่าเริ่มหมดไป ป้าอ้อยใจ ศรีธารโต ซึ่งมาอายุ ๗๐ ปี เป็นผู้ใหญ่เป็นหลักของคนในเผ่าซาไก หน้าตายิ้มแย้ม อารมณ์ดีตลอดเวลา เป็นคนแก่ที่น่ารักของเผ่า รู้จักพูดคุยกับคนอื่น ยังรักษาตัวเองด้วยยาสมุนไพรเล่าว่าการหาตัวยาสมุนไพรในปัจจุบันนี้ต้องเข้าป่าลึกๆ ใช้เวลานาน ไปแต่ละครั้งต้องนำกลับมามากๆ รู้จักนำพันธ์ยาสมุนไพรมาปลูกและขายให้แก่ผู้ต้องการด้วย ยาสมุนไพรเดิมมีเป็น ๑๐๐ ชนิดแต่ปัจจุบันนี้หาไม่ได้แล้ว และตอนนี้มีอยู่ประมาณ ๒๕ ชนิด ที่ขึ้นชื่อของชนเผ่า และขายดีมาก ได้แก่ ยาริดสีดวงทวาร ยาหัวไขเหล็ก ยาแก้หอบ ยาให้มีลูก ยาคุมกำเนิด ตัวยามีประโยชน์มาก ไม่มีผลข้างเคียง เป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากประชาชนอำเภอธารโต อำเภอใกล้เคียง รวมไปถึงต่างจังหวัดอื่นๆ กลุ่มคนที่นิยมสมุนไพร เป็นที่รู้จักกันดีในสรรพคุณของยาดังกล่าว ปัจจุบัน ชนเผ่าซาไกอยู่ในสังคมเมือง ได้ปรับตัวเอง ยอมรับความเจริญด้านการแพทย์ จึงรักษาตัวเองโดยใช้ยาสมุนไพรพร้อมๆ กับรักษาตัวเองเมื่อยามเจ็บป่วย ที่โรงพยาบาล เช่น ฝากครรภ์ คลอดลูก และอื่นๆ

ชนเผ่าซาไก ทางภาคใต้ของไทย :


ประวัติอาวุธประจำกาย 
ซาไกโดยพื้นฐานยังชีพด้วยการหาหัวเผือก หัวมัน ผลไม้ สัตว์ และ ของป่า มีอาวุธใช้ในการล่าสัตว์และป้องกันตัวที่เรียกว่า "กระบอกตุด" ป้าอ้อยใจ ศรีธารโต อายุประมาณ 70 กว่าปี ได้เล่าว่ารู้จักกระบอกตุดมาตั้งแต่จำความได้เป็นอาวุธประจำกายของผู้ชายที่ใช้ล่าสัตว์ และป้องกันตัว มีความสำคัญมาก จะติดกับตัวอยู่เสมอเมื่อออกจากบ้าน ในสมัยที่แม่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ชาวพื้นเมืองเขาชอบกระบอกตุด ได้ขอพวกเราแต่พวกเราไม่ให้ ซึ่งพวกเขาต้องการมันมาก จนมีเรื่องราวใหญ่โต ทะเลาะกับชาวบ้าน พวกเขาขู่ อ้างว่ามีอาวุธร้ายแรง จะจับบ้างถ้าไม่ให้พวกเขา อ้างว่าผิดกฎหมายด้วย ต่อมาถูกยึดอาวุธประจำกายไปหมดและมีการจับกุมคนที่มีอาวุธด้วย พวกเรากลัวมาก จนเป็นสาเหตุให้หลบหนีเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย และสร้างกระบอกตุดขึ้นมาใหม่

