สุดยอดวิธีลดความอ้วน
มารู้จักอาหารและวิธีการกินแปลกพิสดารที่คนสรรหามารับประทานเพื่อสนองตอบวัฒนธรรมคลั่งไคล้การลดความอ้วน ไม่ว่าจะเป็นการกินสารหนู น้ำส้มสายชู หรือแม้แต่ไข่พยาธิ ของเหล่านี้จะช่วยให้เราผอมลงได้อย่างไร
คงต้องยอมรับว่าในยุค 2-300 ปีมานี้ แม้แต่ละชาติจะนิยมรูปแบบความสวยงามหรือหล่อเหลาที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ทุกชนชาติในโลกเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นความสวยงามน่ามอง ก็คือรูปร่างที่สมส่วน ไม่มีไขมันส่วนเกิน ไม่ว่าจะเป็นในผู้ชายหรือผู้หญิง และนี่ก็คือที่มาของวัฒนธรรมหนึ่งที่อยู่คู่กับชาวโลกมานับตั้งแต่เราเริ่มมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ นั่นก็คือการลดความอ้วน
ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของแวดวงการลดความอ้วน มีหลักสูตร กรรมวิธี และเมนูพิสดารมากมายที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่กังวลกับน้ำหนักของตัวเอง สามารถมีรูปร่างผอมบางได้สมใจ บางวิธีก็ได้ผล แต่มีอีกหลายวิธีที่ถึงแม้จะทำให้น้ำหนักลดลงมาได้ แต่ก็เป็นการผอมบางที่แถมมากับโรคภัย มากกว่าเป็นความสวยงามแบบสุขภาพดีตามที่ควรจะเป็น แถมหลายๆวิธียังเป็นวิธีที่แปลกประหลาดจนหลายๆคนสงสัยว่า บรรดาคนที่ลดความอ้วน ทำสิ่งเหล่านี้กันเป็นกิจวัตรประจำวันได้อย่างไร
หนึ่งในวิธีลดความอ้วนที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และดูผิดปกติมากที่สุด ก็คือวิธีที่เรียกว่า "Chew and Spit" หรือเคี้ยวแล้วบ้วนทิ้ง ซึ่งก็เป็นขั้นตอนตรงตามชื่อ นั่นก็คือการใช้วิธีเคี้ยวอาหาร แต่แทนที่จะกลืนลงไปตามปกติ ให้บ้วนกากอาหารที่ผ่านการเคี้ยวแล้วออก ซึ่งเชื่อกันว่าวิธีนี้เป็นการกินเฉพาะสารอาหารที่จำเป็น โดยคายของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการทิ้งไป วิธีการนี้ยังทำให้ผู้ลดความอ้วนขับถ่ายน้อยมาก เพียงสองสัปดาห์ครั้ง ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าส่งผลเสียต่อร่างกายมากเพียงใด ทั้งในแง่ที่ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และยังทำให้ระบบทางเดินอาหาร รวมถึงระบบขับถ่ายผิดปกติอีกด้วย
อีกวิธีที่น่าขนลุกยิ่งไปกว่า และไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนกล้าทำจริงๆ นั่นก็คือการกินแคปซูลที่บรรจุไข่ของพยาธิตัวตืด เพื่อให้พยาธิเข้าไปเติบโตในท้องและคอยดูดซึมสารอาหารที่เจ้าของร่างกายกินเข้าไป วิธีการนี้แน่นอนว่าจะทำให้ผู้ที่ลดความอ้วนสามารถตามใจปากได้อย่างเต็มที่ เพราะมีผู้ช่วยกินหลายคนอยู่ในท้อง และเมื่อได้น้ำหนักตัวเป็นที่น่าพอใจ ผู้ที่เลือกลดความอ้วนโดยวิธีนี้ก็จะรับประทานยาถ่ายพยาธิเพื่อนำเอาผู้ช่วยเหล่านี้ออกจากร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าการมีพยาธิอยู่ในตัวไม่ส่งผลดีกับร่างกายไม่ว่าจะในทางใดทั้งสิ้น โดยผลข้างเคียงของวิธีลดความอ้วนแบบนี้ มีตั้งแต่อาการปวดศีรษะ ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ไปจนถึงเยื่อหุ้มสมองอักเสบและภาวะสมองเสื่อมได้
สิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้อีกประการที่เหล่าผู้ต้องการลดน้ำหนักกล้ากินเพื่อหุ่นที่เพรียวบาง ก็คือสารหนู ที่เรียกได้ว่าเป็นยาลดความอ้วนยุคแรกเริ่ม โดยเชื่อกันว่าการกินสารหนูจะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานเร็วขึ้น คล้ายกับการกินแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ซึ่งการรับสารหนูในปรมาณน้อยๆอาจจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างฉับพลัน แต่ผู้ลดความอ้วนจำนวนมากนิยมกินยาลดความอ้วนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ หรือกินเกินชนาดที่ระบุในฉลากเพื่อให้เห็นผลเร็วขึ้น โดยการรับสารหนูเกินขนาด อาจทำให้เสียชีวิตได้ในทันที ขณะที่การกินสารหนูปริมาณน้อยๆอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เป็นโรคตับ เบาหวาน และมะเร็งได้ในอนาคต
สำหรับวิธีลดความอ้วนแบบแปลกประหลาดวิธีสุดท้าย เป็นสูตรลดความอ้วนยอดนิยมของผู้ดีอังกฤษในยุคศตวรรษที่ 19 นำเทรนด์โดยลอร์ดไบรอน กวีหนุ่มรูปหล่อชื่อดังแห่งยุค นั่นก็คือการดื่มน้ำส้มสายชู รวมถึงใช้น้ำส้มเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารแทบทุกชนิด เช่นกินมันฝรั่งแช่ในน้ำส้มสายชู โดยลอร์ดไบรอนเชื่อว่าวิธีนี้เป็นการ "ดีท็อกซ์" ร่างกาย และช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่ารวดเร็ว แต่แน่นนอนว่าอาหารที่มีความเป็นกรดสูงอย่างน้ำส้มสายชู ไม่ใช่ของที่เราควรจะกินในปริมาณมากๆ ผลข้างเคียงของการลดความอ้วนด้วยวิธีนี้จึงมีตั้งแต่ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน นอกจากนี้ การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเมื่ออายุเพียง 36 ปีของลอร์ดไบรอนเจ้าของสูตร ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกิดจากการที่เขาลดความอ้วนมากเกินไปอีกด้วย
โพสท์โดย: moses