การประท้วงเชิงสัญลักษณ์ (ที่โลกลืม)
ภัควดี ไม่มีนามสกุล
การประท้วงเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มต่อต้าน FTA ไทย-สหรัฐ ที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อนรับประหาร ได้รับการกล่าวขวัญและยกย่องในหมู่ของปัญญาชนและชนชั้นกลางพอสมควร หลังจากนั้นกลุ่มต้าน FTA มาอีกครั้ง คราวนี้กลับมาต้านข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) แต่ต้านไม่ได้ จึงพากันกราบกรานศาลหลักเมือง-เผาบัญชีหนังหมาสาปแช่ง แสดงให้เห็นถึงการย้อนไปหาภูมิปัญญาดึกดำบรรพ์ในการต่อต้านกับกระแสโลกาภิวัฒน์ได้อย่างชัดเจน
ลุง “สุรินทร์ สุรินทร์ก้อน” สู้กับอุทยาน
เดือนเมษายนปี 2539 นายสุรินทร์ สุรินทร์ก้อน ชาวบ้าน จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยเพื่อนร่วมอุดมการณ์อีก 8 คน เดินทางมาทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกเขตอุทยานเขาแหลม ซึ่งทับที่ทำกินของชาวบ้าน โดยใช้วิธีกรีดเลือดเขียนคำร้อง นอกจากนี้ลุงสุรินทร์ได้ใช้น้ำมันเบนซินราดตัวและเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา (แต่ยังไม่มีการเผาตัวจริงๆ) ปี 2540 ลุงสุรินทร์กลับมาปีนต้นไม้ขู่ตัดนิ้วก้อยเพื่อเอาเลือดมาเขียนหนังสือประท้วงรัฐบาล ครั้งนี้ตัดนิ้วก้อยจริง แต่ถูกนำส่งโรงพยาบาลต่อนิ้วและยังใช้ได้ครบ 5 นิ้วเหมือนเดิม จากนั้นในปี 2543 ลุงสุรินทร์กลับมาอีกครั้ง ด้วยการประท้วงเชิงสัญลักษณ์ปีนต้นโพธิ์หน้าทำเนียบรัฐบาล ถือมีดยาว 1 ฟุตขู่ตัดนิ้วตัดแขนหากไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ถูกเกลี้ยกล่อมจนยอมลงมาจากต้นโพธิ์
"บาลทิพย์" ครอบครัวอารยะขัดขืน
ในเดือนเมษายนปี 2541 นายพรหมเนตร บาลทิพย์ พื้นเพเดิมเป็นชาว จ.พัทลุง ได้จูงลูกชายวัย 4 ขวบ เดินประท้วงถือป้ายซึ่งมีข้อความว่า “รับจ้างทำงานทั่วไป” แห่ไปรอบตัวเมืองหาดใหญ่ โดยตั้งต้นการเดินของานทำที่หน้า สนง.ประชาสัมพันธ์เขต 6 ถือป้ายของานทำไปตามถนนสายสำคัญ ๆ ของอำเภอหาดใหญ่ เพื่อจะของานทำ หลังจากที่นายพรหมเนตรและภรรยาตกงานมานานกว่า 3 เดือน จนครอบครัวไม่มีเงินที่จะมาซื้อข้าวปลาอาหารรับประทาน และยังมาถูกเจ้าของบ้านเช่าไล่ที่อีก เพราะว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน
ราดเอง เหม็นเอง
เดือนสิงหาคม 2544 นายช่วย คชสิทธิ์ ชาว จ.กาญจนบุรี เป็นแกนนำชาวบ้านประมาณ 100 คน มาชุมนุมประท้วงที่บริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขาท่าม่วง เพื่อร้องขอเงินกองทุนคืน โดยผู้ชุมนุมเปิดปราศรัยโจมตีธนาคารออมสินอย่างเผ็ดร้อน พร้อมกันนั้น นายช่วย แกนนำได้นำถุงอุจจาระขนาดใหญ่ไว้บนหัวสร้างความสงสัยแก่ประชาชนที่ผ่านไปมา (ลุงช่วยระบุว่าได้อุจจาระใส่หม้อเก็บไว้นานกว่า 7 วันเพื่อให้ได้ปริมาณมากพอ) และก็คาดการณ์คิดไปกันว่า “เหยื่อ” ของอุจจาระถุงนี้ คงจะเป็นผู้บริหารคนใดคนหนึ่งของธนาคารออมสินแน่ๆ
ขี้หมูราดตัว
เดือนสิงหาคม ปี 2544 เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูในโครงการของ ธกส.จำนวนหนึ่ง ชุมนุมหน้าศาลากลางจ.นครปฐม เพื่อเรียกร้องให้ทางการเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่ได้รับจากการเข้าร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงหมูเพื่อการส่งออกโดยในระหว่างการชุมนุมประท้วง นางจำลอง สุขศรี ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสุกรเพื่อการส่งออกรายหนึ่ง ที่กู้เงินจาก ธกส.มาเพียง 2.7 แสนบาท แต่ยอดหนี้ที่ได้รับแจ้งจาก ธกส.กลับมีสูงถึง 1.4 ล้านบาท ได้ใช้ขี้หมูที่เตรียมมาราดบนตัวพร้อมประกาศว่าจะขอความเป็นธรรมกับรัฐบาลในเรื่องนี้ด้วย
"ลิ่วล้อทักษิณ" ผู้เห็นแววตา "อนาคิน"