ซาไก

สังคมซาไก

ชนเผ่าซาไกมีชีวิตที่เรียบง่าย ชอบอยู่เป็นกลุ่ม ภายในกลุ่มจะมีความรักและความสัมพันธ์กันเป็นเครือญาติทั้งหมด ผู้ที่แต่งงานแล้ว จะรับกันแบบผัวเดียวเมียเดียว ไม่สำส่อน โดยให้สามีเป็นผู้นำตัวอย่างความสัมพันธ์ในกลุ่มชนเผ่าซาไก มีครอบครัวระดับผู้นำในกลุ่ม ชื่อ นายหลุด ศรีธารโต เป็นหัวหน้ากลุ่มกันซิว มีลูกชายชื่อ คมกริช ศรีธารโต แต่งงานกับ เบญจวรรณ ศรีธารโต ได้ลูกสาวนายกล่อม ศรีธารโต นายกล่อมเดิมอยู่ที่พัทลุง กลุ่มเต็นแอ๊น ได้เร่ร่อนในป่าเยี่ยมญาติไปในที่ต่างๆ จนพบกับนายอ้อยใจ ศรีธารโต มีลูกด้วยกัน ๒ คนเป็นหญิง คนหนึ่งอยู่มาเลเซียไปได้สามีเป็นทหารที่นั่น ซึ่งเป็นชนเผ่าเดียวกัน สำหรับนายอ้อยใจ ศรีธารโต ก็เป็นญาติกับนายหลุด ศรีธารโต ด้วยจากการที่มีเครือญาติอยู่ทั้งสองประเทศ ทำให้พวกเขาไป ๆ มา ๆ ระหว่างชายแดนไทยกับมาเลเซีย เขาเข้าออกมาเลเซีย อย่างสบาย เพราะทางมาเลเซีย ถือว่าพวกเขาเป็นชนชั้นบรรพบุรุษของชาวมาเลย์ ทางการมาเลเซียจัดที่อยู่กินให้ แต่ไม่ให้กรรมสิทธ์ ส่งเสริมการศึกษาในระดับสูง และมีคนที่เรียนจบปริญญาแล้ว สามารถประกอบอาชีพและรับราชการได้ เขาจึงต้องออกประเทศมาเลเซียได้สะดวกไม่มีการตรวจค้นจับกุมหนังสือเดินทาง ปัจจุบันทางการมาเลเซียให้ชนเผ่าซาไกมีบัตรประจำตัวแล้ว เดิมชนเผ่าซาไกไม่มีศาสนา เชื่อถือโชคลาง ภูติผีปีศาจ ในการล่าสัตว์มีพิธีกรรมปัดรังควานก่อนทุกครั้งเป็นการขอขมาดวงวิญญาณ ปัจจุบันยังเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจอยู่ มีการกล่าวคาถา เสกมนต์ด้วยหัวไพล บ่อย ๆ เพื่อขับไล่ผี ต่อมาเมื่อติดต่อกับคนในพื้นที่มากขึ้น ทำให้พวกเขารู้จักเริมไหว้พระไปร่วมทำบุญวันสาทไทย เพื่อจะได้ของกินมาก ๆ โดยไปร่วมทำกิจกรรมการ "ชิงเปรต" ตามวัดต่างๆ เช่น วัดเนรัญชราวาส อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ทุก ๆ วันฟ้าสว่าง เขาจะตื่นขึ้นมากินอาหารเช้า คือ "ก้อปี้" ผู้ที่ไปทำงานนอกหมู่บ้านไกล ๆจะนำเสบียงไปด้วยนั่นคือ "ข้าวห่อ" จะมีกับข้าวอย่างเดียว เช่น ปลาเค็มปิ้ง ครอบครัวที่พอมีเงินก็จะกินไข่เจียว เขาจะออกจากบ้านตอนเช่าและจะกลับมาในช่วงบาย เวลาตอนเย็นของทุก ๆ วันจะจับกลุ่มนั่งพูดคุยกันดื่มสุรา (เหล้าขาว) ไปด้วย วันที่ไม่มีงานทำนอกหมู่บ้า เขาก็จะนั่งพูดคุยกัน และดื่มสุรา มีบางคนขยันก็ทำเครื่องมือเครื่องใช้ด้วยไม้ไผ่ เช่นกระบอกตุด พร้อมทั้งอุปกรณ์ ผู้ที่ร่วมดื่มสุราด้วยกันบางครั้งก็ทะเลาะกันในเวลาเมา เช่น เรื่องการแบ่งเงินค่าจ้างการทำงานรับเหมา คนที่ไม่มีงานทำก็ขอเพื่อนไปทำงานด้วย พอหายเมาก็ดีกันอย่างเดิม เหมือนกับว่าไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนและนั่งพูดคุยกันจะสูบบุหรี่ซึ่งเป็นใบจากกับยาเส้นบางคนก็ติดยาสูบมาก ๆ เช่น นายบัง ศรีธารโต เขาทำไปป์สูบยาจากลูกหมากโดยนำลูกหมากที่แก่จัดมาปอกเปลือกออกให้หมด แล้วเจาะรู ๒ รูด้านบนเจาะรูกว้างสำหรับใส่ยาเส้น และอีกหนึ่งรูปเล็กๆ อยู่ด้านข้างสำหรับใส่ไม้ไผ่ขนาดเล็กไว้เป็นที่ถือ(จับ) เวลาสูบจะฉุน(กลิ่นแรง) มาก เดิมในหมู่บ้านจะมี "ศาลาซาไก" เป็นสถานที่พักผ่อนและนั่งเล่นของชนเผ่าซาไก จะดูโทรทัศน์ด้วยกันซึ่งได้รับบริจาคมา ๑ เครื่อง แต่ปัจจุบันมีการรื้อศาลาออกไป เป็นที่ตั้งของอาคารศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เผ่าซาไก สำหรับโทรทัศน์ เลยต้องไปตั้งที่บ้านของนายคมกริช ศรีธารโต ลูกเขยของนายกล่อม ศรีธารโต ส่วนใหญ่จะมีกลุ่มเด็ก ๆ ซาไก จะไปดูอยู่เป็นประจำ 

การศึกษา

 

เดิมชนเผ่าซาไกไม่รู้หนังสือ ไม่มีภาษาเขียน มีแต่ภาษาพูดคือภาษาซาไก "กันซิว" ไม่รู้จักนับ วัน เดือน ปี อายุของตัวเอง ต้องถามคนอื่นซึ่งเป็นคนรุ่นเดียวกัน หรือไม่ก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เช่น นายกล่อ ศรีธารโต จะบอกถึงตอนที่เขาจำความได้ว่า มีเครื่องบินเต็มท้องฟ้า (สมัยสงครามโลก ครั้งที่ ๒ พ.ศ.๒๔๘๘) ตอนนั้นเขาเกิดแล้ว มักจำเหตุการณ์แล้วเอามาสัมพันธ์กับตัวเองการนับอายุต้องอาศัยการกะประมาณ วันเดือนปี เกิด จากเจ้าหน้าที่ทางราชการ ซึ่งได้คิดคาดคะเนจากคำบอกเล่าของเขาเองและผู้ใกล้ชิด ปัจจุบันทุกครอบครัวมีสำเนาทะเบียนบ้านเรียบร้อยแล้วปี ๒๕๑๖ ชาวซาไกได้เรียนหนังสือ การจัดกลุ่มเรียนหนังสือ มีทั้งเด็กเล็ก และเด็กวัยรุ่น อายุ ๑๓ - ๑๘ ปี ให้เรียนร่วมกัน การที่เด็กวัยรุ่นถูกจัดให้มานั่งเรียนกับเด็ก อายุ ๖ - ๗ ปี ทำให้รู้สึกอับอายไม่อยากเรียน จึงลาออกกลางคันไม่จบประโยคการศึกษาภาคบังคับ เด็กชนเผ่าซาไกที่จบประถมศึกษาปีที่ ๔ มีไม่กี่คนเพราะพ่อแม่เข้าป่าไปครั้งละนานๆ หลายวันติดต่อกัน และต้องพาลูกไปด้วย เด็กขากเรียนบ่อยๆ เรียนไม่เข้าใจ ตามเพื่อนไม่ทัน บางคนจึงหยุดเรียนไปเลย มีลูกชนเผ่าซาไก ๒ ครอบครัวที่ได้รับการศึกษาค่อนข้างดี คนหนึ่งเป็นผู้หญิงชื่อ ศิริพร แซ่ผ่าง เป็นลูกผสมระหว่างพ่อซาไก ชื่อนายปูเต๊ะ แซ่ผ่าง และแม่เป็นชาวพื้นเมือง ชื่อนางเอียด ขวัญนุ้ยได้ลาออกระหว่างอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เพราะมีคนมารับรับไปเลี้ยงดู อีกคนหนึ่งเป็นผู้ชายชื่อสมนึก ศรีธารโต พ่อแม่เสียชีวิตอาศัยอยู่กับญาติ เรียนจบระดับชั้นประถมศึกษาแล้วเข้าเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนประจำอำเภอธารโต แต่ก็เรียนไม่ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ เท่านั้น ก็ต้องลาออกกลางคัน เพราะผู้ปกครองไม่สนับสนุน และต้องการให้ออกไปทำงานช่วยเหลือครอบครัว

 

 

ชนเผ่าซาไก ทางภาคใต้ของไทย :


 

 

จัดวิวาห์ซาไก

 
 
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจชาวบ้านรู้! เพจดังแฉบ่อนพนันสารคาม เปิดเล่นโจ๋งครึ่ม 3 วันแล้ว ไม่กลัวกฎหมายสื่อนอกอวย ทหารไทยสุดเจ๋ง ไม่ใช่แค่รบ แต่ถล่ม 'เมืองสแกมเมอร์' พังท่อน้ำเลี้ยงโจรได้สิ้นซากไฟในอย่าน่าออก ไฟนอกอย่าน่าเข้าสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นวอลเลย์บอลชายไทย เฉือนชนะ อินโด คว้าทองซีเกมส์ในรอบ 8 ปี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หุ้น Facebook ลงเกือบ 30% ในคืนเดียวอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีให้คะแนนไทยในการจัดซีเกมส์ 100 เต็ม 10 พร้อมส่งกำลังใจถึงทีมชาติช้างศึกหลังพลาดเหรียญทองเลขเด็ด "คำชะโนด (ปกเขียว)" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..ส่องเลย เลขไหนมาแรง!!ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ตั้งกระทู้ใหม่