ของ "สุรพล นิติไกรพจน์" ในเดือน มีนาคม 2549 ก่อนการรับประหารไม่กี่เดือน ในขณะที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกมาประท้วงขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาเสนอเรื่อง มาตรา 7 ทำให้กลุ่ม “คาราวานคนจน” กลุ่มคนยากจนผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ กลุ่มแรกที่ออกมาปกป้องประชาธิปไตย จากภาคเหนือและภาคอีสาน กว่า 500 คน เดินทางมาประท้วงนายสุรพล ด้วยการโกนหัวจำนวน 72 คน เนื่องจากเห็นว่าเป็นความเห็นที่ขัดต่อครรลองของระบอบประชาธิปไตยอีกทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงด้านการเมืองการปกครอง ควรแสดงความสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากระบอบประชาธิปไตย
เผาตัวไล่ประธาน “ยุทธ ตู้เย็น”
เดือนมีนาคม ปี 2551นายแมน ตรวจมรรคา ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดริมทางหน้ารัฐสภา จากนั้นเขาได้ถอดเสื้อและกางเกงออกจนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวแล้วตะโกนด่ารัฐบาล และขอให้ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานรัฐสภาในขณะนั้นลาออกไป พอสิ้นเสียงนายแมนจึงยกขวดน้ำมันเทราดตัวเองจนชุ่มก่อนจะจุดไฟแช็กเผาร่างตัวเองทันที นายแมนได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เหตุการณ์นี้ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม ร.ต. ฉลาด วรฉัตร ซึ่งนั่งประท้วงอยู่บริเวณตรงข้ามหน้ารัฐสภา ได้ความว่า เห็นนายแมน ซึ่งมักชอบมาบริเวณนี้เป็นประจำ เดินไปมาและพูดจาต่างๆ นานา จับใจความไม่ได้ จึงไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมีคนมาบอกว่านายแมนเผาตัวเองโดยไม่ทราบสาเหตุ เพื่อนร่วมงานของแมนกล่าวว่า บางวันแมนจะขี่รถจักรยานยนต์มาจอด ขึ้นไปยืนบนรถแล้วเป่านกหวีดให้รถคันอื่นหยุด ชอบแต่งกายคล้ายทหาร และชอบขับรถไปที่รัฐสภาตะโกนด่านักการเมืองและคณะปฏิวัติคณะต่างๆ รวมทั้งเคยตะโกนขับไล่พล.อ.สุจินดา อาการทางประสาทมักจะกำเริบทุกวันพระ แต่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อผู้ใด
ไม่ต้องจ้าง กูอยากปา (1)
เดือนกุมพาพันธ์ ปี 2553 วิวิทวิน เตียวสวัสดิ์ พ่อค้าเนื้อหมูย่านลาดพร้าว ใช้อุจาระโจมตีบ้านนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผลแห่งการขัดขืนอารยะของเขา ศาลแขวงพระนครใต้ได้สั่งพิพากษาจำคุก 10 วัน แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 5 วัน เนื่องจากจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนจึงให้เปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นกักขังแทน 5 วัน (ถูกนำตัวไปนอนเล่นที่ สน.ทองหล่อ เป็นเวลา 5 วัน) ก่อนก่อเหตุวิวิทวินเคยร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าข้างบ้านได้สูบบุหรี่แล้วควันบุหรี่ไปโดนลูก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ดำเนินการให้ จึงไปร้องเรียนกับทาง น.1 ว่าให้ดำเนินการในเรื่องนี้ให้ แต่ไม่เห็นตำรวจดำเนินการ ก็เลยกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถ้าหากว่าไม่ดำเนินการให้จะไปปาอุจจาระใส่บ้านนายกรัฐมนตรี และเขาก็ได้ปฏิบัติตามคำพูดทุกประการ
ไม่ต้องจ้าง กูอยากปา (2)
ต้นเดือนมีนาคม ปี 2553 สุรชัย เกิดดี อดีตพนักงานขับรถธนาคารทหารไทย บุกปาอุจจาระที่พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนจะยืนนิ่งอหิงสาให้ตำรวจจับนำตัวไปสอบสวน โดยทิ้งประโยคเด็ดไว้กับผู้สื่อข่าวว่า "ผมมีสิทธิ์ไม่ตอบ เป็นลูกผู้ชายพอ ทำแล้วไม่หนี" โดยสาเหตุการประท้วงครั้งนี้ของสุรชัย เขาให้สาเหตุว่า เนื่องมาจากเกิดความเครียดที่มีสัญญาณคลื่นในอากาศมารบกวน ทำให้เกิดอาการปวดหัวและเครียดอย่างหนัก เคยร้องเรียนกับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2541 แต่เรื่องดังกล่าวก็นิ่งเงียบไป โดยสุรชัยระบุว่าคนที่เป็นเหมือนตนที่ถูกคลื่นสัญญาณรบกวนคือ น.ส.จิตรลดา ตันติวณิชยสุข พกอาวุธมีดไล่แทงนักเรียนหญิงที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์